วิถีตลาดรถ
สัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง
เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ที่ตลาดรถยนต์ในบ้านเราทำยอดจำหน่ายรวมเกิน 5 หมื่นกว่าคัน/เดือน เป็นสัญญาณชีพที่ดี แสดงให้เห็นถึงการเริ่มจะฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่งของตลาดรถในประเทศ หลังจากที่ซบเซามาตั้งแต่ต้นปี ส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดจำหน่ายรถเดือนสิงหาคม พุ่งกระฉูด เกิดจากการที่ค่ายรถต่างๆ พร้อมใจกันอัดแคมเปญ และกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะรถพิคอัพ ที่ไม่ว่าค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง โตโยตา หรือ อีซูซุ ต่างเปิดเกมรุกเดินหน้าแลกหมัดกันอย่างสนุกสนาน ทำให้กลายเป็นนาทีทองในการเลือกซื้อรถใหม่ ขณะที่สถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นปัจจัยลบไม่เกื้อหนุนต่อความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ อย่างเช่น สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายไปอีกเปลาะหนึ่ง เมื่อสำรวจประชามติว่า จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านพ้นไป โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว ทำให้ก้าวหน้าไปสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติตามครรลองระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้เบื้องต้น ปลายเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
ยอดจำหน่ายรถทุกประเภทในเดือนสิงหาคม รวมกันที่ 54,163 คัน ทำสถิติเป็นเดือนที่มียอดจำหน่ายสูงสุด นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลปี 2550 เป็นต้นมา เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว มีเปอร์เซนต์การเติบโตสูงขึ้น 1.0 % อยู่ในเกณฑ์เดียวกับเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรถนั่งส่วนบุคคล 14,437 คัน มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นจากเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา 4.9 % รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ 30,269 คัน ที่มีการอัดแคมเปญ และกิจกรรมกันอย่างหนัก จนทำให้ยอดจำหน่ายรวมสูงขึ้นกว่าเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่ก็ยังติดลบอยู่ 6.9 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ดีดตัวมาอยู่ในแดนบวก ด้วยยอดจำหน่ายรวม 2,554 คัน เติบโตสูงขึ้น 22.8 % ส่วนรถกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นตลาดรถที่มีการเติบโตสูงที่สุดในบรรดารถที่มีจำหน่ายอยู่ โดยเติบโตสูงขึ้นถึง 53.6 % จากยอดจำหน่ายทั้งสิ้น 2,817 คัน รถอเนกประสงค์ยังวนเวียนอยู่ในแดนลบไม่เปลี่ยนแปลง เดือนนี้ติดลบไป 6.6 % ทำยอดจำหน่ายได้ 524 คัน และรถประเภทอื่นๆ จำหน่ายได้อีก 3,562 คัน ปรับตัวสูงขึ้น 21.9 %
ตลาดรถนั่งส่วนบุคคล ดูเหมือนว่า ฮอนดา ที่มียอดจำหน่ายในเดือนสิงหาคมนี้ อยู่ในอันดับที่ 2เหมือนเช่นทุกเดือน จะโดนผลกระทบจากกระแสข่าวรถรุ่นใหม่ ฮอนดา แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 8 กำลังจะออกมาเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ โตโยตา แคมรี อย่างช้าในช่วงต้นปี 2551 โดยเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว ฮอนดา มียอดจำหน่ายที่แตกต่างกันถึง 27.9 % เดือนสิงหาคมปีนี้จำหน่ายได้ 4,025 คัน ขณะที่ปีที่แล้วจำหน่ายได้ 5,154 คัน ถึงแม้ โตโยตา เองก็มีกระแสข่าวของ โตโยตา อัลทิส ใหม่ แต่ก็ยังครองความเป็นเบอร์ 1 ของตลาดรถนั่งอย่างเหนียวแน่นและเนิ่นนาน เดือนสิงหาคมนี้ โตโยตา จำหน่ายรถนั่งทุกรุ่นได้ 8,256 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 57.2 % ในขณะที่ เชฟโรเลต์ ยังไปได้เรื่อยๆ เกาะอยู่ในอันดับ 3 ด้วยยอดจำหน่ายทั้ง อาวีโอ และออพทรา รวมกัน 627 คัน
อันดับ 4 เป็นของ นิสสัน ที่เพิ่งจะได้มือดีจาก เมร์เซเดส-เบนซ์ ที่ครบวาระหมดเทอมการทำงานในเมืองไทย แต่ติดอกติดใจไม่ยอมกลับเยอรมนี ลาออกมารับตำแหน่งใหญ่ ดูแลด้านงานขายทั้งหมดของ นิสสัน ต้องดูกันไปว่าจากงานขายรถระดับบแรนด์เนม มาเป็นรถระดับชาวบ้าน จะฉลุยพา นิสสัน ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของตลาดรถนั่งได้หรือไม่ ?
