มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ
มหกรรมยานยนต์โตเกียว
ผู้รายงานข่าว "มหกรรมยานยนต์โตเกียว" มีโอกาสเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1985 เป็นการเดินทางตามคำเชิญของ ฮอนดา มอเตอร์ ประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ 2 ประการ คือ เพื่อไปชมการแข่งรถที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า MILEAGE MARATHON อันเป็นการแข่งขันยานยนต์ประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนั้นทั้งในญี่ปุ่นและในประเทศไทย กับเพื่อเหยียบย่างเข้าสู่งาน "มหกรรมยานยนต์โตเกียว" เป็นครั้งแรกในชีวิต ขณะลืมตาดูโลกมาแล้วเกินกว่า 30 ปี
ปีนั้นเป็นงาน THE TOKYO MOTOR SHOW หรือ "มหกรรมยานยนต์โตเกียว" ครั้งที่ 26 ยังจัดอยู่ที่เดิม คือ ฮารูมิ แฟร์กราวน์ด (HARUMI FAIRGROUND) ซึ่งเป็นที่ดินถมอยู่ริมทะเลชานกรุงโตเกียว และเป็นที่จัดงานนี้มาตั้งแต่ปี 1959 จากปีนั้นจนถึงปีนี้ ทุกๆ เดือนตุลาคมในปีคริสตศักราชที่ลงท้ายด้วยเลขคี่ เราก็ถือเป็นภารกิจที่จะต้องเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นเป็นประจำไม่เคยขาดแม้เพียงหนึ่งครั้ง โดยจุดมุ่งหมายก็มีอยู่เพียงอย่างเดียวแท้ๆ คือ THE TOKYO MOTOR SHOW หรือ "มหกรรมยานยนต์โตเกียว"
ปีคริสตศักราช 2007 นี้ เป็นการจัดงาน "มหกรรมยานยนต์โตเกียว" ครั้งที่ 40 สถานที่จัดงานเป็นที่ใหม่ คือ มาคูฮาริ เมสเซ (MAKUHARI MESSE) ซึ่งก็เป็นที่ดินถมอยู่ริมทะเลเหมือนกัน แต่อยู่ห่างจากใจกลางของกรุงโตเกียวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้หลาย 10 กิโลเมตร อยู่ในจังหวัดชิบะ (SHIBA) ใช้เป็นที่จัดงานนี้มาแล้วเกือบ 20 ปี คือ ตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งเป็นงาน "มหกรรมยานยนต์โตเกียว" ครั้งที่ 28 เป็นต้นมา กำหนดงานจัดไว้ยาวเหยียดถึง 19 วัน โดยที่ 2 วันแรก คือ วันพุธที่ 24 และวันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม เป็นวัน PRESS DAY ที่สงวนไว้สำหรับสื่อมวลชน วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ และเข้างานได้เฉพาะแขกรับเชิญ ที่เหลืออีก 16 วัน คือ จากวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม จนถึงวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน จึงเปิดให้ชมทั่วไป
ตามสายตาที่มองเห็น ญี่ปุ่นและโดยเฉพาะมหานครโตเกียว เป็นดินแดนที่มีการเคลื่อนไหวและ
เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก บ้านเมืองเปลี่ยนแปลง ร้านรวงเปลี่ยนแปลง สินค้าที่ซื้อขายกันก็เปลี่ยน
