นักดำน้ำอาชีพจะรู้ดีว่า การไปดำน้ำ ปกติแล้วต้องขึ้นเรือกลับมานอนบนเกาะ หรือบน
แผ่นดินใหญ่ แต่ถ้าหากสถานที่ดำน้ำ บังเอิญอยู่ห่างจากเกาะเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง กว่านักดำ
น้ำจะกลับถึงฝั่งก็คงมืดค่ำ และเหนื่อยอ่อนมากแล้ว พวกเราจึง กิน-นอน (LIVE-ABOARD)
กันบนเรือเสียเลย
เมื่อบริษัทสร้างเรือรู้ดังนี้ เขาจึงผลิต “เรือกิน-นอน” ขึ้นมาเฉพาะ โดยแบ่งเป็นหลายขนาด ขนาดเล็กไม่มี เพราะผลิตไม่คุ้ม ถ้าขนาดปานกลางจะมีห้องนอนอยู่ประมาณสิบห้อง นอนได้ห้องละ 2 คน ไม่มีห้องน้ำในตัว แต่จะมีห้องน้ำส่วนกลางประมาณ 3-4 ห้อง ถ้าเป็นขนาดใหญ่จะมีห้องมากกว่านี้ และมีห้องน้ำในตัวด้วย แต่ส่วนใหญ่บ้านเราจะใช้ขนาดปานกลางมากกว่า
นักดำน้ำจึงต้องแบ่งกันใช้ห้องน้ำตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเรือ และจะต้องใช้น้ำจืดอย่างประหยัดที่สุด
เพราะถ้าน้ำหมดก็ไม่รู้จะไปหาเติมที่ไหน พวกเราดำน้ำกันวันละ 4 ครั้ง เมื่อขึ้นจากทะเลต้องใช้แค่
น้ำฝักบัวรดศีรษะ และราดตัวเท่านั้น จะอาบน้ำสระผมก็เฉพาะก่อนนอน
ตลอดทั้งวันเราเลยต้องนั่งผึ่งลมอยู่นอกห้องนอน เพราะตัวจะชื้นตลอดเวลา และนั่งคุยกันที่โถงสำหรับทานอาหาร หรือนั่งหลับกันตรงนั้นไปเลยหากรู้สึกเพลีย
การดำน้ำภายในประเทศ ส่วนใหญ่จะกิน-นอนบนเรือประมาณ 4 คืน 5 วัน แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ
ส่วนใหญ่จะอยู่กันประมาณ 6 คืน 7 วัน ช่วงเวลาที่อยู่บนเรือด้วยกัน พวกเราจะต้องทานอาหารพร้อม
กันอย่างน้อยที่สุดก็วันละ 4 มื้อ
แม้ว่านักดำน้ำจะมาจากต่างที่ต่างถิ่น เพิ่งรู้จักกัน แต่ก็สนิทสนมกันเร็ว เนื่องจากบนเรือนั้นแคบ
หนีหน้ากันไม่พ้น เลยต้องนั่งคุยและสังสรรค์กันเกือบทั้งวันทั้งคืน ใครมีของกินส่วนตัวก็ต้องเอาออกมาตั้งไว้เป็นส่วนกลางในที่ทานอาหาร อีกอย่างหนึ่ง เรือส่วนใหญ่มักจะไม่อนุญาตให้เก็บของกินไว้ใน
ห้องนอน เพราะจะทำให้มีแมลง ทั้งห้องนอนก็แคบ เป็นเตียงนอน 2 ชั้น ต้องตะกายขึ้นไปนอน
ถ้าโชคร้ายหวยออกก็ต้องนอนชั้นบน
ดังนั้น นักดำน้ำที่ “ลงเรือลำเดียวกัน” จะมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ เมื่อกลับมาบ้านแล้วก็ยัง
นัดทานข้าว และแลกเปลี่ยนรูปถ่ายในทริพนั้นกันอยู่เสมอๆ
Model | Start Price (THB) |