สัมภาษณ์พิเศษ(4wheels)
โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
เมื่อ โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด บอกว่า ตัวเลขยอดขายไม่ใช่
สิ่งสำคัญสำหรับ อีซูซุ ก็น่าสนใจว่า เขาจะนำพาตลาดของเขาไปในทิศทางใด คำตอบอยู่ในบท
สัมภาษณ์ต่อไปนี้
4 WHEELS : คาดการณ์ตลาดรถยนต์เมืองไทยปีนี้อย่างไร ?
ชกกิ : ปี 2550 ตลาดรถยนต์รวมมียอดจำหน่าย 631,250 คัน น้อยกว่าการคาดการณ์ เนื่องจากผู้บริโภค
ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น โดย อีซูซุ มียอดจำหน่ายรวม 151,033 คัน แต่คาดว่าปีนี้ ตลาดรถยนต์
น่าจะเติบโตเป็น 660,000 คัน และ อีซูซุ จะมียอดจำหน่ายเติบโตตามตลาดที่ 160,000 คัน ด้านตลาด
รถพิคอัพ ปี 2550 มียอดจำหน่ายรวม 390,325 คัน อีซูซุ มียอดขาย 139,294 คัน คาดว่าปีนี้ตลาดรถ
พิคอัพจะเติบโตขึ้นเป็น 400,000 คัน โดย อีซูซุ วางเป้ายอดจำหน่ายรถพิคอัพ 148,000 คัน
อย่างไรก็ตาม หลังมีการเลือกตั้ง และมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ มีการประกาศแนวทาง
ที่จะนำโครงการใหม่ๆ มาใช้ ทำให้ความเชื่อมั่นในการจับจ่ายของผู้บริโภคดีขึ้น และหวังว่ารัฐบาลจะนำ
มาตรการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการเมกะโพรเจคท์ มาปฏิบัติให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างการ
เติบโตให้แก่เศรษฐกิจไทย โดยปัจจัยบวกที่มีผลต่อตลาดรถยนต์ คือ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
เมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองผ่อนคลายลง
ปัญหาราคาน้ำมัน ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูง ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาซัพพลาย โลน
ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ นโยบายด้านการเงินการลงทุนของรัฐบาล ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุน
ของนักลงทุนต่างชาติ
4 WHEELS : คุณอยากให้รัฐบาลชุดนี้สนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างไร ?
ชกกิ : ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลไทยทุกชุดดำเนินนโยบายที่ถูกต้องในการสนับสนุนอุตสาหกรรม
ยานยนต์ไทย อาทิ มีการติดต่อสื่อสารกับภาคเอกชน เพื่อรวบรวมข้อมูลในอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด
ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถเพื่อการส่งออก ที่สำคัญที่สุดในเขตเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเช่นนี้ต่อไป
4 WHEELS : คุณคิดว่าอะไร คือ จุดแข็งของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ?
ชกกิ : ที่ผ่านมาประเทศไทยให้ความสำคัญกับตลาดรถพิคอัพ ทั้งการจำหน่ายภายในและนอกประเทศ
ทำให้มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและทักษะการผลิตรถพิคอัพ ให้มีคุณภาพสามารถแข่งขันได้ใน
ตลาดโลก รวมถึง มีการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นฐานการ
ผลิตรถพิคอัพเพื่อการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยยังต้องเร่งพัฒนา คือ บุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีสถาบันการศึกษา ที่เปิดสอนหลักสูตรยานยนต์มากขึ้น แต่บุคลากรด้านนี้
ยังไม่เพียงพอ ภาครัฐควรเร่งส่งเสริมทั้งทางด้านคุณภาพและปริมาณ อีซูซุ เองกำลังวางนโยบายในการ
พัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการ
และจะลงมือปฏิบัติให้เกิดผลอย่างรวดเร็วที่สุด อาทิ การพัฒนาสื่อการเรียนการสอน โพรแกรม
การศึกษา และการเพิ่มพูนความรู้ความเชี่ยวชาญของอาจารย์ผู้สอน
4 WHEELS : จากโครงการอีโคคาร์ คุณคิดว่าในอนาคต ความนิยมรถเล็กจะมีผลกระทบต่อตลาด
รถพิคอัพหรือไม่ ?
ชกกิ : โครงการอีโคคาร์ ไม่มีผลกระทบต่อตลาดรถพิคอัพ เนื่องจากโครงสร้างของประเทศไทย
มีจำนวนประชากรในเขตกรุงเทพ ฯ และปริมณฑลประมาณ 20 % อีก 80 % อาศัยอยู่ต่างจังหวัด
และประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในต่างจังหวัด นิยมใช้รถพิคอัพในการ
ประกอบอาชีพ และการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งโครงสร้างนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับโครงการอีโคคาร์ น่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลต้องการสร้างเสาหลักที่ 2 ให้กับอุตสาหกรรม
ยานยนต์ไทย ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ถูกต้อง แต่การสร้างเสาที่ 2 ต้องไม่ทำให้เสาเดิมที่มีอยู่คลอนแคลน
หรือไม่แข็งแรง รัฐบาลต้องทำให้ 2 เสานี้มีความแข็งแกร่ง จึงจะทำให้ประเทศไทยได้เปรียบใน
