วิถีตลาดรถยนต์
"เริ่มไตรมาสที่สอง ตลาดจับมือกันร่วงเกือบทั้งกระดาน"
การจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศเมื่อผ่านพ้นเดือนเมษายน เดือนที่สี่ของปีไปถึงแม้จะมียอดรวมที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ก็ส่อแววว่าจะไม่รุ่งไม่สดใสอย่างที่น่าจะเป็นไปเสียแล้ว เพราะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นี่ยังโชคดีที่สามเดือนก่อนหน้านี้ตุนยอดขายเอาไว้ได้กันพอสมควร ไม่อย่างนั้นละก็ได้แดงเถือกกันไปทั้งกระดานแล้ว
เดือนเมษายนที่ผ่านพ้นไปเกิดอะไรขึ้นกับการจำหน่ายรถยนต์ในบ้านเรา เกือบทุกตลาดทุกเซกเมนท์พร้อมใจกันทำยอดขายได้น้อยกว่าในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ยิ่งถ้าไปเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคมยิ่งไปกันใหญ่ ร่วงลงมากันทั้งตลาดก็ว่าได้ จะมีก็เพียงที่เพิ่มมากกว่าเดือนที่แล้วเป็นตลาดรถยนต์ประเภทเอมพีวี แต่ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยไม่กี่สิบคันเท่านั้น นอกนั้นไม่ว่าจะเป็นตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หรือตลาดรถพิคอัพ 1 ตันขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในบรรดารถยนต์ประเภทต่างๆ ที่จำหน่ายอยู่ในบ้านเราก็มียอดจำหน่ายติดลบตัวแดงกันเป็นแถว
ยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทุกประเภททุกยี่ห้อในเดือนเมษายน อยู่ที่ 53,560 คัน ต่างกับช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยลดลง 4.2 % และเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม มียอดการจำหน่ายลดลง 19.8 % โดยที่ โตโยตา ยังครองอันดับหนึ่ง มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดเหมือนทุกๆ เดือน ซึ่งเดือนนี้ โตโยตา ขายไป 20,351 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 38.0 % ตามมาเป็นอันดับสองด้วย อีซูซุ 13,742 คัน ส่วนแบ่งตลาด 25.7 % ส่วนอันดับสามเป็นของ ฮอนดา 6,003 คัน คิดเป็น 11.2 % สามอันดับแรก รถยนต์ที่ขายดิบขายดีไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่อันดับที่สี่มาแรงในเดือนนี้ เชฟโรเลต์ พุ่งจากอันดับที่หกในเดือนที่แล้วขึ้นมาอยู่อันดับสี่ ด้วยยอดขาย 3,279 คัน คว้าส่วนแบ่งตลาดไป 6.1 % แทนที่เจ้าของอันดับสามเดิมอย่าง มิตซูบิชิ ไปอยู่อันดับที่ห้า มิตซูบิชิ ทำยอดขายได้ 2,825 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.3 %
ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันนี้ของปีที่แล้วถึงแม้ว่าจะสู้กับเดือนมีนาคมที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่ได้ก็ตามที หลายๆ บแรนด์ทำยอดขายได้สูงกว่าเดือนที่แล้ว ยักษ์ใหญ่หัวแถวของตลาดอย่าง โตโยตา กลับมียอดขายที่ต่ำลงกว่าเดือนมีนาคมโดยเฉพาะรถยนต์นั่งระดับหรูหราจากยุโรป เมร์เซเดส-เบนซ์ ฝ่าดงรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นมาติดอยู่ในกลุ่มทอพไฟว์ ได้เป็นครั้งแรก
