DIY...คุณทำเองได้
เซทอัตราทดเฟืองท้าย
เรื่องของการตกแต่งรถยนต์นั้น ถือว่าเป็นปกติที่เจ้าของรถส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนล้อและยาง ซึ่งถือว่าเป็นอันดับแรกๆ ของการเปลี่ยนแปลง ลำพังการเปลี่ยนแปลงที่มีขนาดผิดไปจากเดิมไม่มาก ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับสมรรถนะของตัวรถสักเท่าไหร่ แต่บรรดาขาลุยทั้งหลายที่เปลี่ยนจากยางเดิมติดรถไปใช้ยางที่นับเส้นผ่าศูนย์กลางกันเป็นนิ้วนั่นละ ที่จะมีปัญหาตามมาในเรื่องของอัตราเร่งทิ่ผิดไปจากเดิม พูดง่ายๆ ก็คือจะรู้ได้ทันทีว่าเครื่องอืดต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูงกว่าเดิมมาก
เพื่อให้จังหวะออกตัวมีความกระฉับกระเฉง หรือจังหวะการเร่งแซงต้องเร่งเครื่องและใช้ความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ที่เปลี่ยนไปใช้ยางที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 33 นิ้วขึ้นไป จะรู้สึกถึงปัญหาดังกล่าวชัดเจน โดยเฉพาะขณะเร่งแซงต้องอาศัยจังหวะมากขึ้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
จะว่าไปแล้วมันก็เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียวสำหรับหนทางการแก้ปัญหา ซึ่งรู้กันอยู่แล้วว่าต้องเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้ายใหม่เท่านั้น ถึงจะทำให้อัตราเร่งของรถใกล้เคียงกับของเดิมหรือเป็นไปตามที่เจ้าของรถต้องการ แต่จะเปลี่ยนไปใช้อัตราทดเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสมนั่นแหละคือปัญหา เพราะการลองผิดลองถูกคงไม่ดีสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากชุดเฟืองท้าย ไม่ว่าจะเป็นที่ชุดเฟืองบายศรีและเดือยหมู มาใส่เฟืองท้ายเดิม หรือเปลี่ยนเฟืองท้ายยกลูกก็มีราคาที่ค่อนข้างแพงไม่นับค่าแรงอีกไม่น้อย คุณสามารถเลือกเฟืองท้ายที่เหมาะสมได้โดยไม่ต้องเดา แต่ต้องลงมือบวกลบคูณหารกันหน่อยก็แล้วกัน
เส้นผ่าศูนย์กลางของยางที่เปลี่ยนไป เปรียบได้กับการเพิ่มหรือลดอัตราทดเฟืองท้าย ถ้าเปลี่ยนยางที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้น เท่ากับเราลดเฟืองท้ายให้ต่ำลง เวลาออกตัวก็จะอืดมากขึ้นแต่เวลาวิ่งความเร็วปลายรอบเครื่องจะต่ำลง ลดการสึกหรอในย่านความเร็วสูงและลดอัตราสิ้นเปลืองได้ระดับหนึ่ง ถ้าเปลี่ยนยางที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กลง เท่ากับเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้ายให้สูงขึ้น เวลาออกตัวจะรู้สึกว่ากระฉับกระเฉงมากกว่าอัตราเร่งดีกว่า แต่ในความเร็วสูงรอบเครื่องจะสูงกว่าปกติ ความสึกหรอและกินน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ทั้งสองอาการล้วนแล้วแต่มีผลดีผลเสียแตกต่างกันสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานก็ได้ เช่น คนที่ต้องบรรทุกหนักหรือต้องวิ่งทางชันเป็นประจำ ไม่ค่อยได้ใช้ความเร็วสูงก็สามารถเพิ่มอัตราทดเฟืองท้ายให้สูงขึ้นได้
