โคโรลลา อัสทิส ใหม่ รถสำหรับ “แฟนพันธุ์แท้” เท่านั้น !

โคโรลลา เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กของ โตโยตา เริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี 2509 ประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมมายาวนาน พิสูจน์ได้จากยอดขายในประเทศที่ติดอันดับกลุ่มผู้นำมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจในระดับโลกว่า ตลอดระยะเวลา 42 ปี (2509-2550) ตั้งแต่ โตโยตา เริ่มผลิต โคโรลลา รุ่นแรก จนถึงรุ่นก่อนหน้านี้ มีผู้ซื้อ โคโรลลา ไปมากกว่า 30 ล้านคัน เฉลี่ยแล้ว จะมีรถ โคโรลลา 1 คัน ถูกซื้อไปทุกๆ 40 วินาที   โตโยตา โคโรลลา อัลทิส รุ่นที่ 10 รถเล็กที่ขยายมิติเทียบชั้นรถขนาดกลาง เป็นรุ่นที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่า มีการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบไม่มาก (พูดง่ายๆ ว่า ดูแล้วเหมือนเพียงไมเนอร์เชนจ์) ที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงที่ว่า จะเพียงพอสำหรับการสืบทอดการเป็นผู้นำด้านยอดขายหรือไม่ !?!   ฟอร์มูลา : เห็น โคโรลลา อัลทิส โฉมใหม่ แล้วมีความเห็นอย่างไรบ้าง ? คมกฤช : นี่ตัวใหม่แล้วเหรอครับ ! ภัทรกิตติ์ : นั่นไงละ ที่อาจารย์เห็นว่าไม่ต่าง เพราะตัวนี้เขาต้องการคงแบบเดิม แนวคิดเดิมๆ ไว้ คมกฤช : อาจารย์หมายความว่าอย่างไร ? ภัทรกิตติ์ : เขาไม่ต้องการแจ้งเกิดใหม่ ของมันขายดีอยู่แล้ว จะเอาอะไรอีก มันก็น่าจะขายได้เหมือนกันนั่นแหละ ฟอร์มูลา : จะไม่เป็นอย่างกรณี อวันซา แน่ใช่ไหมครับ ? ภัทรกิตติ์ : มันคนละสิ่งแวดล้อม อวันซา เป็นเซกเมนท์ใหม่ แต่สำหรับ โคโรลลา คนบ้านเราคุ้นเคยกันดี และเป็นของมีคุณภาพใช้ได้ ฟอร์มูลา : กำลังหมายความอีกอย่างว่า อวันซา คุณภาพไม่เท่า โคโรลลา ? ภัทรกิตติ์ : ไม่ใช่ครับ ผมหมายความว่า โคโรลลา คุณภาพใช้ได้ อย่างเดียวเลย โกศล : เอาละ...สุดท้ายมั่นใจว่าอย่างไรคนก็ซื้อเหมือนเดิม ภัทรกิตติ์ : ใช่ครับ เขาไม่ต้องการให้หัวใจเต้นถี่มากขึ้นแม้แต่น้อย ลูกค้าเดินเข้ามาเห็น แล้วเดินออกไปจากบูธ หัวใจเต้นเท่าเดิม เพราะพอเดินออกมา บางคนยังไม่รู้ว่าเป็นรถใหม่ โกศล : เขาพยายามออกแบบใหม่กันแล้ว อาจารย์ดูเส้นแต่ละเส้นที่โค้งขึ้นของเขาสิ คมกฤช : ใช่ แต่ผมรู้สึกว่าการออกแบบของเขาสับสนมาก อภิชาต : อย่าหาว่าผมเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนเลยนะ เวลาผมจะดูรถสักคัน ผมจะดูจาก ฐานล้อ เทียบกับตัวประตู สำหรับ อัลทิส ผมว่าการคำนวณฐานล้อเกือบดี แต่ยังไม่ถึงขั้นดีมาก ฟอร์มูลา : รุ่นนี้ด้านท้ายเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร เห็นเป็นอย่างไรบ้างครับ ? คมกฤช : สำหรับโฉมใหม่นี้ ไม่เป็นไปอย่างที่ผมหวังเลย โดยเฉพาะด้านท้ายนี่แหละ ภัทรกิตติ์ : โตโยตา อย่าว่ากันเลยนะครับ ผมว่า รถมันไม่สวยเท่าไร อภิชาต : ที่ทราบมา โตโยตา ใช้เวลาในการผลิตรถยนต์คันหนึ่งไม่นาน นั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่บ่งบอกว่ารถจะสวย