รู้ไว้ใช่ว่า
ทำประกัน พรบ.
คดีนี้น่าสนใจทีเดียว เรื่องเป็นยังไงตามไปดู
"นายหรูเริด" แกใช้รถกระบะต่างรถนั่งตามสไตล์ในบ้านเมืองเรา พยายามตกแต่งรถอย่างสุดๆ แต่ทำ
แค่ประกัน พรบ. เพราะถือว่าจ่ายน้อยที่สุดตามสไตล์พี่ไทย โดยที่นายหรูเริดมั่นใจว่า เกิดอะไรขึ้นมา
ยังมีบริษัทประกันเป็นกันชนปะทะไว้พอสมควร
และแล้วก็เกิดเหตุจนได้ เมื่อลูกชายคนเดียวของนายหรูเริดที่กำลังหนุ่มแน่น เอารถของพ่อออกเที่ยว
โดยให้เพื่อนคนหนึ่งซึ่งไม่มีใบขับขี่ทำหน้าที่โชเฟอร์ นั่งกันไป 6 คน ผู้ชายล้วนๆ ปรากฏว่ามือใหม่แต่
ขับประมาทอีกต่างหาก รถลงถนนปะทะเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางอย่างจัง
เลขที่ออก ลูกชายและเพื่อนซึ่งเป็นคนขับนั่งตอนหน้าโดนอัดอยู่ในซากรถ ตายหยังเขียดทั้งคู่ พวกพ้อง
อีกสี่นายอยู่ที่กระบะหลังบาดเจ็บสาหัส
ผู้เป็นพ่อและเป็นเจ้าของรถเหงื่อตกกีบ วิ่งเคลียร์คนเจ็บคนตายจนหน้าเหลือง ขณะที่บริษัทประกัน
ก็ออกแรงควักเงินจ่ายให้ผู้ที่ได้รับอันตรายจากรถ หมดเงินไป 1.2 แสนบาท
ขึ้นชื่อว่าบริษัทประกัน ไอ้ที่จะยอมเสียเปรียบนั้นยาก พยายามหาทางมัดคนซื้อประกันอย่างนายหรูเริด
ไว้แล้วตั้งแต่ต้นตอนทำสัญญาประกัน เขียนไว้ข้อหนึ่งว่า สัญญาประกันไม่คุ้มครองเจ้าของรถ ถ้าคนขับ
ไปเกิดเหตุไม่มีใบขับขี่ หรือมีใบขับขี่ก็จริงแต่ขาดอายุลงไปแล้ว
หลังจากบริษัทประกันปฏิบัติตามภาระหน้าที่ โดยไม่เบี้ยวบิด จ่ายค่าเสียหายให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถ
ไปแล้วแสนกว่าบาทอย่างที่บอก ก็หันขวับไปหานายหรูเริดเจ้าของรถ อ้างว่าผู้ที่ขับรถไปเกิดเหตุไม่มี
ใบขับขี่ สัญญาประกันจึงไม่คุ้มครองนายหรูเริดเจ้าของรถ เพราะทำผิดเงื่อนไขในสัญญา นายหรูเริด
ต้องรับผิดจ่ายเงินที่บริษัทประกันจ่ายไปแล้วทั้งหมด 1.2 แสนกว่าบาท พร้อมดอกเบี้ย
เมื่อนายหรูเริดเถียงคอเป็นเอ็น นี่มันประกัน พรบ. นะโว้ย
บริษัทลื้อต้องรับหน้าที่จ่ายค่าเสียหายแบบเต็มๆ
อยู่แล้ว จะมาไล่บี้นายหรูเริดไม่ได้หรอก เมื่อตกลงกันไม่ได้ บริษัทประกันจึงยื่นฟ้องนายหรูเริด บังคับให้
จ่ายเงินตามที่เรียกร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ตัดสินให้บริษัทชนะคดีแบบเต็มๆ บังคับให้นายหรูเริดจ่ายเงินตามฟ้อง
จำเลยคือ นายหรูเริด ไม่ยอมแพ้ ยื่นอุทธรณ์ขึ้นไป อ้างอย่างเดิมว่าไม่ต้องรับผิด บริษัทประกันหัวหมอ
ชะมัดขอให้ยกฟ้อง และได้เฮเมื่อ
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษากลับ ให้นายหรูเริดเป็นฝ่ายชนะคดี หน้าบานลงจากศาล
เรื่องยังไม่จบ บริษัทประกันซึ่งเป็นเซียนเรื่องค้าความไม่ถอยอยู่แล้ว ยื่นฎีกาขึ้นเพื่อเอาชนะให้ได้
ศาลฎีกาเพ่งมองดูคดีนี้จนทะลุปรุโปร่งแล้ว จึงชี้ขาดออกมาว่า