เดือนเมษายนนี้ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรวมทุกบแรนด์ขายกันไปได้ 15,300 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีที่แล้ว 6.1 % แต่ก็ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 10.5 % ยอดขายของ โตโยตา ลดลงกว่าเดือนที่แล้วเกือบสองพันคันโดยขายได้ 6,551 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 42.8 % ฮอนดา ตามมาเป็นอันดับที่สอง 5,946 คัน ส่วนแบ่งตลาด 38.9 % นี่ก็ขายได้มากกว่าเดือนที่แล้วเพียงแค่สองคันเท่านั้น เชฟโรเลต์ มาแรงไม่เบา ขยับจากอันดับห้ามาอยู่อันดับสามด้วยยอดขาย 546 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 3.6 % แต่นี่สิมาแรงจริงๆ แถมเป็นที่รู้กันว่าราคาของรถยนต์บแรนด์นี้แต่ละคันอยู่เจ็ดหลักทุกรุ่นทุกโมเดล เมร์เซเดส-เบนซ์ ขายกระฉูดขาดไปแค่สองคันก็จะได้ถึง 500 คัน แซงพรวดพราดจากอันดับแปดในเดือนมีนาคมมาอยู่อันดับสี่อย่างงดงาม ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 3.3 % และอันดับที่ห้าก็ขยับขึ้นมาเช่นกันเป็นของ มาซดา จากยอดขาย 416 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 2.7 %
เซกเมนท์ใหญ่อย่างรถพิคอัพ 1 ตันขับเคลื่อน 2 ล้อ ถึงแม้จะได้สายเลือดใหม่อย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ และมาซดา บีที-50 มาช่วยกระตุ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ในเมื่อหัวแถวอย่าง อีซูซุ และโตโยตามียอดขายที่ลดลง ก็ส่งผลทำให้ทั้งตลาดมียอดรวมที่ลดลงตามไปด้วย
เดือนเมษายนรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ขายไปได้ 28,824 คัน ต่างจากเดือนที่แล้วเกือบหมื่นคันทีเดียว อีซูซุ ดี-แมกซ์ ทำยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในตลาดมหาชนนี้ 12,063 คัน ส่วนแบ่งตลาด 41.9 % ส่วน โตโยตา ขายไปได้ 8,527 คันได้ส่วนแบ่งตลาดไป 29.6 % เชฟโรเลต์ ทำได้ดีในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน คว้ายอดขายไปได้ 2,619 คันรับตำแหน่งที่สามไป มีส่วนแบ่งตลาด 9.1 % อันดับที่สี่เป็นของ นิสสัน ทำยอดขายประจำเดือนเมษายนได้ 1,948 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.8 % และอันดับที่ห้า มิตซูบิชิ ได้ยอดขายไป 1,651 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 5.7 % ส่วน ฟอร์ด กับ มาซดา เริ่มส่งมอบรถพิคอัพรุ่นใหม่ให้แก่ลูกค้าได้มาก แต่ มาซดา ดูจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อย เพราะมียอดขายเกินกว่าหลักพัน โดย มาซดา ขายไปได้ 1,132 คันขณะที่ ฟอร์ด ขายได้ 830 คัน
