ประกันภัย
ประกันภัยรถยนต์กับคนรุ่นใหม่ (20)
ฉบับที่แล้วเราคุยกันต่อเนื่องเรื่องการประกันภัยตาม พรบ. ที่มีการแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่ 4) ปี 2550 โดยได้พูดย้อนไปให้เห็นถึงเจตนารมณ์แรกเริ่มของกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และตอนท้ายได้สัญญาว่าจะมาคุยถึงเส้นทางหาผลประโยชน์จากประกันตาม พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ในฉบับนี้
ฉบับนี้ขอผิดสัญญาที่จะยังไม่นำเสนอเรื่องเส้นทางหาผลประโยชน์จากประกันตาม พรบ. โดยขอพักไว้ชั่วคราวก่อน เนื่องจากเหตุผล 2 ประการ กล่าวคือ ได้ทราบข่าวจากกรมการประกันภัยว่าขณะนี้กำลังประชุมแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวอีกรอบ และอีกประการ คือ ขณะนี้ได้เกิดวิกฤติการณ์กับบริษัทประกันภัยชื่อดังระดับแนวหน้าหลายบริษัท โดยกรมการประกันภัยได้มีคำสั่งให้บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันชั่วคราว อีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งถือเป็นบริษัทที่ 3แล้ว ในรอบ 6 เดือน ต่อเนื่องจากบริษัท ธนสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท สหประกันชีวิต จำกัด
เกิดอะไรขึ้นกับวงการธุรกิจประกันภัยบ้านเรา "ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก"กล่าวคือ เมื่อต้นปีกรมการประกันภัยมีคำสั่งให้ บริษัท ธนสินประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันวินาศภัยชั่วคราว เนื่องจากขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนต่อมาในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน กระทรวงพาณิชย์ก็มีคำสั่งให้ควบคุม บริษัท สหประกันชีวิต จำกัดและแต่งตั้งคณะกรรมการเข้าไปแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง เนื่องจากบริษัทประสบผลขาดทุนสะสมจากการดำเนินงานจำนวนมาก ต้องดำเนินการให้มีการฟื้นฟู โดยการเพิ่มทุนทันทีอีก 500 ล้านบาท
ทั้ง 2 บริษัท ยังไม่ทันฟื้นฟูได้สำเร็จ แค่อยู่ระหว่างการดำเนินการเท่านั้น ก็มาเกิดเหตุการณ์แทรกซ้อน โดยกระทรวงพาณิชย์ได้มีคำสั่งให้บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันชั่วคราว อีกบริษัทหนึ่ง พร้อมกับมี คำสั่งให้บริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต จำกัด จัดส่งแผนฟื้นฟูกิจการให้กรม ฯ พิจารณาเพื่อการแก้ไขฐานะทางการเงินบริษัท ถือเป็นข่าวสำคัญ ของวงการประกันภัยทีเดียว เพราะมันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว ที่บริษัทประกันภัยใหญ่โต โฆษณาอยู่ทุกวัน ว่า บริการเยี่ยม มีรถใช้ระหว่างซ่อม แต่ไปไม่รอด เหมือนกับปล่อยให้โฆษณาชวนเชื่อจนประชาชนหลงเข้ามาติดกับ และเดือดร้อน แล้วอย่างนี้ประชาชนจะพึงพาอะไรจากกรมการประกันภัยได้บ้าง เป็นการบ้านข้อใหญ่อีกข้อหนึ่งที่รัฐบาล และสังคม ต้องร่วมกันขบคิดหาทางป้องกันแก้ไข ไม่ให้เกิดซ้ำซาก
ก่อนหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ จะมีคำสั่งให้หยุดรับประกันชั่วคราว แหล่งข่าวจากกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ได้มีประชาชน และอู่รถยนต์เป็นจำนวนมาก ร้องเรียนผ่านสายด่วนประกันภัย 1186 และเข้ามาร้องเรียนยังกรมการประกันภัย กรณีบริษัทสัมพันธ์ประกันภัย ฯจ่ายค่าสินไหมทดแทนล่าช้า ค้างจ่ายค่าสินไหมอู่ซ่อมรถยนต์ ทำให้ผู้เอาประกันไม่สามารถนำรถออกจากอู่ซ่อมได้ รวมทั้งบริษัท ฯ คุมราคาค่าซ่อมรถยนต์ ต่ำกว่าความเสียหายจริง 50 % เช่น จำนวนค่าสินไหมที่เรียกร้องกับบริษัท ฯ 15,000 บาท แต่บริษัท ฯ ประเมินให้ 7,800บาท ทำให้ไม่มีอู่รถยนต์ใดรับซ่อมรถยนต์ในราคาที่ต่ำเกินจริง และไม่มีอู่ใดรับซ่อม
สุดท้ายจากการเปิดเผยของ นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งให้บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นไป จนกว่าจะสามารถแก้ไขปรับปรุงฐานะทางการเงินให้มีความมั่นคง อยู่ในสถานะที่จะประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยได้ต่อไป โดยบริษัท ฯ ต้องเสนอแผนปรับปรุงยังกรม ฯ ภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2550 และระหว่างนี้ บริษัท ฯ ต้องแจ้งให้พนักงานหรือตัวแทนของบริษัท ฯ ให้ยุติการชักชวนประชาชนทำประกันภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เดือดร้อนเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต สำหรับสาเหตุเป็นเพราะบริษัท ฯ ขาดเงินกองทุนสำรอง 777 ล้านบาท
