ชีวิตอิสระ(4wheels)
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
กลางฤดูร้อนที่แสนอบอ้าวในเมืองกรุง ผมและทีมงานปลีกตัวจากงานประจำที่แสนวุ่นวายโดยมีพาหนะมาดแมน อย่าง มิตซูบิชิ จี-แวกอน เป็นรถคู่ใจพาไปผจญภัยยังดินแดนล้านนาตอนล่าง ที่ห่างไกลจากแสงสี และนักท่องเที่ยวประเภทฉิ่งฉาบทัวร์ !
เป้าหมายแรกที่เราตั้งใจไปนั้น เพื่อไปไล่ล่าความฝันของ "พี่เขียว" อาร์ทไดเรคเตอร์ที่แกอยากไปตามหา "ผีตองเหลือง" และแกก็สมหวังเรียบร้อยไปแล้ว...เป้าหมายที่สอง คือ การเสาะหาเส้นทาง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น้อยคนนักจะรู้จัก มานำเสนอคุณผู้อ่าน และเราก็โชคดีที่ได้พบกับสถานที่แห่งนี้ ใช่แล้วครับ ผมหมายถึง "อุทยานแห่งชาติขุนสถาน" จ. น่าน ผมรับประกันได้ว่าชื่อนี้มีนักแรมทางเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะรู้จัก เพราะ อช. ขุนสถาน เป็นอุทยานน้องใหม่ที่เปิดตัวสู่โลกของการผจญภัย เมื่อไม่นานนี้ และที่สำคัญกำลังรอประกาศจัดตั้งเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ
คุณคงไม่เชื่อ ? ถ้าเราจะบอกว่ากลางฤดูร้อนที่แสนโหดร้ายในป่าคอนกรีท ทางภาคเหนือของบ้านเรายังมีทะเลหมอก ที่มีอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณสิบกว่าองศาให้ได้สัมผัสด้วยความสะดวกสบายของเส้นทางคมนาคม จากเมืองหลวงมุ่งหน้าขึ้นไปภาคเหนือ ใช้ทางหลวงสายเอเชีย ไปเลี้ยวขวาตรงอินทร์บุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 วิ่งยาวผ่านพิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และเลี้ยวขวาอีกที ตรงแยก อ. เด่นชัย ใช้ทางหลวงหมายเลข 101 มุ่งหน้าไป จ. น่าน วิ่งไปจนถึงหลัก กม. ประมาณ 182 คุณก็จะถึงบ้านขุนสถาน และเลี้ยวขวาอีกทีไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1216 ช่วงนี้ละที่คุณจะตะลึงกับความงดงามของธรรมชาติสองข้างทาง ที่รายล้อมไปด้วยวิถีชีวิตชาวเขา คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของความหนาวเย็น ม่านหมอกที่ลอยคลอเคลียกับยอดภูผา และพื้นที่ปลูกกะหล่ำ ลิ้นจี่ ที่ชาวม้งถางป่าจนโล่งเตียนสุดลูกตา ไม่ว่าพื้นที่จะลาดชันขนาดไหน ก็ยังไม่วายถูกความพยายามของชาวม้ง ไล่ถางป่าจนกลายเป็นพื้นที่เพาะปลูก
40 กม. 400 โค้ง ! ฟังดูอาจจะเล็กน้อย สำหรับนักแรมเดินทางที่ชอบขับรถเที่ยวเส้นทางธรรมชาติแต่จะน่าฟังมากขึ้นไปอีก ถ้า 40 กม. ที่ว่านี้ เป็นทางขึ้นเขาคดเคี้ยว ลัดเลาะไปตามเส้นทางเล็กๆมีความกว้างพอให้รถสองคันสวนทางได้แบบน่าหวาดเสียว ซ้ายเหว ขวาหน้าผาฟังดูคุ้นเคยยังไงชอบกล
เราขึ้นไปประมาณ 20 กม. ซ้ายมือจะเจอกับที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถาน (ชั่วคราว) พร้อมกับมีบ้านพักที่สร้างด้วยรูปแบบกระท่อมไม้หลังเล็กๆ ยื่นออกไปจากหน้าผา แต่ละบ้านจะมีระเบียงเล็กๆให้นั่งเอกเขนกชมวิว จิบกาแฟ บรรยากาศของที่นี่สุดวิเศษ นอกจากอากาศจะเย็นสบายแบบไร้ที่ติภูมิทัศน์ก็สุดยอด ด้วยความที่เป็นคนชอบแต่งบ้าน แต่งสวน ของหัวหน้าวิโรจน์ โรจนจินดา ที่นี่จึงมีสวนหย่อมขนาดเล็ก ที่จัดวางลดหลั่นไล่ระดับตามพื้นที่ และมีต้นไม้สารพัดชนิด ปลูกอย่างสวยงามมีลานกว้างสำหรับกางเทนท์ มีระเบียงปีกไม้ ที่จัดแต่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สำหรับนั่งสนทนาหรือเป็นโต๊ะอาหารที่แสนคลาสสิค สำหรับทานอาหารกับคนรู้ใจ ท่ามกลางป่าเขา และแสงจันทร์สุขอุราไปอีกแบบ
