ฮัมเมอร์ เอช 3 (HUMMER H3) เปิดตัวไม่ค่อยสวยนัก ด้วยขุมพลัง 5 สูบ ที่ไม่สามารถให้พลังขับเคลื่อนได้เพียงพอ ทั้งยังขาดระบบดิฟฟ์ลอค ซึ่งมีบทบาทสำคัญสำหรับการลุยในเส้นทางทุรกันดาร
จากนั้นไม่นาน จึงได้พัฒนาต่อ จนมี เอช 3 อัลฟา (H3 ALPHA) ที่ใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ 5.3 ลิตร พร้อมระบบดิฟฟ์ลอค แต่ก็ยังต้องการยางใหญ่ขึ้น และระบบลอคเฟืองขับหน้า เพื่อความสมบูรณ์แบบ และยังไม่มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก
ฮัมเมอร์ เอช 1 และ เอช 2 มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตามความต้องการ ทั้ง ฮาล์ฟ-แคบ (HALF-CAB) ครูว์-แคบ (CREW-CAB) และอีกหลายแบบ ก่อนที่จะมี เอช 3 ในรูปแบบเอสยูวีปัจจุบันนี้
ฮัมเมอร์ เอช 3 ที รถลุยพันธุ์แท้ ผลิตออกมา 5 คัน และส่งให้ทำการทดสอบ 4 คัน แต่ยังคงพรางตาด้วยผ้าใบคลุมรถ นั่นคือ ภายนอกที่เห็น ก่อนจะพบกับบททดสอบสุดโหด
เอช 3 ที ขยายความยาวออกไปอีก 584 มม. มีฐานล้อยาวขึ้นเป็น 3,409 มม. สามารถตอบสนองการขับขี่ แตกต่างจาก เอช 3 อย่างชัดเจน และยังให้การทรงตัวที่มั่นคง ในระหว่างใช้ความเร็ว และสมรรถนะที่ดี ในการปีนป่ายเนินสูงชัน
เครื่องยนต์ 5.3 ลิตร มีพละกำลังสูงถึง 309 แรงม้า ที่ 5,200 รตน. และแรงบิด 44.2 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. ให้พลังในการฉุดลากอย่างพอเพียง ในขณะที่เครื่องยนต์ 5 สูบแถวเรียง ต้องใช้รอบเครื่องสูง และต้องเลือกเกียร์ต่ำ เพื่อให้มีแรงบิดมากพอ ที่จะข้ามผ่านเนินต่างๆ ไปได้
การเดินทางในป่า ด้วยฐานล้อที่ยาวถึง 3,409 มม. อาจสร้างปัญหาเรื่องวงเลี้ยว แต่ทีมวิศวกรของ ฮัมเมอร์ ได้แก้ไขอัตราทดเฟืองระบบบังคับทิศทาง ให้มีอัตราทดที่สูงขึ้น จนสามารถทำวงเลี้ยวได้ใกล้เคียงกับ เอช 3 เดิม
จากการเพิ่มความยาวฐานล้อ ทำให้มุม แรมพ์โอเวอร์ (RAMPOVER) แคบลง โดยทางโรงงานได้ติดตั้งสกิดพเลท ชนิดทนทานพิเศษ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนใต้ท้องรถ การปีนขึ้นที่สูงชัน ให้ความมั่นใจได้ด้วยชุดลอคเฟืองขับหน้า/หลัง พร้อมชุดเกียร์ทรานสเฟอร์ มีอัตราทด 2.64 และเฟืองขับอัตราทด 4.1 ช่วยให้ เอช 3 ที สามารถผ่านอุปสรรคไปได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องรอลุ้น
ในการทดสอบพบว่า ประตู และกรอบประตู มีโอกาสถูกกระแทกกับอุปสรรคบ่อยครั้ง ทางโรงงานน่าจะติดตั้งการ์ดกันกระแทก หรือเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชิ้นส่วนมากขึ้น เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ต่อไปในอนาคต จะมีการนำน้ำมันชีวภาพมาใช้ ด้วยทีมพัฒนาในบราซิล ที่ทำให้ เอช 22 สามารถใช้น้ำมันชีวภาพได้ในปี 2552 และ เอช 3 ในปี 2553
ฮัมเมอร์ เอช 3 ที ยังคงเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ไม่ว่าระบบด้านความบันเทิง แอร์แบก หรือแม้แต่ระบบดูแลเด็กผ่านดาวเทียม และภายใต้ฝากระโปรง คือ ขุมพลังของสัตว์ร้ายที่เปี่ยมพละกำลังในการปีนป่ายข้ามสิ่งกีดขวาง ถึงแม้บรรทุกสัมภาระเต็มกระบะด้านท้าย นับว่า เอช 3 ที คือ ความเพียบพร้อมที่มีให้อย่างครบถ้วนภายในรถคันเดียว
สำหรับรถพวงมาลัยขวา ถ้าอยากมี เอช 3 ที อยู่ในโรงรถ คงต้องรอก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดสำหรับระบบพวงมาลัยขวา แต่สำหรับ เอช 3 อัลฟา เครื่องยนต์ วี 8 สูบ แล้วจะมีรุ่นพวงมาลัยขวาออกมาอย่างรวดเร็วปลายปีนี้ และอาจได้เห็นบนท้องถนนในปี 2552
พร้อมกันกับเครื่องยนต์ดีเซล พวงมาลัยขวา ในปี 2552 และจะเพิ่มเครื่องยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ อี 85 ในเวลาต่อมา
Model | Start Price (THB) |