ไตรมาสแรก

3 เดือนผ่านไป สำหรับการทำยอดจำหน่ายรถรุ่นใหม่ป้ายแดงของบริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์ในบ้านเรา ปรากฏว่า ไม่ปลื้มเท่าใดนัก เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับ 3 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา สู้กันไม่ได้ ลุ้นไม่ขึ้น ปี 2550 ทุกค่ายจำหน่ายรถยนต์รวมกันทั้งสิ้น 138,270 คัน ขณะที่ปีที่แล้วจำหน่ายได้ 169,984 คัน แตกต่างกัน 31,714 คัน คิดเป็นเปอร์เซนต์ออกมาติดลบอยู่ 18.7 % สงสัยคงต้องหาคนใจกล้า มือถึงทุนถึงจัดงานมอเตอร์โชว์ ช่วงกลางปีอีกสักครั้งหนึ่ง ถึงจะมีลุ้นทำยอดจำหน่ายสูงกว่าหรือใกล้เคียง กับยอดจำหน่ายรถยนต์ปี 2549 ถึงแม้ว่าในช่วง 3 เดือนของปีนี้ จะมีรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดหลายยี่ห้อหลายรุ่น ซึ่งเป็นรุ่นที่น่าจะช่วยให้ ตลาดกระเตื้องขึ้นได้บ้าง เพราะเป็นการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในตลาดที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูง ไม่ว่าจะเป็นรถนั่งส่วนบุคคลในส่วนของ โตโยตา วีออส ใหม่ หรือจะเป็นการเปิดตัว นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา ในตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน รวมถึงการที่ค่ายเล็กค่ายใหญ่อัดแคมเปญกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี แต่ก็ไม่เป็นดังคาด ถึงจะมีส่วนช่วยให้ยอดจำหน่ายโดยรวมสูงขึ้นบ้าง แต่ก็ยังสู้ยอดจำหน่ายในช่วงเดียวกัน ของปีที่แล้วไม่ได้อยู่ดี และสิ่งหนึ่งที่บริษัทรถยนต์ทุกค่ายไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ประสบพบเจอเกือบจะเหมือน กันหมด นั่นคือ ถึงแม้จะรักษาอันดับทางด้านการตลาดได้คงเดิม หรือบางค่ายอาจจะมีสับเปลี่ยนอันดับขึ้น หรือลงบ้าง แต่มียอดจำหน่ายสู้ปีที่แล้วไม่ได้ทั้งสิ้น ยกเว้นค่าย มาซดา ที่ทำยอดจำหน่ายรวมทุกรุ่นอยู่ใน อันดับ 7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมียอดจำหน่ายสูงขึ้น 32.4 % มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 2.8 % น่าจะเป็นผลมาจากแคมเปญโพรโมชันที่โดนอกโดนใจนักเลงรถใหม่ป้ายแดงเต็มๆ นอกนั้นหัวปักหัวปำกันเป็นแถว ตลาดรถนั่งส่วนบุคคล รวม 3 เดือนทำยอดจำหน่ายได้ 35,529 คัน ติดลบ 15.6 % โดย 5 อันดับแรก รถนั่งที่ขายดีที่สุดมี เชฟโรเลต์ และเมร์เซเดส-เบนซ์ ที่ยอดจำหน่ายสูงกว่าช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว เชฟโรเลต์ อยู่ในอันดับ 3 เติบโตขึ้น 89.7 % มีส่วนแบ่งตลาด 4.9 % เป็นผลมาจากในช่วงเดียวกันนี้ของปี 2550 ยังไม่มี เชฟโรเลต์ อาวีโอ ออกจำหน่าย ส่วน เมร์เซเดส-เบนซ์ อยู่ในอันดับ 5 ทำยอดจำหน่ายได้ 757 คัน โตขึ้น 15.9 % ส่วนอันดับอื่น ไม่ว่าจะเป็น โตโยตา ที่อยู่ในอันดับ 1 เหมือนเช่มเดิม ยอดจำหน่ายรวม 3 เดือน 17,045 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 48.0 % ฮอนดา อันดับ 2 ยอดจำหน่าย 12,758 คัน ส่วนแบ่งตลาด 35.9 % และนิสสัน 934 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.6 % ล้วนแต่มียอดจำหน่ายที่ลดลงจากปีที่แล้ว ต้องหวังพึ่งยอดจำหน่ายของ วีออส ใหม่ ที่จะดันยอดจำหน่ายของตลาดนี้ให้กระเตื้องมากขึ้นในเดือนต่อไป เพราะดูจากแนวโน้มแล้ว ตลาดยังไม่น่าจะมีรถรุ่นใหม่ออกมา สำหรับในเดือนมีนาคม ยอดจำหน่ายรถนั่งอยู่ที่ 14,215 คัน ตลาดหดตัวเมื่อเทียบกับมีนาคมปีที่แล้ว 16.8 % มี โตโยตา เป็นเบอร์หนึ่งของตลาดด้วยยอดจำหน่าย 7,211 คัน ฮอนดา เป็นอันดับสอง 4,985 คัน เชฟโรเลต์ อันดับสาม 595 คัน ฟอร์ด กลับเข้าตารางหัวแถวในเดือนนี้ ด้วยยอดจำหน่าย 289 คัน อยู่ในอันดับที่สี่ และอันดับที่ห้า เป็น มาซดา 266 คัน เฉือนชนะ นิสสัน ไปเพียงคันเดียว ! ตลาดที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด คือ รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตลาดนี้แข่งขันกันดุเดือดทั้งในด้านสมรรถนะที่ทุกค่ายพยายามปรับแต่งให้ถูกตาต้องใจแฟนๆ รถพิคอัพ นาทีนี้คงต้องยกให้เป็นช่วงนาทีทองของรถพิคอัพขับ 2 ล้อยกสูง ที่มีให้เลือกทุกค่าย แถมยังตอกย้ำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ด้วยแคมเปญส่งเสริมการขายพิเศษที่แต่ละค่ายงัดออกมาใช้ แต่อย่างไรก็ตาม ผลโดยรวมยอดจำหน่าย รถพิคอัพ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ทั้งแบบธรรมดา และยกสูงตามสมัยนิยม ก็ยังไม่รุ่งอย่างที่หวัง ยังมีการเติบโตที่ลดลงจากช่วง 3 เดือนแรกของปีที่แล้ว 21.8 % ทำยอดจำหน่ายได้ทั้งสิ้น 77,391 คัน และเมื่อดูลึกลงไปถึงยอดจำหน่ายของแต่ละยี่ห้อ ปรากฏว่ามีเพียงยี่ห้อเดียวที่ทำยอดจำหน่ายได้สูงกว่าปีที่แล้ว นั่นคือ มาซดา บีที-50 ทำยอดจำหน่ายรวม 3 เดือนได้ 3,097 คัน โตขึ้น 54.0 % อยู่ในอันดับที่ห้าของตาราง ขณะที่ผู้นำตลาดกลับมาเป็นของ อีซูซุ อีกครั้ง ทำยอดจำหน่ายรวม 3 เดือนได้ 28,776 คัน มีส่วนแบ่ง ตลาด 37.2 % แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดจำหน่ายของ อีซูซุ ลดลง 31.7 % โตโยตา กลับไปรับอันดับที่สองจากยอดจำหน่าย 27,955 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 36.1 % แต่ลดลงจากปีที่แล้ว 9.4 % ส่วนอันดับที่สามเป็นของ นิสสัน 7,064 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.1 % ยังติดลบอยู่ 5.4 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ มิตซูบิชิ อยู่ในอันดับที่สี่ 5,626 คัน ติดลบไป 23.7 % มีส่วนแบ่งตลาด 7.3 % ส่วนรถพิคอัพ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยิ่งดิ่งหนักลงไปอีก เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนแรกของปี 2549 ปรากฏว่า ยอดจำหน่ายหดตัวลดลงถึง 42.9 % โดย 3 เดือนแรกของปีนี้มียอดจำหน่ายเพียง 5,047 คัน ถึงแม้ผู้นำตลาดจะยังเป็น โตโยตา ที่ทำยอดจำหน่ายได้สูงถึง 2,897 คัน แต่ก็น้อยกว่าปีแล้วถึง 2,598 คัน หรือ 47.3 % ขณะที่ อีซูซุ อยู่ในอันดับที่สอง 853 คัน ลดลง 19.1 % อันดับสามเป็นของ นิสสัน 524 คัน โตขึ้น 8,633.3 % มิตซูบิชิ จำหน่ายรวม 3 เดือนได้ 390 คัน ลดลง 77.2 % และฟอร์ด ขยับมาอยู่ในอันดับที่ห้า ด้วยยอดรวม 192 คัน โตขึ้น 29.7 % อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ดูจากตัวเลขแล้ว นิสสัน, ฟอร์ด รวมถึง มาซดา จะเติบโตสูงขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อยอดโดยรวมสักเท่าใด เพราะเพิ่มขึ้นในจำนวนหลักร้อย แต่ยอด จำหน่ายที่หดหายไปเกิดจาก โตโยตา และมิตซูบิชิ เป็นหลักพัน ส่งผลให้ตลาดนี้หัวปักหัวปำลงไป อย่างที่เห็น ในเดือนมีนาคม ยอดจำหน่ายของรถพิคอัพ ขับเคลื่อน 2 ล้อ รวมกันทุกยี่ห้อ จำหน่ายได้ 32,224 คัน อีซูซุ เร่งเครื่องฉลอง 50 ปีทอง เชือด โตโยตา กลับมาอยู่ในอันดับหนึ่งของพิคอัพยอดนิยมอีกครั้ง ด้วยยอด จำหน่าย 12,214 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 37.9 % โตโยตา กลับมาอยู่ในอันดับที่สอง ยอดจำหน่าย 10,899 คัน ส่วนแบ่ง 33.8 % อันดับสาม นิสสัน 3,493 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 10.8 % อันดับสี่ มิตซูบิชิ 2,558 คัน ส่วนแบ่ง 7.9 % และเชฟโรเลต์ 1,170 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 3.6 % และประเภทขับเคลื่อน 4 ล้อ ยอดจำหน่ายเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปีที่แล้วห่างกันถึง 39.4 % เดือนมีนาคม ปีหมูทอง มียอดจำหน่ายรวมกันที่ 2,044 คัน แบ่งเป็นของ โตโยตา 1,137 คัน กินส่วนแบ่งตลาดไปถึง 55.6 % อีซูซุ มีส่วนแบ่งตลาดตามมาเป็นอันดับสอง 18.6 % จำหน่ายไปได้ 381 คัน นิสสัน ตามมาเป็นที่สาม ส่วนแบ่งตลาด 12.8 % จากยอดจำหน่าย 261 คัน มิตซูบิชิ 118 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 5.8 % และฟอร์ด ได้ส่วนแบ่ง 3.4 % จำหน่ายได้ 69 คัน หนึ่งเดียวในตลาดรถยนต์บ้านเราที่สรุปยอดจำหน่าย 3 เดือนแล้วมีการเติบโตสูงขึ้น ได้แก่ ตลาดรถเอสยูวี ทำยอดจำหน่ายได้ดีกว่าปีที่แล้ว 1.4 % ทุกยี่ห้อจำหน่ายรวมกันได้ 8,421 คัน ต้องยกเครดิทให้กับการมาของ ฮอนดา ซีอาร์-วี รุ่นใหม่ ฮอนดา จำหน่ายได้ 2,579 คัน โตขึ้นถึง 1,453.6 % อยู่ในอันดับที่สอง ขณะที่ เอกซ์-ทเรล ของ นิสสัน ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มียอดจำหน่ายเติบโตขึ้น โดยจำหน่ายได้ 189 คัน โตขึ้น 231.6 % ส่วนหัวแถว โตโยตา ลดลง 32.3 % เช่นเดียวกับ อีซูซุ ที่อยู่ในอันดับสาม ลดลง 8.2 % และฟอร์ด อันดับสี่ ลดลง 31.4 % เดือนมีนาคม ยอดจำหน่ายของรถยนต์ประเภทนี้รวมกันได้ 3,046 คัน แบ่งเป็น โตโยตา 1,414 คัน ฮอนดา 887 คัน อีซูซุ 529 คัน ฟอร์ด 114 คัน นิสสัน 72 คัน และยี่ห้ออื่นๆ รวมกันอีก 30 คัน ส่วนรถเอมพีวี ยังคงทิ้งดิ่งอย่างต่อเนื่อง เดือนมีนาคมจำหน่ายรวมกันได้ 779 คัน ต่างจากเดือนมีนาคมปีที่แล้ว 26.4 % รวม 3 เดือนทุกยี่ห้อจำหน่ายรถเอมพีวี ได้ 2,208 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 21.5 % สำหรับยอดจำหน่ายรถในเดือนต่อไป เดือนเมษายนถึงแม้จะเป็นเดือนที่มีช่วงวันหยุดเทศกาลยาวติดต่อ กันหลายวัน แต่ยอดจำหน่ายรถจากงานมอเตอร์โชว์ ที่ไบเทค บางนา น่าจะส่งผลดีต่อตลาดโดยรวม แต่จะมากหรือน้อยเพียงไร ในสภาพเศรษฐกิจที่ไม่คล่องตัวอย่างนี้ อีก 30 วัน เรามีตัวเลขมาตีแผ่ให้ชม กันจะๆ ว่า "ของจริง" หรือ "ของปลอม" !