X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รู้ไว้ใช่ว่า
1 Sep 2008
ซื้อรถบางทีก็ซวย
เป็นเรื่องการโอนรถของคนที่เป็นหนี้เป็นสิน แล้ววุ่นวายถึงผู้รับโอน วุ่นยังไงต้องตามไปดูเดี๋ยวนี้ แรกเริ่มเดิมที นายสวัสดี กับ นางขอบคุณ ชื่อเท่ทั้งคู่ สองผัวเมียซึ่งตกที่นั่งลำบาก เป็นพวกเอนพีแอล ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย แต่ไม่กลับมารวยเหลือล้นเหมือนเจ้าของสโลแกนนั่นหรอก ในที่สุดโดนเจ้าหนี้เชือด ฟ้องทั้งคดีแพ่ง และซ้ำอีกระลอกหนึ่งด้วยคดีล้มละลาย ถึงขั้นจอดป้าย ต่อจากนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดดเข้ามาทำหน้าที่รวบรวมทรัพย์สินของสองผัวเมีย เพื่อขายทอดตลาด การรวบรวมเจ้าหน้าที่มักสอดส่องมองหาบ้านที่ดินและรถยนต์เป็นอาทิ งานนี้พบว่าเดิมที นายสวัสดี มีรถกระบะยี่ห้อดังคันหนึ่ง ได้โอนไปให้ นายบ๊ายบาย ลูกชายของตน แล้วโอนไปให้ นายระทึก อีกทอดหนึ่ง การโอนยังอยู่ในเวลาไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่สองผัวเมียล้มละลาย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องนำรถมาส่งมอบเพื่อขายทอดตลาด เมื่อไม่เป็นผล เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงร้องต่อศาล ให้เพิกถอนการโอนรถระหว่าง นายสวัสดี กับนายบ๊ายบาย และระหว่าง นายบ๊ายบาย กับนายระทึก ให้รถกลับมาเป็นของ นายสวัสดี เพื่อที่จะรวบรวมเข้าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ขายทอดตลาดต่อไป คืนรถไม่ได้ให้จ่ายเงินเป็นแสน พร้อมดอกเบี้ย จนกว่าจะคืนเสร็จ นายบ๊ายบาย ยื่นคำร้องคัดค้าน และมาในแนวแปลก บอกว่าไม่ได้รับโอนมาจริงๆ หรอก โอนแต่ชื่อ รถยังเป็นของ นายสวัสดี และนางขอบคุณ อย่างเดิม จึงไม่เกี่ยว ส่วน นายระทึก ก็รับโอนมาจาก นายสวัสดี นั่นแหละ นายระทึก นั้นใจระทึกอยู่แล้ว โดดเข้าคัดค้าน อ้างว่าเป็นบุคคลภายนอก รับโอนโดยสุจริต มีหลักฐานการซื้อขายจ่ายเงินไปเป็นแสน เอารถไปไม่ได้หรอก ขอให้ยกคำร้องเสีย ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้เพิกถอนการโอนรถระหว่าง นายสวัสดี กับนายบ๊ายบาย ให้ นายบ๊ายบาย ส่งมอบรถแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี ส่งมอบไม่ได้ให้จ่ายเงินแสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้องจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่ให้ยกคำร้องเกี่ยวกับ นายระทึก เสีย นายระทึก หายระทึก เพราะไม่ต้องคืนรถ หรือไม่ต้องจ่ายเงิน ศาลคงมองว่ารับโอนโดยสุจริต นายบ๊ายบาย นั้นระทึกแทน ต้องยื่นอุทธรณ์ยืนยันอย่างเดิมว่าไม่เกี่ยว ไม่ได้รับโอนรถมาจริงๆขอให้ยกคำร้องด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเงินเป็นแสน ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเอาด้วยกับ นายบ๊ายบาย พิพากษาแก้ ยกคำร้องในส่วนที่ให้เพิกถอนการโอนรถระหว่าง นายบ๊ายบาย กับนายสวัสดี เสียด้วย นอกนั้นให้เป็นไปตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำท่าจะแห้ว จึงอยู่ไม่ได้ ต้องยื่นฎีกา ยืนยันว่ามีการโอนรถระหว่าง นายสวัสดีกับนายบ๊ายบาย จริงๆ อย่ายกคำร้อง ต้องดึง นายบ๊ายบาย มาเป็นลูกหนี้ จ่ายเงินแสนให้ได้ ศาลฎีกาเหม่อมองดูคดีนี้ด้วยความเซ็งนิดๆ เพราะงานหนัก แล้วชี้ขาดออกมาว่า ตามข้อเท็จจริงได้ความว่า การใส่ชื่อ นายบ๊ายบาย เป็นเจ้าของรถของ นายสวัสดี เป็นการใส่ชื่อไว้เฉยๆไม่มีการซื้อขายหรือส่งมอบรถแก่กัน นางขอบคุณ ภรรยา นายสวัสดี ยังครอบครองรถใช้ประโยชน์เรื่อยมา จนกระทั่ง นางขอบคุณ จัดการโอนขายให้ นายระทึก ในตอนหลัง มีการจ่ายเงินด้วยเชค นางขอบคุณนำไปขึ้นเงินจากธนาคาร การโอนให้ นายบ๊ายบาย นางขอบคุณ จัดการแบบโอนลอย นายบ๊ายบาย ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้อยู่ร่วมบ้านกับนายสวัสดี กับนางขอบคุณ ในอันที่จะเหมาว่าครอบครองรถไว้ ลำพังการมีชื่อในทะเบียน ศาลบอกว่าไม่ได้แสดงว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เสมอไป จึงเชื่อว่า นายบ๊ายบาย ไม่ได้รับโอนรถจริง การที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินมาว่า นายบ๊ายบาย ไม่เกี่ยว ถูกต้องแล้ว ศาลฎีกาพิพากษายืน งานนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีแห้วจริงๆ เคยบอกไว้แล้วว่าการซื้อรถยนต์จากคนอื่นต้องระวังไว้อย่างหนึ่ง คือ เรื่องล้มละลาย ถ้าคนขายมีปัญหาคนซื้อเดือดร้อนด้วย การซื้อรถจากคนใกล้ชิดต้องระวังเหมือนกัน โดยเฉพาะกรณีที่รู้ว่าเขาเป็นหนี้เป็นสินเยอะ จะกลายเป็นว่าเราซื้อโดยไม่สุจริต ซื้อทั้งๆ ที่เขามีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหน้าที่ตามยึดรถคืนไปได้ กรณีที่เราขายรถไปแล้วก็ยังไม่พ้นตัว อาจโดนบังคับให้ชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ย ใครเจอเข้าหอบแฮ่กๆ ก็แล้วกัน หอบจริงๆ ไม่ใช่หอบแบบที่ตลกเขาแสดงล้อเลียนลิเกตอนรบกันด้วยอีดาบ แล้วแลบลิ้นทำท่าหอบทั้งสองฝ่าย ดูแล้วขำกลิ้งลิงกับหมา อ้าว ! เกี่ยวกันได้ยังไง จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2536
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2551
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/78844
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
รู้ไว้ใช่ว่า
รู้ไว้ใช่ว่า
18 Aug 2015
โทษเบาไปนะ !!!
รู้ไว้ใช่ว่า
17 Jul 2015
เบรคแตก
รู้ไว้ใช่ว่า
24 Jun 2015
ลืมไม่เข้าคุก !
รู้ไว้ใช่ว่า
19 May 2015
"ไฟไหม้รถ/ค้ายา !"
รู้ไว้ใช่ว่า
20 Apr 2015
"ลูกหลานใช้รถ !"
ดูต่อในคอลัมน์ รู้ไว้ใช่ว่า