การทำประกัน พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ตามหลักการเน้นให้บริษัทประกันรับหน้าเสื่อ
จ่ายเงินทองค่าเสียหายให้ผู้ประสบภัยจากรถก็จริง แต่บริษัทประกันสามารถกำหนดเงื่อนไขที่ไม่ขัดต่อ
กฎหมายลงไปมัดคอคนซื้อประกันได้ อันนี้ผมว่าเอง
การที่บริษัทประกันเขาระบุในสัญญาประกันว่า ถ้ารถที่ทำประกันเกิดเหตุโดยคนขับไม่มีใบขับขี่
หรือมีแต่ขาดอายุแล้ว สัญญาประกันไม่คุ้มครองผู้ทำประกันหรือเจ้าของรถ ถ้าบริษัทประกันจ่ายเงิน
ให้ผู้ประสบภัยจากรถไปแล้วตามกฎหมาย เจ้าของรถคนซื้อประกันต้องจ่ายเงินทดแทนภายใน 7 วัน
เงื่อนไขนี่ถือว่าโอเค มีผลบังคับ เมื่อได้ความว่าเพื่อนของลูกชายนายหรูเริดไม่มีใบขับขี่ แล้วทะลึ่งขับรถ
ไปเกิดเหตุ บริษัทประกันมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ประสบภัยจากรถควักเงินจ่ายไปแล้ว
ใช่ว่าจะจ่ายเลย บริษัทหันมาไล่บี้ เอาเงินคืนจากนายหรูเริดคนซื้อประกันได้สบาย เพราะฝ่ายเจ้าของรถผิดเงื่อนไขที่มี
อยู่ในสัญญา ให้คนไม่มีใบขับขี่ขับรถจนเกิดเหตุขึ้นมา
ข้ออ้างของนายหรูเริดที่ว่า มาตรา 16 พรบ. ผู้ประสบภัยจากรถ ระบุว่า บริษัทจะยกเอาเหตุแห่งความ
ไม่สมบูรณ์หรือการฝ่าฝืนเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยระหว่างบริษัทกับเจ้าของรถ หรือมีบอกเลิก
กรมธรรม์ประกันภัยกับเจ้าของรถ เพื่อปฏิเสธความรับผิดต่อผู้ประสบภัยในการชดใช้ค่าเสียหาย
เบื้องต้นมิได้ เว้นแต่บริษัทได้มีหนังสือแจ้งการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยให้เจ้าของรถและนาย
ทะเบียนทราบล่วงหน้า นั้น ศาลบอกว่า เป็นข้อห้ามบริษัทประกันไม่ให้ยกเงื่อนไขข้อตกลงระหว่าง
บริษัทประกันกับเจ้าของรถ มาปฏิเสธความรับผิดต่อผู้ประสบภัย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ถ้าเป็นเงื่อนไขระหว่างบริษัทกับเจ้าของรถคนซื้อประกันนั้นใช้ได้ บริษัทประกันปัดความรับผิดชอบ
ต่อเจ้าของรถได้ ศาลชั้นต้นตัดสินไว้ถูกต้องแล้ว
ศาลฎีกาจึงพิพากษากลับ ให้นายหรูเริดแพ้คดีดังที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ ต้องจ่ายเงินแสนกว่าบาทพร้อม
ดอกเบี้ยอย่างหนีไม่พ้น
เชื่อว่าคนซื้อประกัน พรบ. ส่วนใหญ่ไม่ได้สังเกตเงื่อนไขที่มีอยู่ในสัญญาหรือกรมธรรม์ประกันภัย
มั่นใจว่าบริษัทจ่ายไปแล้วเท่าไหร่ก็จ่ายเลย แต่มันไม่ใช่ ถ้าเข้าข่ายตามเงื่อนไขที่มีอยู่เมื่อไหร่ เช่น
คนขับไม่มีใบขับขี่ หรือมีแต่ขาดอายุอย่างคดีนี้ เจ้าของรถซวย โดนไล่ต้อน
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3679/2548
คดีรถ ตีพิมพ์ใน "4 Wheels" ส่งไป 5 เมย. 50
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2550
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57820