นานารถแนวคิด
ฟอร์ด เอสเคพ ไฮบริด
ฟอร์ด เอสเคพ ไฮบริด (FORD ESCAPE HYBRID) เป็นรถเอสยูวีไฮบริด แบบแรกที่ผลิตในสหรัฐ ฯ โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2548 ในงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ เอสเคพ ไฮบริด จัดว่าเป็นรถไฮบริดเต็มตัว ที่มีระบบควบคุมการทำงานของมอเตอร์ ไฟฟ้า เครื่องยนต์เบนซิน หรือทั้ง 2 อย่างพร้อมกัน โดยใช้พลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าในความเร็วต่ำกว่า 40 กม./ชม. ส่วนเครื่องยนต์เบนซินจะทำงานที่ความเร็วสูงกว่านั้น นอกจากนั้นในเวลาที่ต้องการพละกำลังการขับเคลื่อนสูง ทั้งมอเตอร์ และเครื่องยนต์จะทำงานพร้อมกัน
ระบบไฮบริดมีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในสภาพการจราจรความเร็วต่ำ หรือเลื่อนๆ หยุดๆโดยการรับรองจาก EPA (ENVIRONMENTAL PROTECTION AGENCY) สามารถทำระดับความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ถึง 15.30 กม./ลิตร ขณะที่ เอสเคพ 3.0 ลิตร ทำได้ 8.50 กม./ลิตร นั่นคือเอสเคพ ไฮบริด มีอัตราความสิ้นเปลืองต่ำกว่าถึง 55 % ในสภาพการจราจรแบบเดียวกัน
ในการเดินทางปกติ เอสเคพ ไฮบริด สามารถเดินทางได้ถึง 800 กม. จากการใช้น้ำมันเบนซินถังเดียวนอกจากนั้น เครื่องยนต์ตัวนี้ยังให้ปริมาณไอเสียต่ำมาก อยู่ในระดับ SULEV II (SUPER ULTRA LOW EMISSIONS VEHICLE) และสามารถผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ADVANCED TECHNOLOGY PARTIAL ZERO EMISSIONS VEHICLE (AT-PZEV) ที่เข้มงวดของ แคลิฟอร์เนีย
องค์ประกอบสำคัญของ ฟอร์ด เอสเคพ ไฮบริด คือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ความจุ 2.3 ลิตร 133 แรงม้า, มอเตอร์ไฟฟ้า 70 กิโลวัตต์, ระบบเกียร์อัตโนมัติซีวีที ควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิคถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ลงสู่ล้อ มอเตอร์/เจเนอเรเตอร์ทุติยภูมิสำหรับติดเครื่องยนต์ แบทเตอรีสำรองช่วยให้การถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนจากขุมพลังทั้ง 2 อย่าง ขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนแบทเตอรีนิคเกิล เมทัล ไฮดไรด์ แรงขับ 330 โวลท์ ระบบควบคุมการทำงานทั้งระบบ ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลจากพลังงาน สภาพการขับขี่ และความต้องการ รวมไปถึงการควบคุมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบติดเครื่องยนต์อัตโนมัติ และการชาร์จแบทเตอรี
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าที่รับพลังสำรองจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการช่วยเพิ่มแรงบิดในช่วงรอบเครื่องต่ำ จึงสามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.ได้พอๆ กับ เอสเคพ 3.0 ลิตร วี 6 สูบ 200 แรงม้า
ห้องโดยสารแปลกตาด้วยมาตรวัดต่างๆ รวมไปถึงมาตรวัดแสดงกรีนโซน เมื่อใช้พลังขับเคลื่อนจากแบทเตอรี มาตรวัดระดับของการชาร์จ ระบบนำทางที่รวมอยู่ในชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์ จอแสดงการใช้พลังขับเคลื่อนแบบไฮบริด ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และความสิ้นเปลืองเฉลี่ย
