มุมมองนักออกแบบ
แจกวาร์ เอกซ์เอฟ ผู้ดียุคใหม่
แจกวาร์ เอกซ์เอฟ รถยนต์ซีดานหรูหราขนาดกลาง ผลิตขึ้นเพื่อเป็นตัวตายตัวแทน รุ่น เอส-ไทพ์ (S-TYPE) ริเริ่มการออกแบบ และพัฒนาเทคโนโลยี สมัยที่ยังอยู่ภายใต้ร่มเงาของ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมพานี
การออกแบบที่เกิดจากมันสมองของ เอียน คัลลัม (IAN CALLUM) และทีมงาน ทำให้ เอกซ์เอฟ ได้รับรางวัล DESIGN AWARD ของ AUTO CAR AWARDS 2007 รางวัล "MOST EXCITING CAR TO BE LAUNHCHED IN 2007" จากการโหวทของผู้อ่านนิตยสาร WHAT CAR ? และรางวัล "INTERIOR OF THE YEAR AWARD 2007" จากนิตยสาร CAR
แม้หลายคนจะยอมรับว่ารถรุ่นนี้ สวย แต่ขณะเดียวกัน ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่า รูปลักษณ์ของ เอกซ์เอฟ ได้ฉีกหนีแนวทางการออกแบบเดิมๆ ของ แจกวาร์ อย่างไร้เยื่อไย
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น !?
ภัทรกิติ์ : แม้จะผลิตภายใต้ร่มเงาของ ฟอร์ด แต่เขาไม่ได้ใช้พแลทฟอร์ม (พื้นตัวถัง) ร่วมกับ ฟอร์ด เพราะรถคันนี้ขับเคลื่อนล้อหลัง
อภิชาต : พอออกมารูปทรงนี้ ผมว่าด้านข้าง คล้าย ฮอนดา ซีวิค ไปเลย
ภัทรกิติ์ : มองอีกที ก็คล้าย เลกซัส เหมือนกัน
คมกฤช : ไม่เห็นมีใครบอกว่าเหมือน แจกวาร์ เองเลย
ฟอร์มูลา : รถหลายยี่ห้อในเครือเดียวกัน มักใช้ พแลทฟอร์ม ร่วมกัน เพื่อประหยัด แต่ก็อยากให้มีรูปลักษณ์ต่างกัน จึงพยายามเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่ ทว่ารูปทรงหลักก็ยังออกมาคล้ายกัน และเสียเอกลักษณ์เดิมๆ ส่วน แจกวาร์ แม้ตอนออกแบบ และผลิต จะอยู่ใต้ร่มเงาของ ฟอร์ด แต่ก็สร้างพแลทฟอร์มใหม่ขึ้นมาสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ แต่เอ๊ะ...ทำไมรูปทรงจึงไม่เป็น แจกวาร์ ?
ภัทรกิติ์ : เพราะเขาตัดสินใจว่าจะ ทิ้ง แนวทางเดิมๆ
ฟอร์มูลา : ดูเหมือนประเด็นนี้จะเครียด... มาคุยกันเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนดีกว่า ?
ภัทรกิติ์ : หน้ากระจังสวยงามมาก
ฟอร์มูลา : แต่ถ้าเป็นซีดานของ แจกวาร์ ผมว่าคนทั่วไปน่าจะคุ้นกับหน้ากระจังรูปไข่ ที่มีเส้นผ่ากลางมากกว่านะครับ ?
ภัทรกิติ์ : หน้าทรงไข่ แบบ เอกซ์เจ เขาไม่เอากันแล้ว มันดูโบราณ ผมว่า หน้าแบบ มาร์ค 1 มันดูร่วมสมัยดี แล้วคนก็ไม่ค่อยรู้จักกระจังหน้าแบบนี้ของ แจกวาร์ ก็เลยแปลกไปอีกแบบ
อภิชาต : หน้ากระจังไม่เถียง แต่ผมติดที่กันชนหน้ามันดูโล้นไป แถมตำแหน่งในการติดป้ายทะเบียนไม่มีอะไรวางรอไว้เลย
ภัทรกิติ์ : ไฟท้ายเหมือน แอสตัน มาร์ทิน ซะ แหม...มองท้ายนี่ ชัดเจนเลย ตั้งแต่ช่วงเสา ซี ไปจนถึงช่วงท้าย เป็น แอสตัน มาร์ทิน ทั้งหมด
อภิชาต : ขอโทษนะครับ มันใกล้เคียงกันจนหน้าเกลียด
คมกฤช : ไฟหน้าแบบนี้ ญี่ปุ่นแท้ๆ เลย
อภิชาต : อย่างที่ผมบอกเหมือน ฮอนดา ซีวิค โดยเฉพาะตรงไฟเลี้ยว
ภัทรกิติ์ : ท้ายก็ แอสตัน มาร์ทิน แล้ว แจกวาร์ อยู่ตรงไหนล่ะครับเนี่ย ?