อุตสาหกรรมโลก
4 WHEELS : วางนโยบายการตลาดในปีนี้อย่างไร ?
ชกกิ : จากการทบทวนแนวปฏิบัติที่ผ่านมา อีซูซุ ได้รวบรวมแนวความคิดหนึ่งขึ้นมา คือ ISUZU SPIRIT
หรือ วิถี อีซูซุ โดยมีนโยบายหลักที่ต้องปฏิบัติ คือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่สามารถตอบสนองความ
ต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จากการวิจัยของบริษัท ฯ ต่อความต้องการรถของ
ผู้บริโภค คือ ใช้งานง่าย ประหยัดน้ำมัน หาอะไหล่ซ่อมบำรุงง่าย ราคาเหมาะสม คุณภาพดี ง่ายต่อ
การบำรุงรักษา และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การพัฒนาเครือข่ายการจำหน่ายอะไหล่และบริการ
เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุด โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการเป็น 300 แห่งภายในปีนี้
จากเดิมมีอยู่ 270 แห่ง
นอกจากนี้ยังมี ISUZU COMMUNITY หรือ ประชาคม อีซูซุ ซึ่งนอกจากบุคลากรภายในของ บริษัท ฯ
และผู้แทนจำหน่ายแล้ว ยังหมายความรวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผู้ผลิตรถยนต์
ชิ้นส่วน อะไหล่ ผู้ประกอบการอู่ต่อตัวถัง รวมไปถึงลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ อีซูซุ โดย ประชาคม อีซูซุ
ตั้งขึ้นเพื่อนำแนวคิดของ วีถี อีซูซุ ไปปฏิบัติ
สำหรับกิจกรรมทางการตลาดในปีนี้ เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา อาทิ การแข่งขันฟุตซอลยุวชน
อีซูซุ, อีซูซุ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ ซีรีส์ นอกจากนี้ยังมีงานมหกรรม อีซูซุ หรือ ISUZU FESTIVAL,
ISUZU SHOW และ ISUZU FAMILY DAY
4 WHEELS : ปีนี้มีนโยบายเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หรือไม่ ?
ชกกิ : บริษัท ฯ ยังคงเน้นการทำตลาด อีซูซุ ดี-แมกซ์ โกลด์ ซีรีส์ ต่อไป และจะผลิตรุ่นเอดิชันของ อีซูซุ มิว-7 โกลด์ ซีรีส์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ที่ให้ความสนใจรถยนต์รุ่น โกลด์ ซีรีส์ เป็นอย่างมาก ในส่วนของรถบรรทุก ปีนี้มีแผนเปิดตัวรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่รุ่นใหม่ เป็นเจเนอเรชันใหม่ของ อีซูซุ ตัวรถมีการเปลี่ยนโฉมใหม่ ใช้เครื่องยนต์ยูโร 3 ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมัน ให้พลังแรงจัด โดยจะเริ่มทยอยเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 นี้เป็นต้นไป ภายใต้แนวคิด อีซูซุ คู่คิดมืออาชีพ
4 WHEELS : วางเป้าหมายสำหรับตลาดส่งออกในปีนี้ไว้อย่างไร ?
ชกกิ : ปี 2550 อีซูซุ มียอดส่งออกประมาณ 130,000 คัน เป็นรถยนต์ประกอบสำเร็จรูป หรือซีบียู 60,000 คัน ชิ้นส่วนซีเคดี 70,000 คัน และตั้งเป้าหมายในปีนี้ไว้ที่ 150,000 คัน เป็นซีบียู 70,000 คัน และชิ้นส่วนซีเคดี 80,000 คัน รวมทั้งมีแผนเปิดตลาดใหม่ในแถบยุโรปตะวันออก หลังจากปีที่แล้ว เปิดตลาดใหม่ในประเทศฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ความสำเร็จของการส่งออกนี้ มาจากการที่บริษัท ฯ ส่งออกทั้งฮาร์ดแวร์ คือ รถยนต์ และ ซอฟท์แวร์ คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทยไปพร้อมกัน
4 WHEELS : รู้สึกอย่างไรกับความสำเร็จของ อีซูซุ ในประเทศไทย ?
ชกกิ : ความสำเร็จของ อีซูซุ ในเมืองไทยมาจากการเดินใน วิถี อีซูซุ คือ ผลิตรถที่ลูกค้าต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีระบบการบริการหลังการขายและอะไหล่ ที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า สิ่งนี้ดูเหมือนเป็นปัจจัยพื้นฐาน แต่หากดำเนินการให้ประสบความสำเร็จได้ ก็จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม อีซูซุ ไม่ได้พึงพอใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาแล้วเท่านั้น อีซูซุ ได้วางพันธกิจเพื่อสร้าง
การเติบโตต่อไปในอนาคต รวมทั้งได้วางเป้าหมายในการขยายขอบเขตของ ประชาคม อีซูซุ
จากประเทศไทยไปทั่วโลก โดยการเสริมสร้างพื้นฐานของ อีซูซุ ในเมืองไทยให้แข็งแกร่ง เพื่อส่งให้ อีซูซุ ในตลาดอื่นทั่วโลก ประสบความสำเร็จเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ/นาทลดา ทองมาก
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2551
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/78261