DIY...คุณทำเองได้
ลิมิเทด สลิพ
ต้องยอมรับว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบ้านเรา ทั้งๆ ที่หลายๆ คนไม่มีความ
จำเป็นต้องใช้เลยด้วยซ้ำ แต่วันนี้ยังไงรถขับเคลื่อน 4 ล้อย่อมได้เปรียบกว่าด้วยประการทั้งปวง
ดูดีกว่า ดูเท่กว่า ไปไหนก็มีแต่คนมอง จนกลายเป็นว่าถ้าใครซื้อรถกระบะแล้วไม่ซื้อแบบ 4x4 ละก็
เชยไปเลย ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายๆ คนที่ซื้อไปกลายเป็นซื้อรถที่เกินความจำเป็นในการใช้งานไปซะงั้น
และยังส่งผลให้หลายๆ คนที่ไม่เคยใช้รถ 4x4 มาก่อน และไม่ค่อยศึกษาวิธีการใช้งาน
นำไปใช้หรือบำรุง
รักษาผิดๆ สำหรับผู้ที่ซื้อรถ 4x4 มาใช้งาน แนะนำว่าควรอ่านคู่มือ และศึกษาวิธีการใช้งานและการ
บำรุงรักษาให้ละเอียด เพื่อที่จะได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ลิมิเทด สลิพ
มีหน้าที่อย่างไร ?
รับรองว่าคนที่ซื้อรถ 4x4 มาใช้งานต้องรู้จักเจ้า ลิมิเทด สลิพ แน่นอน และเชื่อได้เลยว่ากว่า 70 %
นั้นรู้แค่ว่าอุปกรณ์ตัวนี้มีหน้าที่ช่วยไม่ให้รถติดหล่ม...แค่นั้นจริงๆ ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ผิด
แต่รู้แค่นั้นมันไม่ได้ช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย แต่ที่คุณควรจะต้องรู้มากกว่านั้นคือ มันทำงานได้อย่างไร ต้องดูแลรักษาอย่างไร และต้องระวังในการใช้งานอย่างไรเพื่อไม่ให้พัง
เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เจ้าของรถหลายๆ คนไม่รู้แน่นอน ถ้าคุณไม่รู้ข้อจำกัดของมัน โอกาสจะทำให้เกิดความเสียหายนั้นมีมาก และโอกาสเสี่ยงต่ออันตรายจากการใช้งานผิดๆ ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
หน้าที่ของเฟืองท้าย ลิมิเทด สลิพ นั้นชื่อเต็มๆ คือ ลิมิเทด สลิพ ดิฟเฟอเรนเชียล (LIMITED SLIP
DIFFERENTIAL) เราเรียกกันย่อๆ ติดปากว่า LSD ในรถที่มี LSD นั้นถูกออกแบบมาสำหรับใช้ในทางลื่น
หรือลื่นมากๆ ล้อขับเคลื่อนจะเกิดการหมุนฟรีของล้อข้างที่ติดหล่ม ทำให้ล้ออีกข้างไม่มีกำลังที่จะ
ขับเคลื่อนพอจะพารถเคลื่อนที่ การทำงานของเฟืองท้ายธรรมดานั้น มีการออกแบบให้มีการแบ่งถ่ายกำลัง
ด้วยชุดเฟืองดอกจอกขณะเลี้ยว ต้องขยายความอีกนิดถึงหน้าที่ของเฟืองดอกจอก ว่ามีหน้าที่อย่างไร
ในการขับเคลื่อนปกติล้อซ้ายและขวานั้นจะหมุนด้วยความเร็วรอบที่เท่าๆ กัน แต่เวลาที่เราเลี้ยวนั้น
ล้อที่อยู่ด้านในโค้ง เช่น เราเลี้ยวซ้ายล้อซ้ายจะหมุนระยะทางน้อยกว่าล้อขวา ถ้าปล่อยให้หมุนเท่ากัน
เวลาเลี้ยวจะเกิดการขืนกันระหว่างล้อซ้ายและขวา ในความเร็วสูงๆ จะทำให้การควบคุมยากเพราะรถ
จะไม่ยอมเข้าโค้งง่ายๆ และหน้ายางของล้อซ้ายจะเกิดการเบียดกับผิวถนนอย่างรุนแรง และจะทำให้
เฟืองท้ายเกิดความเสียหายตามมา หน้าที่ของเฟืองดอกจอก ก็คือ สร้างความแตกต่างให้ระหว่างล้อซ้าย