มีสภาพคล่องทางการเงินเพียง 22.19 % มีทรัพย์สิน 1,938 ล้านบาท มีหนี้สินมากกว่า 1,000 ล้านบาท และค้างจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกัน ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2550 มีประชาชนร้องเรียนมายังกรม ฯ 1,285 ราย คิดเป็นเงินค้างจ่ายกว่า 100 ล้านบาท และยังค้างจ่ายค่าซ่อมรถกับสมาคมอู่กลางอีกด้วย
ทั้งนี้ ได้ให้โอกาสบริษัท ฯ แก้ไขเงินกองทุน และฐานะการเงินมาตลอด แต่ก็ไม่สามารถทำได้กลับส่งจดหมายมาแจ้งว่า ผู้ถือหุ้นใหม่จากกาตาร์ขอทบทวนฐานะการเงินก่อน และที่ผ่านมาบริษัท ฯ ขาดการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งการให้หยุดรับประกันภัยชั่วคราว ไม่ใช่ปิดกิจการ แต่ไม่ให้ขายกรมธรรม์ใหม่ เมื่อแก้ไขฐานะการเงิน และจ่ายหนี้ค้างชำระหมด ก็เปิดขายประกันภัยใหม่ได้
ขณะนี้กรมการประกันภัย ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลการสะสางหนี้แล้ว เพื่อให้บริษัท ฯ เร่งรัดการจ่ายเงินค่าสินไหมให้ผู้เอาประกัน และเร่งแก้ไขสภาพคล่องการเงิน โดยนำเงินสดมาเพิ่มในกองทุนให้ครบตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ มีฐานลูกค้าเดิม 1 ล้านกรมธรรม์ส่วนใหญ่เป็นรถ ขสมก. และรถแทกซี ทั้งนี้ หากกาตาร์ยังสนใจซื้อหุ้นบริษัท ฯ จะต้องเพิ่มทุนไม่ต่ำกว่า 1,650 ล้านบาท
อยากจะตั้งข้อสังเกตไว้ ณ ที่นี้ว่า กรมการประกันภัยนิ่งนอนใจเกินไปหรือเปล่า ? "ที่รอให้ถึงนาทีสุดท้ายก่อน คือ หายใจเองไม่ได้แล้ว จึงค่อยเข้าไปปฐมพยาบาล มันสายเกินแก้ทุกครั้ง เพราะผลที่เกิดขึ้นสะเทือนไปทั่ววงการประชาชนเดือดร้อน ขาดความเชื่อมั่นในความมั่นคงของประกันภัยและไม่เชื่อใจในการกำกับดูแลของภาครัฐ ทำไมไม่เข้าไปตรวจสุขภาพธุรกิจ และมีมาตรการเข้มข้น
เมื่อบริษัท ฯ เริ่มมีอาการแรกๆ ปล่อยจนกลายเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย มันก็ตายลูกเดียว" ลองดูจากตารางที่ลงโทษปรับที่กรมการประกันภัยประกาศ จะเห็นชัดว่ากรม ฯ เองก็รู้อาการของบริษัทมาก่อนหน้านานแล้ว แต่ก็แค่เปรียบเทียบปรับ แล้วปล่อยให้ทำผิดซ้ำซาก จนสุดท้ายประชาชนก็เหมือนตายทั้งเป็นจำต้องรับผลแห่งกรรม
กรมการประกันภัยเปิดเผยรายชื่อบริษัทประกันภัยที่ถูกลงโทษ
คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีความผิดตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต ปี 2535 และพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย ปี 2535 ซึ่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้แทน อธิบดีกรมการประกันภัย หรือผู้แทน และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือผู้แทน ได้มีมติเปรียบเทียบปรับบริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย ดังนี้
บริษัทที่ไม่สามารถแก้ไขฐานะการเงินให้ดำรงเงินกองทุนครบถ้วนตามกฎหมาย
[table]บริษัท, วันที่มีมติเปรียบเทียบปรับ, จำนวนเงินที่มีมติให้เปรียบเทียบปรับ
บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด, วันที่ 1 กันยายน 2548, 125000.00 บาท
,วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548, กระทำความผิดต่อเนื่องให้ปรับเป็น
,วันที่ 17 มกราคม 2549, รายวันๆ ละ 1000.00 บาท ตั้งแต่วัน
,วันที่ 16 พฤษภาคม 2549, ที่ 22 กันยายน 2548 เป็นต้นมา
,วันที่ 15 สิงหาคม 2549, วันที่ 22 มกราคม 2550
บริษัท ธนสินประกันภัย จำกัด (มหาชน), วันที่ 27 กันยายน 2548, 125000.00 บาท
,วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548, กระทำความผิดต่อเนื่องให้ปรับเป็น
,วันที่ 14 มีนาคม 2549, รายวันๆ ละ 1000.00 บาท ตั้งแต่
,วันวันที่ 15 สิงหาคม 2549 ,ที่ 21 ตุลาคม 2548 เป็นต้นมา
,วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550
บริษัท แอ๊ดวานซ์ อินชัวรันส์ จำกัด, วันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 125000.00 บาท
,วันที่ 29 พฤษภาคม 2550, กระทำความผิดต่อเนื่องให้ปรับ เป็นรายวันๆ ละ 1000.00 บาท ตั้งแต่ที่ 15 ธันวาคม 2549 เป็นต้นมา
บริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต จำกัด, วันที่ 1 พฤษภาคม 2550, 125000.00 บาท
บริษัท ศูนย์สุขภาพประเทศไทย จำกัด, วันที่ 29 พฤษภาคม 2550, 250000.00 บาท[/table]
เรื่องโดย : กฤชกมล นิติธรรมโกศล
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2550
คอลัมน์ Online : ประกันภัย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/58106