คมกฤช : ไม่มีเอกลักษณ์ !
อภิชาต : ขาย บแรนด์ !? มิน่า เขาถึงลือกันว่า ดีไซเนอร์ ดังๆ ออกไปอยู่ค่ายอื่นกันหมด
ภัทรกิติ์ : ถ้าถามว่า รถคันนี้จะขายได้ไหม โอ้ย ! ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า...
ฟอร์มูลา : เพราะ ?
ภัทรกิติ์ : มันสวยทีเดียวเลย แม้สมัยก่อน แจกวาร์ จะเป็นรถที่มีค่านิยม แต่คันนี้ไม่มีอีกแล้ว โยนทิ้งหมดเลย ที่บอกว่าไม่มีเอกลักษณ์ แต่ไม่ใช่ไม่สวยนะ
ฟอร์มูลา : ขายได้แต่ลูกค้าใหม่หรือเปล่า ลูกค้าเก่าเขาจะว่าไงครับ ?
ภัทรกิติ์ : นี่ไม่ใช่ แจกวาร์ รถอะไรก็ไม่รู้ !
อภิชาต : แต่จริงๆ ตลาดรถกลุ่มหรูหรา มันเหมาะกับกลุ่มเศรษฐีใหม่ โดยเฉพาะในเอเชีย
คมกฤช : ขายพวก เกาหลี ญี่ปุ่น ยอดคงระเบิด
ภัทรกิติ์ : คนที่ซื้อรถรุ่นนี้ได้ ต้องเป็นกลุ่มคนที่มีเงินพอสมควร เพราะในบ้านเรา เขาขายแพงกว่า
บีเอมดับเบิลยู ตั้งประมาณ 2 ล้านบาท
อภิชาต : ผมว่าด้านนอกสวย โอเค ถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของยี่ห้อใหม่ แต่ก็มีบางส่วนที่แอบๆ มีกลิ่นของรถญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่ด้านท้ายที่เหมือน แอสตัน มาร์ทิน ผมว่าเป็นความบังเอิญมากกว่า อย่างไรก็ตาม รถระดับนี้ ผมเห็นว่ามันควรมี อัตลักษณ์ ที่บ่งบอกว่าเป็น แจกวาร์ อย่างชัดเจน แต่ถ้าเลือกที่จะไม่ทำ ก็ต้องพยายามเลี่ยงไม่ให้เหมือนใคร ไม่ว่าจงใจ หรือบังเอิญ
ฟอร์มูลา : อย่าง ซีรีส์ 7 รุ่น อี 65 ของ บีเอมดับเบิลยู ก็เป็นการทิ้งของเก่า แต่ไม่เห็นมีอะไรเหมือนใครนะครับ ?
อภิชาต : อาจเป็นเพราะ ฟอร์ด เขาใช้นโยบายลดต้นทุนตั้งแต่เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว โดยพยายามแชร์ชิ้นส่วนรถทุกรุ่นในเครือ เพราะเห็นแนวโน้มว่าจะประสบปัญหาทางการเงินแน่
ภัทรกิติ์ : แต่คันนี้ไม่น่าเกี่ยว แจกวาร์ เคยประสบปัญหากับรถรุ่นเล็ก เอกซ์-ไทพ์ (X-TYPE) มาแล้ว ซึ่งน่าจะเข็ด ตอนนั้นเข็นยังไงก็ไม่ขึ้น เพราะใครลองแล้ว ก็บอกเสียงเดียวกันว่าเหมือนขับ ฟอร์ด มนเดโอ จะไม่เหมือนได้ยังไง ก็ตัวนั้นใช้ พแลทฟอร์ม เดียวกับ มนเดโอ วางเครื่องตามขวาง มีขายทั้ง ขับหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ
อภิชาต : กริลล์ ด้านข้างตรงแก้มรถ มีไว้ทำอะไร ?