ภายในรับผู้โดยสารได้ 5 คน เบาะหลังสามารถแยกพับ 60/40 ได้ หากพับเบาะแถวหลังราบลงจะได้ปริมาตรบรรทุก 62 ลูกบาศก์ฟุต เมื่อตั้งเบาะหลังขึ้น เนื้อที่บรรทุกในด้านหลังยังมีความจุถึง 27.6ลูกบาศก์ฟุต แม้ถูกเบียดบังจากแพคแบทเตอรีถึง 1.7 ลูกบาศก์ฟุต แล้วก็ตาม
การตอบสนองการขับขี่ของ เอสเคพ ไฮบริด ไม่แตกต่างจากตัวเครื่องยนต์เบนซิน นอกจากขณะลดความเร็ว หรือจอดอยู่ เครื่องยนต์จะถูกตัดการทำงาน และจะสตาร์ทติดอีกครั้งเมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรค ในขณะใช้ความเร็ว ระบบเกียร์ซีวีทีจะปรับเลื่อนจังหวะเกียร์ให้ได้ความเร็วที่มีประสิทธิภาพการขับเคลื่อนสูงสุด ทั้งขณะการเร่งเครื่องยนต์ และขับขึ้นทางลาดชัน ในขณะเบรคเพื่อลดความเร็วมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกเปลี่ยนเป็นเจเนอเรเตอร์ผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนไปเก็บยังแบทเตอรี ซึ่งจะไม่ให้ความรู้สึกในการขับขี่แตกต่างไปจากเครื่องยนต์แบบธรรมดา
ฟอร์ด เอสเคพ ไฮบริด ได้นำระบบอีเลคทรอนิคมาใช้ในหลายส่วน ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำอัตราเร่งได้พอกับรุ่นเครื่องยนต์ วี 6 สูบ พวงมาลัยพร้อมระบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าที่จะช่วยผ่อนแรงในความเร็วต่ำและหนืดขึ้นในความเร็วสูง การตอบสนองการขับขี่ไม่แตกต่างไปจากเอสยูวีทั่วไปในท้องตลาดระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ จะทำงานทันทีเมื่อมีการลื่นไถลของล้อหน้า ทั้งยังเพิ่มแรงฉุดลากได้ถึง 3,500 ปอนด์ เทียบเท่ากับ เอสเคพ วี 6 สูบ
ฟอร์ด เอสเคพ ไฮบริด ให้ความหรูหราที่เหนือกว่า โดยมีเฉดสีให้เลือกมากขึ้นด้วยสีผสมเมทัลลิคเบาะนั่ง และพวงมาลัยหุ้มหนังแท้ พร้อมแพคเกจระดับหรู ด้วยฮีเตอร์สำหรับเบาะคู่หน้า และกระจกข้างระบบเครื่องเสียง และระบบนำทาง ซีดี เชนเจอร์แบบ 6 แผ่น และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นภายนอกยังมีระบบเซนเซอร์ถอยหลัง แผ่นปิดช่องสัมภาระท้าย แผ่นยางกันเปื้อนด้านหลัง และจุดจ่ายไฟฟ้า 110 โวลท์
อุปกรณ์มาตรฐานเพียบ และหรูหรา ด้วยล้ออลูมิเนียมขนาด 16 นิ้ว ระบบเบรคเอบีเอส 4 ล้อ ระบบเบรคจาน 4 ล้อ ระบบปรับอากาศ กระจกไฟฟ้า เซนทรัลลอค ลำโพง 6 ทิศทาง ระบบครูสคอนทโรลติดพวงมาลัย ไฟตัดหมอกด้านหน้า และอุปกรณ์ความบันเทิงอีกมากมาย นอกจากนั้น ยังติดตั้งระบบป้องกันการโจรกรรม ระบบแสดงแรงดันลมยาง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ และที่ต้องแนะนำ คือห้องโดยสารนิรภัยด้วยม่านถุงลม และถุงลมด้านข้างที่นั่งหน้าสั่งการด้วยเซนเซอร์จับการพลิกคว่ำและมูนรูฟ
ฟอร์ด เอสเคพ ไฮบริด ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีราคาแพงกว่า ฟอร์ด เอสเคพ เอกซ์แอลที วี 6 สูบ ร่วมหกหมื่นบาท แต่จัดว่าไม่แพงเมื่อแลกกับเทคโนโลยีไฮบริด ความประหยัดที่เหนือกว่า และที่สำคัญ คือ ช่วยลดมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อม
เรื่องโดย : อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : นานารถแนวคิด
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57705