แปลง ของบางอย่างที่ซื้อได้ปีนี้ อีก 2 ปีไปหาซื้อใหม่ ปรากฏว่าไม่มีขายแล้วเพราะของตกรุ่น แถมบางทีร้านที่เคยขายก็เปลี่ยนกิจการไปเรียบร้อยแล้วอีกต่างหาก "มหกรรมยานยนต์โตเกียว" ก็เช่นเดียวกัน ในอดีตจุดขายสำคัญของงานแสดงรถยนต์รายการนี้ คือ CONCEPT CAR หรือ "รถแนวคิด" กับ "สาวประจำรถ" ที่เรียกกันในภาษาฝรั่งว่า PRETTY งานครั้งหลังๆ นี่ อย่างแรกยังอุดมสมบูรณ์อยู่ แต่อย่างหลังดูแทบจะสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว มีหลงเหลืออยู่บ้างก็เพียงนิดๆ หน่อยๆ อย่างที่เห็นในภาพประกอบ
โตโยตา 1/เอกซ์
TOYOTA 1/X จุดโฟคัสสายตาในบูธของค่ายยักษ์ใหญ่ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถพันทาง
ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 500 ซีซี ซึ่งใช้เบนซินหรือไบโอเอธานอลเป็นเชื้อเพลิง ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถประจุไฟด้วยไฟบ้านทั่วๆ ไป ตัวถังซึ่งทำจาก CFRP หรือ
CARBON FIBER REINFORCED PLASTIC มีน้ำหนักตัว 420 กก. หรือประมาณ 1 ใน 3 ของรถพันทาง โตโยตา ปรีอุส (TOYOTA PRIUS) ที่กำลังดีอยู่ในขณะนี้ จึงสามารถเดินทางได้ไกลกว่าโดยใช้พลังงานเท่าๆ กัน
โตโยตา เอชไอ-ซีที
TOYOTA HI-CT หนึ่งในจำนวนผลงานใหม่นับ 10 ชิ้น ที่ยักษ์ใหญ่ของเมืองยุ่นนำออกอวดตัวเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถ 4 ที่นั่งสำหรับใช้งานในเมือง ที่สามารถพลิกแพลงพื้นที่ในห้องโดยสารเพื่อบรรทุกสัมภาระสิ่งของได้อย่างหลากหลาย ตัวถังซึ่งยาว 3.330 ม. กว้าง 1.695 ม. และสูง 1.780 ม. มีหน้าตาและรูปทรงองค์เอวที่ผู้ออกแบบบอกว่า ได้แรงบันดาลใจจากเรือนร่างของลิงกอริลลา เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยพลังไฟฟ้า โดยติดตั้งหม้อแบทเตอรีซึ่งสามารถประจุไฟด้วยไฟบ้าน 110 โวลท์ไว้ใต้พื้นรถ ห้องเก็บของท้ายรถออกแบบเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมมีฝาปิด และสามารถถอดออกได้ จึงมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการบรรทุกข้าวของซึ่งมีขนาดใหญ่ หรือยาวอย่างกระดานโต้คลื่น และรถจักรยานได้โดยสะดวก
โตโยตา อาร์ไอเอน
TOYOTA RIN ผลงานใหม่อีกชิ้นหนึ่งที่ทำให้ผู้คนไม่อยากเดินออกจากบูธของค่าย โตโยตา เป็นรถ
แนวคิดที่เอกสารประชาสัมพันธ์ของค่ายนี้ระบุว่า ออกแบบเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ขับและผู้โดยสาร ตัวถังทรงกล่องเดียวเคลือบสีขาวสลับเขียว ยาว 3.250 ม. กว้าง 1.690 ม. และสูง 1.650 ม. มีรูปทรงองค์เอวด้านหน้าและด้านหลังเหมือนๆ กัน และมีห้องโดยสารติดตั้งกระจก GREEN GLASS ซึ่งช่วยกรองรังสีอุลทราไวโอเลทและอินฟราเรดได้อย่างดี ประตูข้างส่วนล่างก็ออกแบบเป็นกระจกใส ทำให้เห็นทัศนียภาพภายนอกได้จนถึงระดับดิน นอกจากนั้นในห้องโดยสารยังติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยปรับความชื้นและปริมาณแกสออกซิเจนให้พอเหมาะ แถมเก้าอี้ที่นั่งก็มีเครื่องทำความอุ่นอยู่ในตัวอีกต่างหาก
โตโยตา ไอ-เรียล
TOYOTA I-REAL พัฒนาการล่าสุดของยานยนต์ที่นั่งเดี่ยว ยังเรียกความสนใจได้ดีเหมือนรถแบบ