การคำนวณเพื่อหาอัตราทดที่เหมาะสม ไม่ใช่เรื่องยากเย็น ตัวเลขต่างๆ ก็หาได้จากแก้มยางและจากแคทาลอกของรถรุ่นนั้นๆ อย่างแรกที่ต้องรู้คือ ขนาดของยางที่เราต้องการจะนำมาเปลี่ยนใส่ เช่นต้องการใส่ 35 นิ้วเพื่อการคำนวณที่ง่ายก็ต้องหาเส้นผ่าศูนย์กลางยางเดิมให้เป็นนิ้วด้วยเตรียมเครื่องคิดเลขกับกระดาษทดให้พร้อมก็แล้วกัน
ยกตัวอย่าง ยางติดรถรุ่นหนึ่ง ขนาดยาง 265/75 R 15 ตัวเลข 265 พูดง่ายๆ คือหน้ากว้างของยาง 75คือซีรีส์ของแก้มยาง R 15 คือเส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ เริ่มด้วยการหาความสูงของแก้มยางเป็นอันดับแรก กดเครื่องคิดเลขโดยเอา 75 ตั้งคูณด้วย 265 แล้วกดเครื่องหมาย % ก็จะได้ตัวเลข 198.75หน่วยยังเป็นมิลลิเมตร อยู่นะครับ ตัวเลขนี้คือความหนาของแก้มยางเพียงด้านเดียว ดังนั้นต้องคูณด้วย 2 ก็จะเท่ากับ 397.5 มม.
ต่อไปต้องแปลงหน่วยจากมิลลิเมตร ให้เป็นเซนติเมตรก่อน ง่ายๆ ก็คือเอา 10 ไปหาร 397.5 จะเท่ากับ39.75 เซนติเมตร ต่อไปก็ทำตัวเลขนี้ให้เป็นหน่วยของนิ้ว ก็เอาตัวเลข 39.75 ตั้งหารด้วย 2.54(เป็นตัวเลขของการแปลงหน่วย) เท่ากับว่าแก้มยางทั้งสองด้านนั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 15.6 นิ้ว
ยังไม่เสร็จแค่นั้น เพราะเราต้องเอาเส้นผ่าศูนย์กลางของกระทะล้อเข้าไปด้วย ก็จะเป็น 15.6+15ผลลัพธ์คือ 30.6 นิ้ว หมายความว่า ยางเส้นนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 30.6 นิ้วนั่นเอง เป็นยางที่ผู้ผลิตคำนวณมาให้เหมาะกับอัตราทดเฟืองท้ายของรถรุ่นนั้นๆ ทีนี้ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนยางไปใช้ขนาด 35 นิ้ว คุณสามารถคำนวณได้ว่า ต้องเปลี่ยนเฟืองท้ายเป็นอัตราทดเท่าใด จึงจะให้ประสิทธิภาพ
ใกล้เคียงกับสมรรถนะที่ได้จากยางเดิม สำหรับคนที่ใช้ยางขนาดต่อไปนี้ก็สบายหน่อย เพราะมีตัวเลขที่เข้าสูตรเรียบร้อยแล้วมาให้ดูเลย ส่วนท่านใช้ยางนอกเหนือจากนี้ สามารถคำนวณเองได้ง่ายๆตามสูตรที่ให้ไปครับ
[table]ขนาด, เส้นผ่าศูนย์กลาง (นิ้ว)
235/85 R ,16 31.7
255/85 R, 16 33.0
205/80 R, 16 28.9
215/80 R, 16 29.5
195/80 R, 15 27.2
215/80 R, 15 28.5
225/80 R, 15 29.1
225/75 R, 16 29.2
245/75 R, 16 30.4
215/75 R, 15 27.6
225/75 R, 15 28.2
235/75 R, 15 28.8
215/70 R, 16 27.8
235/70 R, 16 28.9
245/70 R, 16 29.5
265/70 R, 16 30.6
