มาซดา คาบูรา

ค่าย มาซดา ได้ปลุกกระแส ซูม...ซูม...อีกครั้ง ด้วย คาบูรา (KABURA) รถแนวคิดรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ โดยใช้เป็นหัวหอกของค่ายในปีนี้ ด้วยรูปแบบรถสปอร์ทคอมแพคท์เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ไฮเทคโนโลยี คาบูรา เข้าถึงจิตวิญญาณของรถสปอร์ท ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เกี่ยวข้องกับรถรุ่นอื่นๆในค่าย พร้อมการจัดวางเครื่องยนต์ด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง คาบูรา เน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ด้วยการจัดวางที่นั่งในห้องโดยสารแบบ 3+1 เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายเหนือกว่ารถสปอร์ทคอมแพคท์แบบเก่า โดยยังคงขนาด และน้ำหนักเดิมไว้ สามารถใช้สอยในชีวิตประจำวัน หรือจะตอบสนองการใช้งานกิจกรรมกลางแจ้งด้วยการพับเบาะโดยสาร ทำให้มีเนื้อที่เพียงพอสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ คาบูรา เป็นการแผลงมาจากชื่อ KABURA-YA ซึ่งเป็นลูกธนูที่มีเสียงโหยหวนขณะพุ่งแหวกอากาศด้วยความเร็ว ในประวัติศาสตร์ลูกธนูนี้จะถูกใช้งานเมื่อมีเหตุเพลิงไหม้ หรือเป็นลูกธนูของการเปิดศึกสงคราม และนี่จะเป็นสัญญาณเปิดศึกของค่าย มาซดา ในปีนี้ คาบูรา เป็นรถแนวคิดที่แสดงถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความปรารถนาในการขับขี่ได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมทั้งรูปทรงที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่แท้จริงของรถสปอร์ท และสามารถตอบสนองความต้องการในอนาคตได้เต็มที่ พลังขับเคลื่อนได้มาจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ 2.0 ลิตร รหัส MZR พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พลังขับเคลื่อนถูกส่งผ่านไปยังล้อหลังทั้งสองสู่ยางบริดจ์สโตน โพเทนซาขนาด 245/35R20 และ 245/35R19 ในล้อหน้า ระบบรองรับใช้ร่วมกับ มาซดา เอมเอกซ์-5 ทำให้คาบูรา มีสัดส่วนที่อยู่ตรงกลางระหว่าง เอมเอกซ์-5 และอาร์เอกซ์-8 รูปทรงภายนอกมีการออกแบบที่เน้นความกะทัดรัด คล่องตัว เปี่ยมพลังด้วยบังโคลนขนาดใหญ่ส่วนโค้งเฉียบคมดุจรถสปอร์ท คลาสสิค จากกระจกหน้าถึงด้านหลังมีส่วนโค้งที่ต่อเนื่องสร้างความรู้สึกที่โปร่งโล่ง หลังคาสามารถเปิดออกรับอากาศจากภายนอกอย่างง่ายดาย เพียงการหมุนด้ามมือจับ แผ่นกระจกด้านหลัง แบ่งออกเป็นสองชิ้น โดยปกติชิ้นบนจะอยู่ในแนวราบเดียวกับชิ้นใหญ่แต่เมื่อเปิดขึ้นด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ชิ้นกระจกจะเปิดขึ้นทำหน้าที่เป็นปีกดักลม ทั้งยังเป็นช่องเปิดให้อากาศถ่ายเทจากห้องโดยสาร และยังเป็นการเพิ่มเฮดรูมของผู้โดยสารในด้านหลังอีกด้วย ภายในแผ่นกระจกนี้ ยังมีแผงโซลาร์เซลล์ ที่จ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับระบบหมุนเวียนอากาศ และแบทเตอรี ในกลุ่มผู้ใช้รถวัยรุ่น มักจะมีผู้โดยสารอย่างน้อย 1-2 คน ซึ่งจะประสบปัญหาของเนื้อที่ในห้องโดยสารโดยเฉพาะกับรถสปอร์ท 2+2 แต่สำหรับ คาบูรา ได้หาทางออกด้วยการออกแบบจัดที่นั่งแบบ 3+1 โดยประตูซ้ายด้านคนขับ จะเป็นช่องทางเข้าสำหรับที่นั่งสำรองด้านหลังส่วนประตูขวาเป็นทางเข้าสำหรับผู้โดยสารข้าง และหลัง ด้วยการตัดช่องเก็บสัมภาระ และลดขนาดแผงอุปกรณ์มาตรวัดลง แล้วเลื่อนเบาะผู้โดยสารมาข้างหน้าอีก 6 นิ้ว จะทำให้ผู้โดยสารด้านหลังมีเนื้อที่กว้างขวาง สบายพอๆ กับที่นั่งด้านหน้า จากความสำเร็จของการออกแบบประตูหลัง มาซดา อาร์เอกซ์-8 ที่สามารถเปิดออกให้กับผู้โดยสารในแถวหลัง ใน คาบูรา ได้พัฒนาไปอีกขั้น ด้วยบานประตูแบบใหม่ ที่สามารถสไลด์หลบทำให้ผู้โดยสารด้านหลังได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากการออกแบบที่สุดเร้าใจ และเทคโนโลยีที่อัดแน่นอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ทีมนักออกแบบยังให้ความสำคัญกับการนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้งานอีกครั้ง ด้วยความร่วมมือกับ SUSTAINABLE SOLUTIONS, INC. (SSI) เจ้าพ่อแห่งวงการใช้วัสดุเหลือใช้ โดยการนำวัสดุเหลือใช้จากโรงงานรองเท้ากีฬาไนกี ที่โด่งดังมาผลิตวัสดุหุ้มภายในห้องโดยสาร ที่สามารถย้อม หรือพิมพ์สีต่างๆ ได้ตามต้องการ นับเป็นยนตรกรรมใหม่ ที่มีความเพียบพร้อมทั้งรูปทรง เทคโนโลยี และการใช้งาน เหมาะสมกับยุคสมัยจริงๆ ทั้งยังเป็นการพลิกรูปแบบการผลิตยานยนต์อีกครั้งหนึ่ง ที่มีการนำวัสดุเหลือใช้มาใช้งานภายในห้องโดยสาร