หรือไม่สวยก็จริง แต่งานศิลปะ และเทคนิคการออกแบบ จะต้องมีเวลาพอสมควร เพื่อให้จินตนาการได้ตกผลึกบ้าง ฟอร์มูลา : มาดูที่ภายในกันต่อครับ ? ภัทรกิตติ์ : ดูเรียบๆ ขาดจินตนาการไปหน่อย แต่ยังดีกว่ารถญี่ปุ่นที่เป็นคู่แข่งระดับเดียวกันบางรุ่นที่ผม “ไม่ปลื้ม” แต่ยังไงก็ตาม พูดตามตรงนะครับว่า การออกแบบภายในไม่ทันสมัย ไม่ได้ดูใหม่กว่ารุ่นเดิมเท่าไรเลย ภายนอกก็ยังเป็นแนวคิดเดิมๆ ฟอร์มูลา : แต่รายละเอียดก็เปลี่ยนไปนะครับ หนนี้ โตโยตา ย้ายไฟตัดหมอกหลังมาไว้ที่กันชนไฟถอยหลังมี 2 ข้างแล้ว อภิชาต : รุ่นเก่ามีดวงเดียว ภัทรกิตติ์ : ดูแล้วเขาจะเปลี่ยนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่โครงสร้าง หรือรูปทรงหลักไม่เปลี่ยนมาก นักการตลาดเขาคงมองว่า แค่นี้ก็ประสบความสำเร็จดีอยู่แล้ว กลัวว่าหากทำอะไรใหม่ แล้วอาจไม่ประสบความสำเร็จ โตโยตา มีช่วงเวลาอย่างนี้หลายครั้ง ที่ออกแบบแล้วได้ผลิตภัณฑ์ไม่ค่อยเข้าตา คมกฤช : แต่ก็ขายดีนี่ ภัทรกิตติ์ : ขายดีเพราะบแรนด์ รูปร่างบางทีอาจไม่ถึง แต่เปิดออกมา โอ้โฮ ! ห้องโดยสารใหญ่โตห้องสัมภาระกว้าง วางถังแกสได้สบายๆ ฟอร์มูลา : แล้วตกลงสวยกว่ารุ่นเดิมไหมครับ ? ภัทรกิตติ์ : ถ้าคุณมีรุ่นเดิมอยู่แล้ว คุณไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ เพราะว่าทุกอย่างมันเหมือนเดิมนี่หมายถึงรูปทรงภายนอกนะ โกศล : แหม...ก็สวยดีอยู่หรอก ภัทรกิตติ์ : มีจุดหนึ่งที่ซ่อนความหมายอยู่ โตโยตา อยากบอกว่า โคโรลลา อัลทิส เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฟอร์มูลา : เหตุผล คือ...? ภัทรกิตติ์ : เพราะท่อไอเสียหลบอยู่จนมองไม่เห็น นั่นแหละครับ คือ สิ่งที่ โตโยตา อยากบอกว่ารถยนต์คันนี้ ไม่มีมลภาวะ ฟอร์มูลา : สรุปว่าอาจารย์ให้คนละกี่ดาวครับ ? ภัทรกิตติ์ : บอกอย่างนี้ดีกว่า ผมคาดว่า คนที่ชื่นชอบการออกแบบ เขาจะไม่ซื้อรถรุ่นนี้ คมกฤช : แต่สำหรับคนที่ชอบประโยชน์ใช้สอย ความง่ายของการใช้งาน เช่น การดูแลรักษา การซ่อมแซม อาจใช้ไปจนชั่วลูกหลาน หรือใช้ไม่นานก็ขายต่อได้ราคาดี เขาจะซื้อ ฟอร์มูลา : เดาว่า อาจารย์กำลังหมายถึงภาพลักษณ์ของบแรนด์ โตโยตา และความภักดีในตราสินค้าของผู้บริโภค อภิชาต : ถูกต้องครับ รถอาจถูกใจคนบางคน และไม่ถูกใจคนหลายคน แต่เชื่อว่าเรื่องชื่อชั้น และการบริการหลังการขาย คนไทยยังเชื่อว่า โตโยตา สามารถให้ความมั่นใจกับเขาได้ ภัทรกิตติ์ : ผมเชื่อว่า โตโยตา ไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงด้าน “สไตลิง” มากนัก แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดด้าน “เอนจิเนียริง” ไม่ว่าการจะทำให้รถเงียบขึ้น วิ่งดีขึ้น กินน้ำมันน้อยลง ประกอบเร็ว ง่าย ต้นทุนต่างๆ ต่ำลง คมกฤช : ที่สำคัญ สามารถขายในราคาเดิมได้ แต่กำไรเพิ่ม อาจมีการพยายามทำให้ภายในรู้สึกใหญ่ขึ้น เพราะมิติภายนอกของรุ่นนี้แทบไม่ต่างจากรุ่นเดิม โกศล : รุ่นนี้เขาแทบไม่ต้องการลูกค้าใหม่ เขาทำเพื่อขายแฟนพันธุ์แท้ !