และขวาให้หมุนไม่เท่ากัน ให้ล้อซ้ายหมุนน้อยกว่าล้อขวาที่อยู่นอกโค้ง เนื่องจากล้อที่อยู่นอกโค้งนั้น
ต้องหมุนมากกว่าล้อด้านในโค้ง
นั่นคือหน้าที่ของเฟืองดอก ที่จะทำงานเมื่อรถอยู่ในโค้ง แต่พอตอนติดหล่มนี่สิมันก็ดันทำงานซะนี่
ทำให้ล้อข้างที่อยู่บนพื้นที่มีการยึดเกาะอยู่ ไม่มีแรงในการตะกุย แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ได้อีก เพราะเราใช้งาน
ส่วนใหญ่บนพื้นราบ อุปกรณ์ที่เรียกว่า LSD จึงออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เฟืองดอกจอกทำงานเวลา
ที่รถติดหล่ม เมื่อมีการแก้กันไปแก้กันมาของ 2 ตัวนี้ จึงส่งผลข้างเคียงในการใช้งานบ้าง เฟืองท้าย
LSD ใช้ชุดแผ่นคลัทช์ความฝืดโดยอาศัยแรงจากการกดของสปริง หรือแรงหน่วงจากการทดเฟืองขึ้นอยู่กับ
การออกแบบ เมื่อล้อขับเคลื่อนข้างใดข้างหนึ่งเกิดการลื่นไถลหมุนฟรี กำลังขับเคลื่อนจะถูกส่งจากล้อที่
หมุนเร็วกว่าไปยังล้อที่หมุนช้ากว่า ทำให้ล้อที่หมุนฟรีลดกำลังขับเคลื่อนลง ขณะที่ล้ออีกข้างหนึ่งจะมี
กำลังขับเคลื่อนมากกว่า ทำให้สามารถพาตัวรถขับเคลื่อนต่อไปได้ แม้ว่าคุณจะปรับมาใช้ระบบ
ขับเคลื่อน 4 ล้อแต่บนพื้นผิวที่เปียกลื่น ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ง่ายถ้าไม่มีเจ้า LSD มาช่วย
รถที่มีเฟืองท้ายแบบ ลิมิเทด สลิพ จึงขับเคลื่อนได้ดีกว่าในสภาพทางเปียกลื่น เต็มไปด้วยหล่มโคลน
พื้นทรายร่วน จะทำให้ติดหล่มยากขึ้น หรือช่วยในการขับขี่บนสภาพทางทุรกันดารได้ดีขึ้น
จึงเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับหลักการทำงานของเฟืองท้าย ลิมิเทด สลิพ นี้จะมีการออกแบบมาหลายลักษณะ แต่โดยรวมจะทำให้มีการส่งกำลังขับมายังล้อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับล้อที่หมุนฟรี หรือสูญเสียกำลังขับเคลื่อน เทคนิควิธีที่ใช้ และใช้กันมากกว่าวิธีอื่น คือ ใช้ความฝืดของแผ่นคลัทช์เปียกซ้อนกันหลายแผ่น เป็นตัวควบคุมการส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อขับเคลื่อน ปัจจุบันมีเฟืองท้าย LSD ที่มีหลักการทำงานแตกต่างกันออกไปหลายแบบ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม คุณจะต้องเรียนรู้ถึงข้อจำกัดของมัน เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
รถที่มีเฟืองท้ายแบบ LSD การขับขี่บนถนนปกตินั้นอาจจะทำให้รู้สึกฝืนๆ แปลกๆ
โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งจะรู้สึกว่าล้อคู่หลังมันจะมีแรงต้าน หรือมีเสียงดัง เนื่องจากชุดคลัทช์ทำงาน เมื่อคุ้นเคยกับมันแล้วจะรู้ว่าระบบนี้จะทำให้คุณเข้าโค้งได้ดีขึ้น มั่นคงขึ้น แต่ต้องไม่ใช้ความเร็วสูงจนเกินไป เพราะบางครั้งการจับตัวอย่างเฉียบพลัน อาจทำให้คุณตกใจ และอาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้ ในรถทั่วไปจึงให้เปอร์เซนต์การจับตัวของเฟืองท้าย ลิมิเทด สลิพ มาประมาณ 25-30 เปอร์เซนต์ ซึ่งพอเพียงแก่การส่งกำลังขับเคลื่อนให้หลุดรอดจากการติดหล่มได้ด้วยแรงฉุดที่ส่งผ่านชุดคลัทช์ มายังล้อขับเคลื่อนด้านที่อยู่ตรงข้ามกับล้อที่สูญเสียการขับเคลื่อน นอกจากนี้ยังมีเฟืองท้าย ลิมิเทด สลิพ แบบอื่นๆ อีก ที่ไม่ได้มีติดรถมา ต้องซื้อมาเปลี่ยนเองสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้สูงขึ้น เช่น
แบบที่มีการทำให้มีการจับตัวร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งจะช่วยให้การขับเคลื่อนบนทางโหดๆ ทำได้ดียิ่งขึ้น
แต่ต้องมีกลไกควบคุมโดยเฉพาะที่รู้จักกันดี คือ ยี่ห้อ แอร์ ลอคเกอร์ จะใช้แรงลมไปดันกลไกเพื่อลอค
เฟืองดอกจอกไม่ให้มีการหมุน เหมาะสำหรับสภาพเส้นทางที่สมบุกสมบันมากๆ แม้ล้อติดพื้นล้อเดียว
ก็มีแรงขับเคลื่อนพอที่จะเคลื่อนที่ไปได้ แต่ผู้ขับขี่ควรมีการศึกษาหาความรู้ และมีความชำนาญในการ
บังคับควบคุมให้ถี่ถ้วน เพราะจะเกิดอันตรายได้ง่ายถ้าไม่ชำนาญพอ
การดูแลรักษา
เป็นหัวใจสำคัญ เพราะมีผลหลายด้าน เช่น ความปลอดภัยจากการใช้งาน ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
เป็นจุดที่หลายๆ คนไม่ทราบ และก่อให้เกิดความเสียหายและค่าใช้จ่ายตามมา คู่มือประจำรถ คือ สิ่งที่
ต้องยึดมั่น โดยเฉพาะคำเตือนต่างๆ เช่น ต้องเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้ายที่ระยะเท่าใด
ต้องใช้น้ำมันแบบไหน ความหนืดเท่าไร หรืออาจมีการจำเพาะเจาะจงยี่ห้อมาเลย ว่าต้องใช้ของยี่ห้อนี้ และเบอร์นี้เท่านั้น เราต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะน้ำมันแต่ละยี่ห้อ แต่และเบอร์นั้น
มีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป ความแตกต่างของส่วนผสมนี้เอง จะทำใช้ชิ้นส่วนภายใน โดยเฉพาะผ้าคลัทช์ เกิดความเสียหายในเวลาอันสั้น
สำหรับคนที่ซื้อรถมือสองมา ต้องตรวจสอบด้วยว่าถ้ารุ่นนั้นสเปคระบุกว่ามี LSD ต้องตรวจเชคให้ดี
เพราะอาจจะถูกถอดเนื่องจากเสียหาย หรือถูกถอดไปขาย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาแพง
วิธีการทดสอบก็ไม่ยาก ใช้แม่แรงยกล้อหลังให้ลอยพ้นพื้น เมื่อหมุนล้อด้านหนึ่ง อีกข้างต้องหมุนไปใน
ทิศทางเดียวกัน และต้องมีแรงต้าน ถ้าจับแล้วหยุดหมุนแสดงว่าไม่มี LSD ก็ไม่ต้องซื้อ
แล้วเมื่อซื้อมาต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนว่ารถรุ่นนั้นมีข้อมูลจำเพาะอย่างไรบ้าง เวลาเปลี่ยนน้ำมัน
เฟืองท้ายใหม่ จะได้ไม่กลายเป็นว่า คุณนั่นเองที่เป็นตัวการทำให้เฟืองท้ายเสียหาย
เรื่องโดย : พหล ฯ 30
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57614