เดียวกันนี้ที่ปรากฏตัวมาก่อนแล้วในงานอื่นๆ ในชื่อ พีเอม (PM) ไอ-ยูนิท (I-UNIT) และ ไอ-สวิง
(I-SWING) คันล่าสุดนี้ก้าวล้ำนำหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง มีขนาดตัวถังเล็กกะทัดรัดกว่าคันก่อนๆ คือ ยาวแค่ 0.995/1.510 ม. กว้างแค่ 0.700 ม. และสูงแค่ 1.430/1.125 ม. เป็นรถสำหรับงานใช้งานในเมือง ที่ช่วยให้คุณไปได้ในทุกที่ที่ต้องการ แม้เป็นที่แคบที่ทำได้แค่เดินสวนกัน เอกสารประชาสัมพันธ์ของค่ายยักษ์ใหญ่ระบุไว้อย่างนั้น มีลักษณะการเคลื่อนที่ 2 แบบ คือ แบบ WALKING MODE และแบบ SPRINT MODE สามารถไปได้เร็วกว่า 40 กม./ชม. และจะมีอาการสั่นและเสียงร้องเตือนผู้ขับ เมื่อเคลื่อนเข้าใกล้คนหรือสิ่งของใดๆ
เลกซัส แอลเอส-เอกซ์เอช
LEXUS LS-XH รถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถกิจกรรมกลางแจ้งอนุกรมใหม่ ที่ค่ายนี้จะผลิตขายใน
อนาคตอันใกล้ เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยระบบพันทาง โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง
โตโยตา เอฟที-เอมวี
TOYOTA FT-MV รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของ MPV หรือ "รถอเนกประสงค์" ที่ให้ความสะดวกสบาย
เหมือนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาวสุดหรู ตัวถังทรงกล่องเดียว ยาว 4.900 ม. กว้าง 1.850 ม.
และสูง 1.890 ม. ติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถว นั่งได้รวม 6 คน เก้าอี้ที่นั่งแถว 2 ออกแบบอย่างอลังการ์
และนั่งสบายราวกับเก้าอี้ในเครื่องบินสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ปรับและควบคุมการทำงานในลักษณะ
อย่างที่เรียกกันในภาษาฝรั่งว่า FULLY-ELECTRIC POWERED
โตโยตา คราวน์ ไฮบริด คอนเซพท์
TOYOTA CROWN HYBRID CONCEPT หน้าตาเหมือนรถที่มีจำหน่ายแล้วในตลาด ที่จริงยังมีฐานะ
เป็นเพียงรถแนวคิด แต่ก็เชื่อได้เลยว่าอีกไม่นานคงกลายสภาพเป็นรถตลาด พัฒนาจากรถ โตโยตา
คราวน์ รุ่นสามัญ โดยเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน จากขับด้วยเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาๆ เป็นขับด้วยระบบพันทาง (HYBRID DRIVE) โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า แล้วเติมสรรพเทคโนโลยีอันก้าวล้ำนำสมัยเข้าไปเพียบ ตัวอย่างคือ ระบบ THS II หรือ TOYOTA HYBRID SYSTEM II ซึ่งใช้อุปกรณ์ลดความเร็วมอเตอร์แบบ TWO-STAGE ซึ่งช่วยให้ได้อัตราเร่งที่ราบเรียบ ประหยัดเชื้อเพลิง และปล่อยไอพิษต่ำ กับระบบ PRE-CRASH SAFETY SYSTEM ซึ่งใช้เรดาร์ตรวจจับผู้คนและสิ่งกีดขวางเบื้องหน้า
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา
ภาพโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา และ ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/77185