ภัทรกิติ์ : รถแรงๆ ชอบมีอะไรมาติดตรงนี้ ใช้ระบายความร้อนเครื่องยนต์
ฟอร์มูลา : แล้วคันนี้มีไว้ทำอะไรครับ ?
ภัทรกิติ์ : รถสมัยนี้ไม่ต้องมีอะไรให้ระบายออกมาแล้ว อยู่ดีๆ ก็แปะเข้าไป ให้มันดูแรงๆ แถมแปะไว้ก็จบอยู่แค่ตรงนั้น ไม่มีเส้นอะไรมาลากต่อให้เกี่ยวเนื่อง
คมกฤช : ถ้าเอาออกไป มันก็จะดูจืดๆ ไปเลย
ภัทรกิติ์ : จะกลายเป็น เลกซัส ทันที !
อภิชาต : แต่ถ้าย้ายมาดู ไฮไลท์ ตรงส่วนล่างของกันชน ผมให้ 5 ดาวเลยครับ
ภัทรกิติ์ : ด้านหน้าเป็นโครเมียม แต่ด้านข้างเป็น บอดี คัลเลอร์ ที่รับเหมาะเจาะกันพอดี แต่หน้าตาไม่ค่อยดุเท่าไร ตาหวานๆ ในความคิดผม แจกวาร์ ไม่น่าทำไฟหน้าชิ้นเดียวเหมือนรถญี่ปุ่น
ฟอร์มูลา : ปกติ แจกวาร์ จะเน้น 2 ดวง แต่นี่ก็ 2 ดวง ซ่อนในโคมเดียว ?
ภัทรกิติ์ : ดวงเล็กด้านในมันไม่มีความหมายแล้ว
คมกฤช : แถมโดนคิ้วปิดไปอีก 30 %
ภัทรกิติ์ : อาจจะอยากทำเหมือน บีเอมดับเบิลยู แต่มันดูไม่เป็น 2 ดวงเท่าไร ?
อภิชาต : นอกจากมุมไฟเลี้ยวแล้ว ตรงสันด้านข้าง ผมว่ายังคล้ายๆ ซีวิค
ภัทรกิติ์ : ไม่เหมือนซะทีเดียวนะ แต่ก็ใกล้เคียง
อภิชาต : อยากบอกคนขับ ซีวิค ภูมิใจได้เลย ว่าขับรถเหมือนรถราคาคันละหลายล้านบาท
ฟอร์มูลา : ที่สังเกต ปกติ แจกวาร์ กระจกบานหลังจะตั้งๆ ไม่ลาดขนาดนี้ ฝากระโปรงท้ายก็จะยาว ตอนนี้เป็นสไตล์รถญี่ปุ่นเลย ?
ภัทรกิติ์ : แจกวาร์ บอกว่า พอกันที กับการย้อนอดีต เรทโร ดีไซจ์น ไม่เอาแล้ว
อภิชาต : แต่ตัวอักษรของยี่ห้อตรงไฟท้าย เรทโร น่ะ ?
ฟอร์มูลา : วางตัวห่าง (J A G U A R) ไม่ใช่ติดกัน (JAGUAR)
อภิชาต : รถสมัยก่อนชอบทำแบบนี้ อย่าง โวลโว เมื่อก่อนก็ทำ
ภัทรกิติ์ : ไม่น่าเชื่อ รถยนต์ที่ราคาแพงขนาดนี้ เซนเซอร์ ยังเป็น หูด อยู่เลย
อภิชาต : นูนออกมา เหมือนไปติดตั้งเพิ่มที่ร้านประดับรถยนต์ จริงๆ น่าจะซ่อนอยู่ด้านใน
ภัทรกิติ์ : ถ้าเป็น บีเอมดับเบิลยู หรือ เมร์เซเดส-เบนซ์ ปุ่มเซนเซอร์จะเนียนไปกับบั้นท้าย
ฟอร์มูลา : ย้ายมาดูภายในกันบ้าง เริ่มที่คอนโซลก่อน
ภัทรกิติ์ : ช่องลมแอร์รถคันนี้มีลูกเล่น เวลาดับเครื่องมันจะพับลงไป พอติดเครื่องมันจะเปิดเอง
อาจดูตื่นเต้นนะ แต่แอร์ราคา 3 หมื่นบาท ที่บ้านเราก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ของแค่นี้รถยนต์
คันเป็นล้านๆ บาท ทำได้สบาย เพียงแต่ใครจะทำเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
คมกฤช : ลายไม้ที่ประดับในรถ ลายเหมือนไม้สักเลย ?