ลักษณะภูมิประเทศของที่นี่ เป็นขุนเขาสลับซับซ้อน มีความสูงชันทอดตัวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ มีแนวสันเขาของดอยแปรเมือง เป็นแนวเส้นแบ่งเขตระหว่าง จ. แพร่ และน่าน มีลำธาร และลำห้วยไหลลงสู่แม่น้ำหลายสาย เช่น น้ำสา น้ำถา น้ำแหง น้ำแม่สาคร เป็นต้น ดอยที่สำคัญมี ดอยกู่สถาน มีความสูง 1,630 ม. ดอยแปรเมือง ความสูง 1,95 ม. ดอนขุนห้วยฮึก ความสูง 1,233 ม. ดอยแปรหง่อมบง ความสูง 1,345 ม. ดอยแม่จอก ความสูง 1,424 ม. และดอยที่สูงที่สุดคือ ดอยภูคา ซึ่งมีความสูง 1,728 ม. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ฉะนั้นสถานที่แห่งนี้ จึงมีสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดปี ช่วงหน้าหนาวที่นี่ เขารับประกันความหนาวเหน็บแบบสะท้านทรวง หนาวระดับที่ว่า ต้องสวมเสื้อกันหนาวตัวหนาๆ พร้อมอุปกรณ์ป้องกันไอเย็นครบสูตร ไอ้ที่ว่าหนาวนั้น บางท่านอาจจะบอกว่า ยังไม่เท่าไร แต่ถ้าได้ลมเย็นๆ มาปะทะร่างกายบนความสูงระดับพันกว่าเมตร รับรองว่า ต้องมีสะดุ้งเฮือกกันบ้างละครับ ช่วงหน้าหนาวเป็นฤดูที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
นอกเหนือจากบรรยากาศดีๆ สายหมอกลอยคลอเคลียอ้อยอิ่งแล้ว การต้อนรับขับสู้ของเจ้าหน้าที่ที่นี่เป็นที่ถูกอกถูกใจทีมของเรามาก เราสามารถฝากท้องเรื่องอาหารการกินได้เลย ตลอดจนการรับรองนักท่องเที่ยวแบบพี่น้อง ให้ข้อมูลการเดินทาง แหล่งท่องเที่ยว และของฝากท้องถิ่นในราคาที่ OTOP ชิดซ้ายได้เลย ถือว่าเปิดตัวได้น่าประทับใจ
อีก 2 เดือนข้างหน้า เป็นฤดูท่องเที่ยว คุณผู้อ่านท่านใดที่ยังไม่มีโพรแกรมรับลมหนาว เราขอแนะนำอุทยานแห่งชาติขุนสถาน สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่ควรค่าแก่การเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่น่าจดจำไม่รู้ลืม...
ข้อมูลการเดินทาง
คุณสามารถใช้เส้นทางจากตัว จ. แพร่ ได้ 3 เส้นทางคือ
1. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 เส้นทางจากตัว จ. แพร่ ไปน่าน มีทางแยกไปสู่แหล่งท่องเที่ยวเลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 1216 ผ่านหมู่บ้านขุนสถาน และมีทางแยกไปสู่น้ำตกตาดหมอก และดอยกู่สถาน ระยะทางประมาณ 24 กม.
2. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ที่หลัก กม. 203 ก่อนถึง อ. เวียงสา 24 กม. มีทางแยกเลี้ยวซ้ายไปสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่สำรวจ ถนน รพช. สายฝั่งหมิ่น-บ้านนาก้า ระยะทาง 27.3 กม. และเดินทางไปสู่กาดวัว และน้ำตกจำนวน 5 แห่ง อีกประมาณ 6 กม.
3. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ไปถึง อ. เวียงสา เลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงหมายเลข 1026 จาก อ. เวียงสา อ. นาน้อย ระยะทางประมาณ 35 กม. และจาก อ. นาน้อย ไปตามถนนราดยางไป อ. นาหมื่น ระยะทางประมาณ 20 กม. และจาก อ. นาหมื่น แยกเลี้ยวซ้ายไปตามถนนราดยางไปบ้านปากนาย ระยะทางประมาณ 22 กม. ไปสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่
สถานที่ติดต่อ
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ตู้ ปณ. 5 อ. นาน้อย จ. น่าน 55150 โทร. (054) 701-121
ขอขอบคุณ
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เอื้อเฟื้อรถ มิตซูบิชิ สตราดา จี-แวกอน เป็นพาหนะในการเดินทาง
เรื่องโดย : แอลเอนนิวส์
ภาพโดย : เอกลักษณ์ จุลสุคนธ์, เขียว อินเตอร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57106