X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รู้ไว้ใช่ว่า
1 Nov 2007
โชเฟอร์ "ติดคุก"
คดีนี้มาในแนวที่ถือว่าแปลกก็น่าจะได้ เรื่องของเรื่องเกิดจากการ "แบกน้ำหนัก" ของรถบรรทุกทั้งหลาย ในบ้านเรา ซึ่งเกิดขึ้นเป็นปกติ แม้จะมีกฎหมายเอาผิดและเลยเถิดไปถึงการริบรถบรรทุกของผู้ที่กระทำความผิด อย่างว่า การบังคับใช้กฎหมายในเมืองไทยมันไม่เป๊ะ เป๊ะ มีการหาช่องหารูไม่ให้โดนจับ มีสิ่งที่เรียกว่าการ"เคลียร์" กับเจ้าหน้าที่ หรือถ้าโดนจับ เจ้าของรถก็เด้งเชือก อ้างว่าหนูไม่รู้ ไอ้โชเฟอร์มันทะลึ่งไปแบกน้ำหนักเอง การบรรทุกเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจึงมีอยู่ทั่วไป รายไหนซวยจึงโดนจับโดนฟ้อง ซวยจริงๆ จึงโดนริบรถ งานนี้คนซวยขนานแท้ คือ "นายสมานฉันท์" ซึ่งเป็นโชเฟอร์รถ 10 ล้อ คันที่โดนจับ ข้อหาบรรทุกน้ำหนักเกิน เพราะถูกต้อนขึ้นศาลในฐานะจำเลยคดีอาญา แถมยังหนีไปต่างประเทศก็ไม่ได้ สู้คดีก็ไม่ไหว โดนจับได้คารถคาเขา พอเจอผู้พิพากษาบนบัลลังก์จึงปากซีดคอสั่น ให้การรับสารภาพผิดตามฟ้อง ศาลชั้นต้นมาแรง ท่านคงเบื่อที่เห็นรถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งเพ่นพ่าน ตัดสินลงโทษจำคุกนายสมานฉันท์ 3 เดือน โดยไม่มีการลดกึ่ง แม้จะให้การรับสารภาพ แถมยังสั่งริบรถบรรทุก ทำให้เถ้าแก่ที่เป็นเจ้าของหน้าเหลือง จำเลยคือ นายสมานฉันท์ ไม่อยากติดคุกตั้ง 3 เดือน จึงยื่นอุทธรณ์ขอความเมตตาให้ศาลท่านรอการลงอาญา ถ้าจะเอาเข้าคุกจริงๆ ขอลดกึ่ง เพราะอุตส่าห์ให้การรับสารภาพมาแต่ต้น ขณะที่อัยการโจทก์ก็อุทธรณ์กะเขาเหมือนกัน และถือว่าแปลก คือ ขอไม่ให้ศาลสั่งริบรถในคดีนี้ อ้างว่าโจทก์ไม่ร้องขอไว้ในคำฟ้อง ศาลจึงสั่งริบเองไม่ได้ ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพยักหน้าเอาด้วยกับนายสมานฉันท์ ยอมลดโทษให้กึ่งหนึ่งเพราะรับสารภาพ พิพากษาแก้ ให้จำคุก 1 เดือน 15 วัน แต่ไม่รอลงอาญา ส่วนรถบรรทุกของกลาง ศาลอุทธรณ์ให้ริบตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ ไม่คืนให้เจ้าของดังที่อัยการโจทก์อุทธรณ์ อัยการโจทก์ถึงกับกุมขมับ เพราะถ้าปล่อยไว้ไม่โต้แย้ง อาจต้องรับผิดกับเจ้าของรถ เพราะปล่อยให้รถ โดนริบ ทั้งๆ ที่มีพยานหลักฐานในชั้นสอบสวน และในสำนวนของอัยการว่า เจ้าของไม่ได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด หรือบรรทุกน้ำหนักเกิน อัยการมองว่าเมื่อโจทก์ คือ อัยการไม่ได้ร้องขอให้ริบ ศาลย่อมสั่งริบรถไม่ได้ จึงตัดสินใจยื่นฎีกาคัดค้านในแง่นี้ต่อศาล ศาลฎีกาเขม่นมองดูคดีนี้แล้วชี้ขาดออกมาว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจแก่ศาลในการลงโทษริบทรัพย์สินซึ่ง บุคคลได้ใช้ หรือมีไว้ใช้ในการกระทำความผิด แต่ศาลจะพิพากษาหรือสั่งเอง โดยโจทก์มิได้ฟ้องหรือมีคำขอมาในฟ้องหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามตาม วิ. อาญา มาตรา 192 วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า ห้ามมิให้พิพากษาหรือสั่งเกินคำขอหรือที่มิได้กล่าวในฟ้อง เมื่อคดีนี้โจทก์มิได้มีคำขอให้ริบรถบรรทุก 10 ล้อของกลาง ศาลจึงพิพากษาหรือสั่งริบรถของกลางไม่ได้ การที่ศาลล่างสั่งให้ริบรถบรรทุก 10 ล้อ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้ ไม่ริบรถ นอกนั้นคงเดิม นั่นหมายถึง ลูกจ้างของเถ้าแก่รถ คือ นายสมานฉันท์ ซวยลูกเดียว ซวยคนเดียว และติดคุกสถานเดียว ขณะที่เถ้าแก่ คือ เจ้าของรถได้รถคืน นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงนะนายจ๋า !
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7577/2548
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2550
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/77519
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
รู้ไว้ใช่ว่า
รู้ไว้ใช่ว่า
28 Mar 2017
ขนคนเข้าเมือง
รู้ไว้ใช่ว่า
3 Mar 2017
ไฟแนนศ์ปล้น
รู้ไว้ใช่ว่า
2 Feb 2017
ใช้รถอย่ารั่ว
รู้ไว้ใช่ว่า
31 Dec 2016
สนุกกับรถ
รู้ไว้ใช่ว่า
29 Nov 2016
ยุ่ยไปหน่อยมั้ง !
ดูต่อในคอลัมน์ รู้ไว้ใช่ว่า