เดือนสิงหาคม นิสสัน จำหน่ายได้ 427 คัน ส่วน เมร์เซเดส-เบนซ์ อยู่ในช่วงวาระของการดัน เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสส์ รุ่นปัจจุบันออกจากโชว์รูมไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อเปิดโอกาสให้กับ ซี-คลาสส์ รุ่นใหม่ ได้แจ้งเกิดบ้าง จำหน่ายทั้ง เอ-คลาสส์, ซี-คลาสส์, อี-คลาสส์ และ เอส-คลาสส์ ได้ 338 คัน เกาะอยู่ในอันดับที่ 5 ของตารางยอดจำหน่ายรถนั่ง และเมื่อรวมตั้งแต่ต้นปี ยอดจำหน่ายรถนั่งป้ายแดงทั้งที่ผลิตในประเทศ และนำเข้าสำเร็จรูปจากฐานการผลิตนอกประเทศ รวมกันอยู่ที่ 108,123 คัน แตกต่างจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 7.2 %
รถพิคอัพ 1 ตัน แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ถ้าดูจากตัวเลขแล้ว ต้องบอกว่า อีซูซุ ได้ใจคอพิคอัพไปมากกว่าทั้งจากแคมเปญพิเศษ และการจัดกิจกรรม อีซูซุ เฟสติวัล ครั้งที่ 2 เพราะ อีซูซุ กลับมาทำยอดจำหน่ายได้สูงที่สุดในเดือนสิงหาคมนี้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยยอดจำหน่าย 12,179 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 40.2 % ขณะที่ โตโยตา ออกสตาร์ทการจัดงาน วีโก สเปเชียล เดย์ ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน ทำยอดจำหน่ายได้ 11,802 คัน ตามหลัง อีซูซุ ไม่เท่าไร อยู่ในอันดับ 2 แต่ระยะยาวแล้ว โตโยตา น่าจะมียอดจำหน่ายที่เป็นกอบเป็นกำ และกลับมาครองความเป็นเบอร์ 1 ในตารางยอดจำหน่ายแต่ละเดือนได้อีกครั้ง เพราะ โตโยตา กำหนดจัดงาน วีโก สเปเชียล เดย์ อย่างต่อเนื่องไปยังต่างจังหวัด ในช่วงเดือนกันยายน ก็น่าจะกวาดยอดจำหน่าย ไฮลักซ์ วีโก มาได้อีกไม่ใช่น้อย
อันดับที่ 3 ในเดือนสิงหาคม เป็นของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา ที่มีข้อเสนอพิเศษให้อย่างจุใจ ยังคงมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เดือนนี้จำหน่ายได้ 1,984 คัน ส่วน มิตซูบิชิ ทไรทัน ยังคงสนุกสนานเพลิดเพลินกับการใช้ทองคำเป็นสิ่งดึงดูดใจลูกค้า ทำยอดจำหน่ายอยู่ในอันดับ 4 ด้วยตัวเลข 1,568 คัน และมาซดา โดดขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 แซงหน้า ฟอร์ด ด้วยยอดจำหน่าย 964 คัน สงสัยคงเป็นเพราะพลังพญานาคหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?