อภิชาต : ไม้อัดสัก
ฟอร์มูลา : ที่ใช้ทำตู้ ทำเตียง ขายนะเหรอครับ ?
คมกฤช : เราเห็นบ่อยแล้วธรรมดา แต่ฝรั่งเห็น มันร้อง โอ้โฮ !
อภิชาต : แถวซอยประชานฤมิตร มีเยอะ
ภัทรกิติ์ : สำหรับฝรั่งแล้ว ไม้สัก นี่มันของหรูนะ มาจากเขตร้อน
อภิชาต : ไม้อัดสัก คือ ไม้สักแท้เลยนะ เพียงแต่ผิวมันบางแค่ 0.5 มม. เท่านั้น เขาสไลด์ผิวออกมาแปะไว้บนขี้เลื่อยอัดอีกที
ภัทรกิติ์ : ลายไม้นี่ของจริงนะครับ ส่วนใหญ่ รถบ้านอยากหรู ใช้พลาสติคทำทั้งนั้น
อภิชาต : ผมกำลังมองอย่างนี้นะ ข้างนอก มันไม่ใช่ลักษณะทันสมัย แต่พอข้างในมันเหมือน...?
คมกฤช : เหมือนรถอเมริกัน เก่าเก็บ
อภิชาต : มันไม่ไปด้วยกัน
ภัทรกิติ์ : คอนโซลเรียบๆ แล้วอยู่ดีๆ มีช่องแอร์ เจาะเข้าไป มันไม่ดิบไปหน่อยเหรอครับมันไม่มีความเป็น แจกวาร์ อินทีเรีย ?
คมกฤช : ตรง โลโก ไง
ภัทรกิติ์ : เขาพยายามจะตีความอะไรแปลกๆ ให้ถูกใจคนอเมริกัน
ฟอร์มูลา : ตั้งใจขายคนอเมริกันเหรอครับ ?
ภัทรกิติ์ : ตลาดใหญ่ที่สุดของ แจกวาร์ เลย
คมกฤช : แต่เป็นเรื่องที่น่าดีใจนะครับ เพราะเมื่อก่อนตะวันออกจะตามตะวันตก แต่เดี๋ยวนี้ตะวันตกมาตามตะวันออกซะแล้ว
ภัทรกิติ์ : แต่สิ่งที่หายไปก็คือ เจ เกจ เกียร์สุดคลาสสิคของ แจกวาร์ เขาคงคิดว่า เวลาขับเกียร์อัตโนมัติ ก็ให้มันเป็นอัตโนมัติสมชื่อ คือ ไม่ต้องไปยุ่งไรกะมัน แต่ไอ้ของแบบนี้ พวกอเมริกันคิดได้มาตั้งแต่ ยุค 50 เกียร์เป็นแบบกดปุ่ม อยากเดินหน้า หรือถอยหลังก็กด แต่คันนี้เป็นปุ่มบิด
อภิชาต : หวือหวาอีกแล้ว เวลาเสียบกุญแจ ปุ่มเกียร์มันจะ งอก ขึ้นมา แต่ถ้าถามจริงๆนะครับ ผมชอบความรู้สึก ที่เกียร์เป็น ก้าน แบบเดิมๆ
คมกฤช : มันหาง่ายไง แบบนี้มันต้องหาไม่เจอกันบ้างละ
ภัทรกิติ์ : คุณก็ไม่ตัองเปลี่ยนไง ขับไปจนถึงที่จอดรถแล้วค่อยเปลี่ยน หมุนแก๊กเดียวเอง
อภิชาต : ผมว่าเหมือนรถที่ใช้อยู่ในสนามกอล์ฟ
ภัทรกิติ์ : ใช่ เป็นอย่างนั้นเลย
คมกฤช : โลโก ที่พวงมาลัย ปกติจะเป็นแบบนูนต่ำ แต่นี่ทำกลายเป็นกราฟิค 2 มิติมันแปลกๆ ?