275/70 R, 16 31.1
215/70 R, 15 26.8
225/70 R, 15 27.4
215/65 R, 16 27.0
255/65 R, 16 29.0
285/60 R, 17 30.4
345/60 R, 17 33.2
275/60 R, 16 28.9
255/55 R, 18 29.0
285/55 R, 18 30.3
275/55 R, 17 28.9
255/50 R, 17 27.0
245/50 R, 16 25.6[/table]
ทีนี้มาเข้าสูตรคำนวณหาอัตราทดเฟืองท้ายที่เหมาะสมกับรถคุณกันนะครับ แต่ก่อนอื่นต้องอธิบายสักนิดว่า อัตราทดที่เราได้ยินกัน เช่น 4.3, 4.7 หรือ 4.9 นั้นหมายความว่าอย่างไร ?หมายความให้เข้าใจง่ายๆ ว่า เปรียบได้กับเพลากลางหมุน 4.3, 4.7 หรือ 4.9 รอบ ล้อรถจะหมุนได้ครบหนึ่งรอบพอดี แต่จริงๆ เขาจะนับกันที่การหมุนของเฟืองเดือยหมูที่รับกำลังมาจากเพลากลางเฟืองตัวนี้จะขบอยู่กับเฟืองบายศรี ที่จะเปลี่ยนทิศทางการหมุน ถ้าเฟืองเดือยหมูหมุน 4.3, 4.7 หรือ 4.9 รอบเฟืองบายศรีก็จะหมุนครบหนึ่งรอบพอดี ตัวเลขของอัตราทดที่ว่านี้ มาจากคำนวณเฟืองของเฟืองเดือยหมูและบายศรี เอามาหารกัน เช่น เฟืองบายศรีมี 39 ฟัน เฟืองเดือยหมูมี 9 ฟัน เอามาหารกันจะได้เท่า 4.3333 นั่นคือ อัตราทด 4.3 นั่นเอง
สูตรคำนวณหาอัตราทดสามารถหาได้จากตัวอย่างนี้
เส้นผ่าศูนย์กลางของยางเดิม = เส้นผ่าศูนย์กลางของยางที่จะเปลี่ยนใหม่
100 % X % (% ที่เพิ่มขึ้น)
30.6 = 35
100 X
30.6 = X
100x35
30.6 = X
3500
X = 3500
30.6
X = 114.37 %
เท่ากับว่ายางขนาด 35 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่ายางเดิม 114.37-100 = 14.37 %ยังไม่จบแค่นั้นครับ เมื่อรู้ว่ายางมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพิ่มขึ้น 14.37 % ถ้าต้องการอัตราเร่งเท่ายางเดิม คุณก็ต้องเพิ่มอัตราทดเฟืองท้ายให้มากกว่าเดิมอีก 14.37 % ถ้าเฟืองท้ายเดิมมีอัตราทด 4.3 แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอีก 14.37 % นั้นเท่ากับเท่าไหร่ ก็ต้องคำนวณอีกรอบหนึ่ง ต้องนำมาเทียบบัญญัติไตรยางศ์ ดังนี้
4.3x14.37 = X (% ที่เพิ่มขึ้น)
100
61.791 = X
100
X = 0.617 %
นำค่าที่ได้คือ 0.617 มาบวกกับอัตราทดเฟืองท้ายเดิมคือ 4.3 ก็จะได้ดังนี้ 0.617+4.3 = 4.917 สรุปว่าถ้าต้องการสมรรถนะเท่าเดิมต้องเปลี่ยนเฟืองท้ายเป็นขนาด 4.917 ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่ามันจะมีของตรงรุ่นหรือไม่ ถ้าไม่มีต้องเปลี่ยนให้ใกล้เคียงมากที่สุด และจำเป็นมากสำหรับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะจะมีเฟืองท้าย 2 ชุดคือ เฟืองท้ายด้านหน้าและด้านหลัง จำเป็นต้องเปลี่ยนให้มีอัตราทดเท่ากัน เพื่อป้องกันไม่ให้ชุดเกียร์ทรานสเฟอร์เสียหาย
เรื่องโดย : พหล ฯ 30
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57463