ส่วนรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ อันดับ 1 ของตลาดเป็นของ โตโยตา จำหน่ายได้ 1,489 คัน มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 58.3 % อีซูซุ ตามมาห่างๆ เป็นอันดับ 2 จำหน่ายได้ 576 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 22.6 % อันดับ 3 เป็นของ มิตซูบิชิ 185 คัน รับส่วนแบ่งตลาด 7.2 % อันดับ 4 เป็น นิสสัน 178 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.0 % และอันดับ 5 เป็นของฟอร์ด 77 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.0 %
และเมื่อรวมทั้งประเภทขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ อันดับ 1 ของตลาด ตกเป็นของ โตโยตา ด้วยยอดจำหน่ายรวมกัน 13,291 คัน ขณะที่ อีซูซุ มียอดจำหน่ายรวมที่ 12,755 คัน ตามหลัง โตโยตา อยู่ 536 คัน แต่ถ้ารวมตั้งแต่ต้นปีมา เห็นทีตำแหน่งแชมพ์ในประเภทพิคอัพ รวมขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ คงหนีไม่พ้น โตโยตา อย่างแน่นอน ! เพราะนำหน้าเกือบ 1.5 หมื่นคัน โอกาสที่ อีซูซุ จะไล่ทัน คงยิ่งกว่า "เข็นครก ขึ้นภูเขา"
สำหรับรถกิจกรรมกลางแจ้ง ที่มีการเติบโตสูงที่สุดในปีนี้ ก็ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไป เดือนสิงหาคม โตโยตา จำหน่ายได้ 1,138 คัน มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 40.4 % ตามด้วย อีซูซุ 614 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 21.8 % อันดับ 3 เป็นของ ฮอนดา 500 คัน ส่วนแบ่งตลาด 17.7 % อันดับ 4 เป็นของ เชฟโรเลต์ ที่ออกสตาร์ท แคพทีวา ได้ไม่เลว เดือนนี้เดือนเดียวกดไป 321 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 11.4 % นี่ถ้ายังแรงดี สีไม่ตก ซีอาร์-วี ของ ฮอนดา มีสิทธิ์หนาว และอันดับ 5 เป็นของ ฟอร์ด จำหน่ายได้ 123 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.4 %
และรถอเนกประสงค์ อันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม ยังเป็นของ โตโยตา 380 คัน ส่วนแบ่งตลาด 72.5 % มิตซูบิชิ อยู่ในอันดับ 2 ด้วยตัวเลข 77 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.7 % อันดับ 3 เป็นของ ซูซูกิ 31 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9 % อันดับ 4 และ 5 เป็นของรถจากแดนจูมง เกาหลีใต้ เกีย อยู่ในอันดับ 4 ค้าขายได้ 17 คัน และซังยง 14 คัน คว้าอันดับ 5 มีส่วนแบ่งตลาด 3.2 และ 2.7 % ตามลำดับ
ในเดือนกันยายน เป็นอีกเดือนที่ยังมีการจัดแคมเปญพิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องโดยค่าย เชฟโรเลต์ จัดงาน เชฟวี โอเค เดย์ ซึ่งน่าจะทำให้ยอดจำหน่ายของ เชฟโรเลต์ ทุกรุ่นเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะ เชฟโรเลต์ แคพทีวา จะขยับขึ้นไปหายใจรดต้นคอ ฮอนดา ซีอาร์-วี ได้มากน้อยเพียงไร การศึกหนนี้น่าสนใจยิ่งนัก
ยอดจำหน่ายรถยนต์ ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม
รถนั่งส่วนบุคคล 108,123 คัน ลดลง 7.2 %
พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ 219,667 คัน ลดลง 13.0 %
พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ 15,660 คัน ลดลง 22.4 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง 22,663 คัน เพิ่มขึ้น 15.6 %
รถอเนกประสงค์ 5,455 คัน ลดลง 21.1 %
รถประเภทอื่นๆ 26,267 คัน เพิ่มขึ้น 12.3 %
รวม 397,835 คัน ลดลง 9.4 %
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2550
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/77521