ภัทรกิติ์ : ปุ่มกดที่พวงมาลัย เขามีความพยายามให้เป็นยาง ผิวสัมผัสดูหรูหราพอสมควร
อภิชาต : ลายไม้ตรงคอนโซล เหมือนมาแปะไว้เฉยๆ
ภัทรกิติ์ : แจกวาร์ คงจะโยนตำราเดิมทิ้งหมด นี่รถเก๋งตลาดคันแรกเลยนะครับที่วางแผงอลูมินัมคาดยาวบนคอนโซล สมัยก่อนเป็นไม้ยาว แต่นี่ไม้เหลือแค่นิดเดียว เพื่อแสดง
ออกถึงความเป็นสปอร์ท แจกวาร์ คงอยากจะพูดถึงความเป็นสปอร์ทอย่างเต็มตัวในรถคันนี้
ฟอร์มูลา : สร้าง สปอร์ท ซีดาน ไม่ได้สร้าง ห้องรับแขก เหมือนแต่ก่อน
อภิชาต : สังเกตภายในไหมครับ มักจะเล่นกับแสง มีไฟสีระเรื่ออยู่หลายจุด
ภัทรกิติ์ : ปล่อยแสงออกมาแบบนี้ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7 นำมาใช้เป็นเจ้าแรก
ฟอร์มูลา : ดูภาพรวมแล้ว ภายในเป็นอย่างไรครับ ?
อภิชาต : บุคลิกใหม่จะบอกว่าน่าสนใจก็ได้ แต่ก็ยังอยากเห็นภายในที่เป็นแนว
ทางเดิมอยู่
ภัทรกิติ์ : เป็นอะไรที่เย็นชา ไม่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น เหมือน แจกวาร์ รุ่นเดิมๆ การนำอลูมินัมเข้ามาใช้ หนังหายไป ไม้น้อยลง ทำให้ดูแข็งๆ ขาดอารมณ์เดิมๆ แต่อย่างว่า เขาอาจจะไม่ต้องการอารมณ์แบบนั้น เริ่มเบื่อ เซ็ง เมื่อก่อน แจกวาร์ ดูเป็นรถของคนแก่ แต่นี่ไม่แก่แล้วนะ
อภิชาต : คนรวย เมื่อก่อนกับวันนี้ มันต่างกัน การยึดฟอร์มธรรมดาตลอด อาจจะขายไม่ได้
ภัทรกิติ์ : ต้องรอดู เอกซ์ เจ 6 อีกที เพราะแยกเซคเมนท์ออกมาชัดเจน
อภิชาต : ถึงตอนนั้นคงชัดเจนมากขึ้นในบุคลิกของ แจกวาร์ ยุคใหม่ แต่สิ่งที่ผมไม่อยากเห็นคือ ปุ่มเกียร์ที่หมุนๆ
ภัทรกิติ์ : อีกอย่าง ผมว่า ภายในดู สแกนดิเเนเวียน มากไป พวกลูกเล่นที่ดูฉวัดเฉวียน มันควรจะอยู่ใน โวลโว ส่วน แจกวาร์ ไม่น่าจะมีอะไรแบบนี้ แต่อาจเป็นเพราะเรามองอังกฤษเป็นสังคมผู้ดี...แต่นั่นมันเมื่อร้อยปีก่อน วันนี้ ผู้ดี อังกฤษ แทบจะตายไปหมดแล้ว
ฟอร์มูลา : แล้วตอนนี้มีอะไร ?
ภัทรกิติ์ : ก็มีเหมือนคนทั่วโลก...เขามีความสับสนในจุดยืนว่าตัวเองเป็นใคร อาณานิคมที่เคยล่ามาก็รู้สึกผิด อะไรที่เดิมๆ เป็นสิ่งที่อังกฤษอึดอัด แจกวาร์ เอกซ์เอฟ ก็อาจเป็นอย่างนั้น ปัจจุบันอังกฤษเป็นประเทศที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เป็นนักคิด ประดิษฐ์สารพัดอย่าง แต่เขาไม่ใช่ผู้ดีเก่า พวกท่านลอร์ด เลดี อะไรพวกนั้น อีกต่อไปแล้ว รถคันนี้เป็นตัวแทนของสังคมยุคใหม่ที่จะต้องก้าวไปข้างหน้า
ฟอร์มูลา : แจกวาร์ ผลิตรถเพื่อคนยุคใหม่ และไม่เสียดายตัวตนเดิมๆ แม้แต่น้อย !
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2551
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/78930