ดาร์ราซ์กค แซร์แอสเนส

สำหรับคน ถ้าสูงวัย ความทรุดโทรมของร่างกายคงมีมากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับรถ น่าแปลก ที่รถ โบราณอย่าง ดาร์ราซ์ก แซร์แอสเนส (DARRACQ SURESNES) ซึ่งอายุมากกว่าร้อยปี กลับอายุ วัฒนา ไม่ทรุดโทรมตามกาลเวลา นั่นคงเป็นโชคดี จากการทำนุบำรุงบรรดาอดีตเจ้าของ และผลของ การดูแลเอาใจใส่จากผู้ครอบครองคนปัจจุบัน   "จั่ว" สุวิภา ณัฐพัทธ์ เล่าด้วยความภาคภูมิใจที่มีต่อรถคันนี้ว่า   "ประวัติรถฝรั่งเศสคันนี้ยาวนานมากค่ะ เริ่มแรกราวทศวรรษที่ '30 ถูกพบในฟาร์มที่ประเทศออสเตรีย สภาพสมบูรณ์พอควร ขาดแต่เพียงบังโคลนหลัง ต่อมามีคนขอซื้อต่อ คนแรกซื้อไปราวทศวรรษที่ '50 คนต่อมา ซื้อไปราวทศวรรษที่ '80 โดย ฟรานซิส แรมส์ลีย์ (FRANCIS RAMSLEY) ที่รู้ชื่อ เพราะเขา นำไปบูรณะเป็นคนแรก ต่อมาเขาขายต่อให้กับ จอห์น สมิธ (JOHN SMITH) สามีของ สายสุดา สมิธ พี่สาวของดิฉัน และได้รับการบูรณะทั้งรูปโฉม และสมรรถนะ จนสวยงามหมดจด เมื่อพี่สาวของดิฉัน ถึงแก่กรรม ดิฉันจึงดูแลแทน"   ที่น่าสนใจ คือ รถคันนี้เคยเข้าร่วมการเเข่งขันแรลลีหลายรายการในประเทศอังกฤษ ฮอลแลนด์ เบลเยียม และสวิทเซอร์แลนด์ ทั้งยังเข้าร่วมแข่งขันกับรายการของสมาคมรถ โบราณประเทศอังกฤษ รวมถึงการแข่งขันอื่นๆ อาทิ แข่งวิ่งจากลอนดอน ถึง บไรทัน ซึ่งลงแข่ง ในยุคสมัยที่ จอห์น สมิธ และสายสุดา สมิธ เป็นเจ้าของ โดยยังเป็นทั้งนักแข่ง และเนวิเกเตอร์ ตามลำดับ จึงยืนยันถึงความสมบูรณ์พร้อมของรถคันนี้ได้อย่างแท้จริง   ด้วยความที่มีอายุยาวนาน ถึง 103 ปี มันจึงน่าจะเป็นรถที่เก่าแก่ และสมบูรณ์ที่สุดในบ้านเรา ทั้งตัว ถังภายนอก และภายใน เครื่องยนต์ และระบบรองรับ   ภายนอก ยังคงรูปแบบเดิมไว้อย่างครบถ้วน หน้าหม้อ และบังโคลนสีเขียว ผสานสีขาวครีมของ ประตู และตัวถังอย่างลงตัว กระทะล้อไม้ 12 ก้านขนาดใหญ่ เข้าชุดกับยางหน้าแคบ สไตล์รถวัย "ปู่เย็น" ทั้งแตรลม ไฟหน้า และไฟสัญญาณต่างๆ ครบถ้วน แถมเด่นที่อุปกรณ์เสริมที่ยังใช้งาน ได้ดี เช่น ถุงเก็บของ ที่ลอคยางอะไหล่ซ้าย/ขวา หรือเทอร์โมมิเตอร์วัดความร้อนหม้อน้ำ เป็นต้น   ภายในน่านั่งด้วยเบาะหนังสีดำ หรู ตัดเย็บขึ้นมาใหม่ทั้ง 4 ที่นั่ง ตำแหน่งเบาะนั่งทั้งหน้า/หลัง กว้างขวาง พร้อมหลังคาผ้าใบที่ยังแข็งแรง ทนทาน สามารถกางออกมาได้สบายๆ เมื่อแดดร้อน หรือยามฝนเทกระหน่ำ   เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 3,000 ซีซี ผลิตม้าฝูงเล็กออกมา 15 ตัว นับว่าไม่น้อย สำหรับ เทคโนโลยีร้อยปีก่อน ถึงกระนั้นก็ตาม มันก็ยังวิ่งได้ด้วยความเร็ว 50-60 กม./ชม. แม้จะมีผู้โดยสาร นั่งประจำทุกตำแหน่ง   ฉะนั้น อย่าได้ดูถูกเครื่องยนต์ 15 แรงม้า กับสรรถนะของรถโบราณรุ่นนี้ เพราะมันผ่านการ แข่งขัน และคว้าชัยมาหลายต่อหลายครั้ง ยิ่งในช่วงปี 1903-1904 ที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่ๆ มันได้ แชมพ์บ่อยมาก จนรับฉายาว่า "ฟลายอิง ฟิฟทีน" (FLYING FIFTEEN) หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า เจ้า "15 ม้า ถลาลม"   [table] ข้อมูลจำเพาะ, DARRACQ SURESNES รูปแบบ, 2 ประตู เปิดประทุน ปีที่ผลิต, (คศ.) 1904 เครื่องยนต์, แบบ, 4 สูบ ความจุ (ซีซี), 3000 เกียร์ (จังหวะ), ธรรมดา 3 จังหวะ [/table]