พิเศษ(4wheels)
SPIRIT CAMP ครั้งที่ 1/50
โรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ SPIRIT OF THE 4x4 DRIVINGSCHOOL พานักเรียน ฯ ขับรถเข้าป่าขึ้นเขาที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขากระปุก-เขาเตาหม้อจังหวัดเพชรบุรี ที่ต้องเผชิญทางทุรกันดารถึง 12.7 กิโลเมตร รวมเวลาไป/กลับ 7 ชั่วโมง
วันแรก
สบาย สบาย
สมาชิก ฯ นัดรวมตัวกันที่ปั๊ม ปตท. "เพชรบุรีล้ำยุค" บนถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 129 ครั้งนี้พวกเราเดินทางร่วมกันทั้งหมด 13 คัน ขบวนของเราเดินทางมุ่งหน้าสู่ บ้านพักริมน้ำ ของ พนม หนูไพโรจน์ ซึ่งเป็นอดีตนักแข่งรถทางเรียบและแรลลีระดับแชมพ์ของประเทศไทย เมื่อสมาชิก ฯ มาถึง เจ้าของบ้านออกมาต้อนรับด้วยความเป็นกันเองบรรยากาศศาลาริมน้ำที่เงียบสงบ นั่งมองสายน้ำยามเย็น เรานั่งกินบรรยากาศกันพักใหญ่ๆก็ถึงเวลาอาหารเย็น เป็นบาร์บีคิวอาหารทะเลสดๆ เอร็ดอร่อย ไปถ้วนหน้า
ช่วงหัวค่ำ เป็นการเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ แจกของรางวัล ก่อนจะเดินทางไปพักที่ สวนเพชร ริเวอร์วิวรีสอร์ท จังหวัดเพชรบุรี พนมสัญญากับพวกเราว่า วันพรุ่งนี้ เขาจะไปขับรถขึ้นเขากับพวกเราด้วยพวกเราใจชื้นขึ้น เพราะมีเพื่อนร่วมทางเพิ่มอีกคน แต่พนมออกตัวกับพวกเราว่า ไม่ได้ขับรถสไตล์นี้มานาน งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะช่วยใครกัน (ฮา)
พวกเรามาถึงที่พักเวลาประมาณ 22.00 น. ที่พักของเราใน 2 คืนนี้ เป็นกระท่อมหลังน้อยริมแม่น้ำเพชรบุรี บรรยากาศธรรมชาติ อากาศยามค่ำคืนไม่ร้อนอย่างที่คิด
วันที่สอง
ขอบคุณ...ที่เหนื่อยด้วยกัน
เช้านี้เราตื่นมาด้วยความสดชื่น สายลมเย็นๆ พัดมาสัมผัสร่างกายเบาๆ บรรยากาศยามเช้าสดชื่นมาก เมื่อเสร็จภารกิจส่วนตัว ก่อนออกเดินทาง เราเติมพลังด้วยข้าวต้มเครื่อง เมื่อร่างกายพร้อม ใจพร้อม สมาชิก ฯ จึงออกเดินทางสู่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขากระปุก-เขาเตาหม้อ เมื่อไปถึงวรายุทธ นิลผึ้ง หัวหน้าเขต ฯ ออกมาต้อนรับ พร้อมอธิบายรายละเอียดก่อนขึ้นเขาให้ฟังพอสมควร หลังจากนั้นพวกเราไม่รอช้า นั่งประจำตำแหน่งหลังพวงมาลัยด้วยท่าเตรียมพร้อมจากนั้น จึงมุ่งหน้าสู่จุดหมายด้วยระยะทาง 12.7 กิโลเมตร
เส้นทางที่เราใช้ในการวัดฝีมือครั้งนี้ เป็นเส้นทางที่เรียกกันว่า ROCK CRAWLER (เส้นทางที่
เต็มไปด้วยหิน) ตามทางน้ำสายเก่า ทางเบื้องหน้าที่เรามองเห็นนั้น ดูเหมือนไม่ยากเท่าไร
แต่เมื่อขับไปเรื่อยๆ กลับยากขึ้นทุกที จนเรียกได้ว่าเกือบจะคลานกันไปเลยทีเดียว
สมาชิก ฯ ขับกันอย่างระมัดระวัง แต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่วายที่จะพบกับอุปสรรคระหว่างการเดินทาง สมาชิกหมายเลข 06 (เอดดี) เครื่องยนต์เกิดความร้อนขึ้นสูง เนื่องจากจอดอยู่กับที่นานเกินไป ตอนแรกพวกเราคิดกันว่าจะต้องพักรถอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงเสียแล้ว ซึ่งกำหนดเดิมพวกเรานัดกันว่าจะรับประทานอาหารกลางวันด้านบนยอดเขา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ สมาชิกที่ตามหลังกันมา จึงทานอาหารกันที่นี่เลย แต่เพราะความช่วยเหลือจากเพื่อนสมาชิก อุปสรรคนี้ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี จนในที่สุดพวกเราก็เดินทางกันถึงยอดเขา
