ประสาใจ
สวัสดีปีกระต่าย
ผมมีความรู้สึกว่า โลกหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิม (ไม่ยอมรับว่าตัวเองแก่ลงไปกว่าเดิม) เผลอไปแผลบเดียว
สิ้นปีเสือขึ้นต้นปีกระต่ายอีกแล้ว
เทศกาลแห่งความสุขเช่นนี้ การโลดแล่นของหัวใจคงไม่พ้นหาเรื่องสนุกสนานมาเล่าสู่กันฟังสักเรื่องสองเรื่อง และเรื่องต่อไปนี้ คือ เรื่องเล่าขานจาก กีย์ เดอ โมปาซัง
ดังได้ยินมา ตทากาเล...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งร้องตะโกนด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
คืนวันคริสต์มาส...! ไม่เอาแล้ว...! ฉันจะไม่ยอมฉลองมันอีกแล้ว...!
ผู้ส่งเสียงร้อง คือ อองรี ตังปลีเอร์ เขาเป็นผู้ชายรูปร่างกำยำ ซุ่มเสียงของเขาเกรี้ยวกราด แต่เป็นที่ขบขันระหว่างเพื่อนที่ได้ยิน
แกเป็นบ้าด้วยเรื่องอะไร ? คนหนึ่งถาม
อองรี นิ่งไปครู่ ก็เพราะการเลี้ยงฉลองคืนคริสต์มาสของฉัน เล่นงานฉันอย่างเต็มรักน่ะสิ เขายังมีน้ำเสียงกระแทกกระทั้น และจากนั้นมา ฉันก็กลายเป็นโรคกลัวคืนแห่งการฉลองเทศกาลนี้แบบถึงกึ๋น
เพื่อนๆ เริ่มเข้าใจ พร้อมกับเริ่มอยากรู้รายละเอียด
นี่พวกแกอยากจะรู้จริงๆ หรือ ? อองรี ถาม เมื่อได้ยินข้อเสนอให้เล่าสู่กันฟัง ก็ได้...
อองรี มองไปข้างหน้าเหมือนมองภาพอะไรสักอย่าง ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องของเขา
คริสต์มาสเมื่อ 2 ปีก่อน พวกแกคงจำได้ มันเป็นคืนแห่งความหนาวเย็นอย่างุรนแรง คนจนที่ไม่มีเสื้อผ้าเพียงพอกับอากาศต้องนอนตายคาถนน และพวกแกก็คงไม่ลืมว่าน้ำในแม่น้ำแซนต้องกลายเป็นน้ำแข็ง ก้อนน้ำแข็งบนทางเท้าดันความเย็นยะเยือกทะลุเกือกเข้าไปหาเท้า เจอหน้าใครก็บ่นว่าหนาวแทบใจขาดกันทั้งนั้น
คืนนั้น ฉันมีภารกิจสำคัญ ฉันปฏิเสธคำเชิญของใครต่อใครเพราะฉันต้องทำงานบนโต๊ะ ปฏิเสธอาหารมื้อซัพเพอร์
หลังจากกินอาหารค่ำเพียงคนเดียวเสร็จแล้ว ฉันก็กลับไปทำงาน
4 ทุ่มแล้วกระมัง สมาธิฉันเริ่มกระจุยกระจาย เสียงที่บ่งบอกชีวิตอันเริงร่าทั่วกรุงปารีสของเราดังลั่นอยู่ตามท้องถนน แม้กระทั่งเสียงอาหารตอนดึกก็ยังรบกวนสมาธิของฉัน ถึงกับหัวมึนตึ้บคิดอะไรไม่ออก และในที่สุดฉันก็ยอมแพ้
ตกลงใจว่า หยุดก่อนงานที่ตั้งใจผลิต...!