เมื่อพิคอัพ 1 ตันขับเคลื่อน 2 ล้อ มียอดขายที่ลดลงแล้ว รถประเภทขับเคลื่อน 4 ล้อ จะฝีนกระแสไปได้อย่างไร เดือนเมษายนเซกเมนท์นี้ทุกบแรนด์ทำยอดขายรวมกันลดลงจากเดือนเมษายนปีที่แล้วถึง 23 % และลดลงกว่าเดือนมีนาคมที่ผ่านมาถึง 26.6 % ทั้งนี้เดือนเมษายนมียอดขายรวมกันที่ 2,476 คัน โตโยตา ทำยอดขายไปได้ 1,482 คัน ส่วนแบ่งตลาด 59.9 % มิตซูบิชิ ทไรทัน ยังไปได้ดีพอสมควรในตลาดนี้ ถึงจะมียอดขายที่ลดลงกว่าเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังยืนหยัดอยู่ในอันดับที่สองของรถพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 440 คันได้ส่วนแบ่งตลาดไป 17.8 % เช่นเดียวกับ อีซูซุ ที่ทำยอดขายได้ 276 คัน อยู่ในอันดับที่สาม มีส่วนแบ่งตลาด 11.1 % ฟอร์ด มากู้หน้าทำได้ดีกว่าคู่แฝดคนละฝาอย่าง มาซดา ในตลาดนี้ โดย ฟอร์ด ทำยอดขายอยู่ในอันดับที่สี่ 134 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.4 % ขณะที่ มาซดา ทำได้เพียง 30 คัน อยู่ในอันดับที่หก ส่วน เชฟโรเลต์ ได้อันดับที่ห้าจากยอดขาย 114 คัน
ส่วนตลาดรถเอสยูวี หลายๆ บแรนด์อย่าง ฟอร์ด นิสสัน บีเอมดับเบิลยู ทำยอดขายได้ดีขึ้นกว่าเดือนที่ผ่านมา แชมพ์เก่า โตโยตา กลับมียอดขายที่ลดลง เซกเมนท์นี้ยอดขายรวมกันอยู่ที่ 2,907 คัน ลดลงกว่าปีที่แล้ว 20.6 % ต่างจากเดือนที่แล้ว 6.5 % แต่จากยอดขายรวมนี้ โตโยตา ถึงแม้จะขายลดลง แต่ก็ยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ขายไปได้ 2,118 คัน คว้าส่วนแบ่งตลาดไปครอง 72.9 % อีซูซุ มาเป็นที่สองแบบห่างๆ จากยอดขาย 428 คัน ฟอร์ด ยังเป็นอันดับสามเหมือนเดิม 160 คัน ได้ส่วนแบ่งไป 5.5 % อันดับสี่และห้าเป็นของ นิสสัน และฮอนดา 60 คัน และ 39 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.1 และ 1.3 % ตามลำดับ ส่วน บีเอมดับเบิลยู เดือนนี้ขายไปได้ถึง 31 คัน
ตลาดรถเอมพีวี เป็นตลาดเดียวที่เทียบกับเดือนมีนาคมแล้วมียอดขายเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยซึ่งมียอดขายรวมกันที่ 1,087 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 29 คัน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของ มิตซูบิชิ กับซังยง และซูซูกิ ขณะที่บแรนด์อื่นๆ ที่จำหน่ายรถยนต์อยู่ในเซกเมนท์นี้มียอดขายที่ลดลง โตโยตา ขายได้ 775 คัน ลดลงไปจากเดือนที่แล้ว 6.6 % ขณะที่ มิตซูบิชิ ที่ตามมาเป็นอันดับที่สองขายได้ 159 คัน เพิ่มขึ้น 39.5 % ซูซูกิขายได้ 68 คัน เพิ่มขึ้น 65.9 % ขณะที่ ซังยง รถเอมพีวีจากแดนโสม ขายได้ 50 คัน เพิ่มขึ้น 72.4 %
อย่างไรก็ตามยอดขายรถยนต์โดยรวมสำหรับเดือนเมษายนที่ลดลงไปนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ผู้คนงดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าหลายๆ ประเภทเอาไว้ ขอไปสนุกกับเทศกาลแห่งความชุ่มฉ่ำนี้ก่อน ซึ่งไม่ไช่เฉพาะแต่ธุรกิจรถยนต์เท่านั้นที่ซบเซาลงไปในเดือนนี้ แต่ยังรวมถึงธุรกิจอีกมากมายหลายชนิด ยกเว้นธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงและธุรกิจเฉพาะเทศกาลที่ไปได้ดีไปได้สวยในเดือนนี้ ทิศทางของยอดจำหน่ายรถยนต์จะออกหัวหรือออกก้อยคงต้องดูกันแบบเดือนต่อเดือน เพราะเดือนพฤษภาคมก็เข้าสู่ช่วงเปิดภาคเรียนฤดูกาลศึกษาใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลายๆ คนหลายๆ บ้านอาจจะไม่มีเวลานึกถึงรถใหม่ป้ายแดงก็เป็นได้
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57392