สมาชิกที่เดินทางมาถึงก่อนเติมพลังกันที่นี่ เมื่อเสร็จเรียบร้อย ถนนดำ คือเส้นทางที่พวกเราต้องไปให้ถึงก่อนพลบค่ำ เพราะถ้าสิ้นแสงพระอาทิตย์เมื่อไร การเดินทางจะลำบากมากกว่าเดิมเราออกเดินทางด้วยความระมัดระวัง แต่ก็ไม่พ้นกับอุปสรรคอีกเช่นเคย สมาชิกหมายเลข 02(สมชาย) ระบบหล่อเย็นมีปัญหา ครูปุ้ม (หัวหน้าครูฝึกของ รร. สปิริท ฯ) จำต้องบอกสมาชิกทุกคันที่เหลือ ให้ช่วยกันปันน้ำดื่มที่แต่ละคันมี นำมาช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกคันดังกล่าวซึ่งสมาชิกทุกคันต่างมีน้ำใจช่วยเหลือกันอย่างถึงที่สุด แม้ว่าแต่ละคันจะไม่เหลือน้ำไว้ให้ดื่มเลยก็ตาม แต่ถ้ายิ่งช่วยเหลือกันมากเท่าไร เราจะสามารถลงสู่ถนนดำได้เร็วขึ้นเท่านั้น สุดท้ายอุปสรรคทุกอย่างมันก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เราลงถึงถนนดำในเวลา 18.30 น. รวมการเดินทางทั้งหมด 12.7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง
เรากลับที่พักด้วยความอ่อนล้าและเหนื่อยแรง เมื่อมาถึงทุกคนล้างไม้ล้างมือและรับประทานอาหารเย็นกัน ต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกับเส้นทางบนเขาที่แสนลำบาก ต่างคนต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเอง พูดคุยกันได้พักใหญ่ๆ ไฟฟ้าเกิดดับ เมื่อสิ้นแสงไฟฟ้าความสว่างจากพระจันทร์จึงเข้ามาแทนที่ กินข้าวกันใต้แสงจันทร์ ได้บรรยากาศไปอีกแบบแต่เรายังคงสนุกสนานกับมื้ออาหารและการสนทนาโดยไม่มีใครใส่ใจกับการมีไฟฟ้าใช้หรือไม่ก็ตามสักพักไฟก็มาตามปกติ เมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย พี่ป้อม (สุกานดา ปภัสร์พงษ์)ผอ. โรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ แจกของที่ระลึกแก่สมาชิกทุกคันที่มาร่วมทริพกันในครั้งนี้ บางคนบอกความรู้สึกของตัวเอง (ปนออดอ้อน) ในการมาครั้งนี้ว่า "ชอบนะโหดกว่าครั้งที่แล้ว แต่ก็หวังว่า ทริพหน้าคงไม่โหดขนาดนี้นะคะ...พี่ป้อม"
วันสุดท้าย
กลับบ้าน
หลังจากหลีกหนีความวุ่นวายของแสงสีในเมือง มาพักผ่อนอิงแอบแนบธรรมชาติเป็นเวลา 2 คืน วันนี้เราต้องกลับบ้านกันแล้ว สมาชิก ฯ ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอดด้วยความกระฉับกระเฉง ก่อนมารวมพลรับประทานอาหารเช้าที่ริมแม่น้ำ แสงแดดยามเช้าตกกระทบผิวน้ำ เกิดเป็นแสงอ่อนๆ มองแล้วสบายตา ก่อนเข้ากรุงเทพ ฯ พวกเราแวะไร่ชมพู่ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของเพชรบุรี ซื้อเป็นของฝากติดมือกลับบ้านกันตามระเบียบ
ขอขอบคุณ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนการเดินทาง
เรื่องโดย : ปาจรีย์ ทัศนาญชลี
ภาพโดย : ธีรวิทย์ โตจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : พิเศษ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57802