ฉันเดินกลับไปกลับมาในห้องเพียงลำพังเหมือนคนไร้สติ ประเดี๋ยวก็นั่งลงประเดี๋ยวก็ลุกขึ้น เปล่า...ฉันไม่ได้เป็นบ้า แต่ฉันกำลังถูกอำนาจเร้นลับของความสุขภายนอกเข้ามารบกวน และทำให้หัวใจของฉันเกิดความไม่สงบ
เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุด สะใจอย่างสุดๆ ก็คือ ฉันต้องกระโจนลงไปร่วมกับมัน คิดดีแล้วฉันก็สั่นกระดิ่งเรียกสาวใช้ขึ้นมาและบอกหล่อนว่า
แองเจลา, ช่วยจัดซัพเพอร์สำหรับ 2 ที่ให้หน่อยเถอะ ขอเป็นหอยนางรม นกกระทาแช่เย็นสักตัวนึง กุ้งน้ำจืด และ CAKE แล้วก็...ขอแชมเปญ 2 ขวดด้วยนะ เสร็จแล้วเธอไปนอนได้
แองเจลา รับคำสั่งด้วยความประหลาดใจ แต่หล่อนก็ทำตามคำสั่งของฉันด้วยความเรียบร้อย หลังจากแองเจลา จัดการโต๊ะอาหารแล้ว ฉันก็สวมโอเวอร์โคทออกไปข้างนอก เพื่อสัมผัสความผาสุกของชีวิตในคืนคริสต์มาส
ปัญหาใหญ่ก็คือ...แล้วนี่ฉันจะฉลองคริสต์มาสกับใครกัน ?
เพื่อนหญิงของฉันทุกคนสำหรับคืนนี้ ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวจะบ้ารอคอยคำเชื้อเชิญจากฉันในเวลาดึกดื่นเช่นนั้น ทุกคนมีนัดหมายล่วงหน้าไปตามสถานที่ต่างๆ
เอาละ...เมื่อหาเพื่อนไม่ได้ ก็ต้องหาบุษบาริมทาง...ผู้หญิงจนๆ ในกรุงปารีสยังมีถมไป ยังพอเหลือให้ฉันได้เลือกสักคนหนึ่งเป็นแน่ แม้จากข้างถนนไม่ได้จะเป็นตามบ้านหญิงโคมเขียวก็เอาละวะ...
โชคไม่เข้าข้างฉัน เมื่อฉันเริ่มหาสิ่งที่ต้องการ
ดูไม่ได้เลยแม้แต่รายเดียว หน้าตาอยู่คนละฝั่งกับความสุขในคืนคริสต์มาสทั้งหมด รูปร่างเรือนกายของหล่อนก็เหมือนไม้เสียบผี พวกแกทั้งหลายคงไม่ลืมว่า ฉันชอบผู้หญิงที่มีเนื้อหนังมังสา ยิ่งอวบเท่าไรก็ยิ่งเกษมสุขมากขึ้นเท่านั้น
แล้วโชคก็วิ่งมาชนหน้าผากของฉัน เมื่อสายตาเหลือบไปพบผู้หญิงรูปร่างที่ต้องการ
หล่อนยืนอยู่หน้าโรงละคร เดส วารีเอเตส หล่อนมีเรือนผมอันสวยงาม หน้าอกดังผลแอพเพิล หน้าท้องทำให้ฉันหายใจระรวย ใบหน้าล่ะ...ใบหน้าของหล่อน...
ฉันรีบสาวเท้าจนล้ำหน้า มองไปที่ใบหน้าของหล่อน โอเคทุกส่วน ดวงตาดำขลับ คมเข้มจนฉันต้องรีบบอกข้อเสนอและหล่อนก็ตอบรับ อีก 15 นาทีถัดมา ฉันกับหล่อนจึงได้มานั่งกินซัพเพอร์ในห้องพักของฉัน
หล่อนถอดเสื้อคลุมและหมวก เริ่มลงมือรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ฉันเริ่มสังเกตว่าหล่อนดูมีความทุกข์ซ่อนเร้นแฝงอยู่ข้างใน
มีอะไรหรือ ? ฉันถาม
ไม่ค่ะ หล่อนตอบ วานอย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาขึ้นโต๊ะเลย
หล่อนดื่มและดื่มอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าหล่อนก็ส่งเสียงหัวเราะ พวงแก้มของหล่อนเริ่มมีสีสัน ฉันจูบหล่อนนับครั้งไม่ถ้วน ความรู้สึกบอกตัวเองว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนชั้นต่ำ แต่รายละเอียดที่เกี่ยวกับชีวิตหล่อน ฉันค้นหาไม่พบเพราะหล่อนปฏิเสธกึ่งคำร้องขอ
คุณคะ อย่าสนใจเรื่องเหล่านี้เลยนะคะ...
ประมาณ 1 ชั่วโมงถัดมาก็ถึงเวลานอน หล่อนถอดเครื่องแต่งตัวก่อนขึ้นเตียง เสียงเอะอะอึกทึกครึกโครมภายนอกยังขรมไปทั่ว
ฉับพลันนั้นเอง เสียงร้องครางแหลมลึกของหล่อนก็ดังขึ้นมา ฉันสะดุ้งตกใจร้องถามแต่หล่อนก็ไม่ตอบ กลับส่งเสียงสำแดงความเจ็บปวดเหมือนกับอยู่ในกองมหาทุกข์ขนาดใหญ่ ฉันถือเทียนไขเข้าไปหาหล่อนที่เตียงนอน
ฉันพบหน้าหล่อนบูดเบี้ยว มือทั้งสองกำแน่นสนิท หอบหายใจยาวเหมือนมีอะไรติดลำคอ
ท้อง...ท้องของฉัน หล่อนร้องเสียงลั่น
เพื่อนเอ๋ย...แกเชื่อหรือไม่สิ่งที่ฉันได้พบก็คือ หล่อนกำลังจะคลอดลูก...คราวนี้ฉันตกใจจนขาดสติ วิ่งไปที่บานประตูร้องหาคนช่วย
มีคนกลุ่มหนึ่งแต่งกายประหลาดๆ ตามเทศกาล เข้ามา ทุกคนแสดงความประหลาดใจจนฉันบอกเรื่องสำคัญเท่านั้น พวกเขาจึงได้สติและพยายามช่วยเหลือ แต่ฉันดูแล้วก็ทนนิ่งต่อไปไม่ได้ รีบวิ่งลงบันไดไปหาหมอแก่คนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก
เมื่อฉันกลับมาที่พักพร้อมแพทย์ อาหารของฉันเรียบวุธ คนพวกนั้นกำลังอยู่ในอารมณ์สนุกสนาน ร้องรำทำเพลงแสดงความยินดีที่ฉันได้ลูกแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มมาส่งและบอกแก่ฉันว่า
เป็นผู้หญิงค่ะ
ถึงตอนนี้ อองรี ก็ถอนหายใจยาวเฟื้อย เพื่อนๆ พากันถามว่า แล้วเรื่องราวเป็นอย่างไรต่อไปหรือ
สว่างแล้ว แพทย์และพยาบาลก็มาที่ห้อง จัดการกับหล่อนจนมีอาการปกติ ตั้งแต่คืนนั้นมาหล่อนก็เลยกลายเป็นผู้หญิงประจำห้องของฉัน นานถึง 6 สัปดาห์
ฉันต้องส่งเธอไปให้ครอบครัวชาวเกษตรเลี้ยงดู ส่งค่าเลี้ยงดูไปให้เดือนละ 50 ฟรังค์ จนถึงทุกวันนี้
แล้วไง ?
แล้วมันก็ทุเรศสิ้นดี พอหล่อนสบายดี หล่อนก็บอกฉันว่า รักฉันอย่างสุดหัวใจ หล่อนกลายเป็นผู้หญิงผอมแห้ง ร้องแต่จะขอจูบมือของฉันทุกคืน...
ก็นี่แหละเพื่อนเอ๋ย ฉันจึงขอบอกด้วยความจริงใจว่า ต่อนี้ไปฉันจะไม่ขอมีการฉลองคืนคริสต์มาสในห้องพักของฉันอีกโดยเด็ดขาด...!!!
เรื่องโดย : ข้าวเปลือก
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : ประสาใจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/82461