พิเศษ(4wheels)
สปิริท แคมพ์
สายฝนโปรยปรายลงมาแต่เช้า สร้างความชุ่มฉ่ำให้แก่คณะคาราวาน สปิริท แคมพ์ (SPIRIT CAMP) ที่จัดโดย บริษัท สื่อสากล จำกัด ซึ่งกำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติพุเตย จ. สุพรรณบุรี
ขบวนคาราวานได้เคลื่อนตัวออกจากไร่พาร์คแอนด์แรนช์ จ. ราชบุรี ผ่าน จ. กาญจนบุรีไปตามทางหลวงหมายเลข 323 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3457 ผ่านน้ำตกไทรโยคน้อยสภาพเส้นทางจากถนนราดยางเปลี่ยนมาเป็นทางลูกรังเมื่อผ่านเข้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เส้นทางที่คดเคี้ยวไปตามแนวเขาบวกกับสายฝนที่ยังคงกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ถนนบางช่วงมีต้นไม้ล้มขวาง บางช่วงมีหินหล่นลงมากองบนถนนบางช่วงเป็นทางชัน ทั้งเละและลื่น ต้องใช้เทคนิคการบังคับรถที่ได้ฝึกฝนมากันอย่างเต็มที่ ซึ่งก็ผ่านมาได้ด้วยดีทุกคัน
เราผ่านทางเข้าน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมาขึ้นแพขนานยนต์ หรือ เท้ง ที่ท่าแม่แฉลบ ข้ามขึ้นฝั่งที่บ้านนาสวนผ่านบ้านห้วยองคต ถึงสามแยกบ้านม่วงเฒ่าเลี้ยวซ้าย ตรงไปทุ่งมะกอก เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 5 กม. ก็มาถึงอุทยานแห่งชาติพุเตย
เมื่อเก็บสัมภาระเข้าเทนท์ที่พักเรียบร้อยแล้ว สมาชิกคาราวานทุกคนก็มารับประทานอาหารเย็นที่ทางอุทยาน ฯ จัดเตรียมต้อนรับ พร้อมกันนั้นหัวหน้าเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย มาแนะนำให้ความรู้สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตอุทยาน ฯ ก่อนที่จะแยกย้ายเข้าที่พักเอาแรงหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน
รุ่งเช้าขบวนคาราวานมุ่งหน้าสู่บ้านตะเพินคี่ ผ่านบ้านกล้วยป่าผาก ระยะทางประมาณ 14 กม. สภาพเส้นทางเป็นทางลูกรังค่อนข้างชันและลื่นเนื่องจากฝนที่ตกลงมาเมื่อคืน ระหว่างทางฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเพราะถ้าเสียหลักอาจตกเขาได้
เราขับลัดเลาะไปตามแนวเขาผ่านทิวไผ่ บางช่วงเป็นที่โล่งสามารถมองเห็นทิวเขาที่ปกคลุมด้วยสายหมอกสีขาวนวลลอยเคลียคลอกับยอดเขา เป็นบรรยากาศแห่งป่าโดยแท้จริง ซึ่งในช่วงปลายฝนหรือถ้าก่อนหน้ามีฝนตก ทิวเขาแห่งนี้ก็จะเต็มไปด้วยทะเลหมอก ให้ความรู้สึกต่างจาก จ. สุพรรณบุรี ที่เราเคยเห็น
ระหว่างทางผ่านน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ ใครจะไปชมต้องเดินลงไปอีก 600 ม. น้ำตกแห่งนี้ถึงแม้จะไม่ใหญ่โต แต่ได้ความรู้สึกส่วนตัว และร่มเย็น ก่อนถึงหมู่บ้านตะเพินคี่มีจุดพักชมวิว จากจุดนี้สามารถมองเห็นยอดเขาเทวดา ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของสุพรรณ ฯ เมื่อคณะของเรามาถึงหมู่บ้านตะเพินคี่ ก็แวะที่บ้านครูมนัสเพื่อติดต่อเรื่องที่พัก โดยเราจะพักกางเทนท์กันที่โรงเรียน
"ตะเพินคี่" (ต้นน้ำ) เป็นชื่อหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงที่รักสันโดษ หมู่บ้านแห่งนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ใช้ระบบโซลาเซลล์ และใช้เครื่องปั่นไฟ และยังเป็นเขตปลอดอบายมุข รอบๆ หมู่บ้านมีลำธารและตาน้ำผุดตลอดปี รวมทั้งมีป่าไม้ที่สมบูรณ์และอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี หน้าหนาวอุณหภูมิประมาณ 5-6 องศาเซลเซียส
หลังจากอาหารเที่ยง เราขับรถไปดูจุดชมวิว ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กม. ขึ้นไปตามเนินสูง ผ่านไร่ข้าวโพดและป่าไม้ก่อนถึงจุดแบ่งเขตรอยต่อของ 3 จังหวัด คือ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และอุทัยธานีซึ่งเป็นที่ท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ของผืนป่าและทิวเขาของทั้ง 3 จังหวัด
จากนั้นเราเดินทางต่อสู่น้ำตกตะเพินคี่น้อย ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กม. เส้นทางสู่น้ำตกผ่านทิวเขาและลำธารน้ำเล็กๆ ที่คงความเป็นธรรมชาติ ด้วยสภาพเส้นทางที่ลื่นและชันทำให้ต้องวินช์กันตลอดทางกว่าจะกลับออกมาได้เล่นเอาแต่ละคนหมดสภาพไปตามๆ กัน
หลังจากอาหารค่ำ คณะคาราวานเพลิดเพลินกับการแสดงของน้องๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านตะเพินคี่ และร่วมเล่นเกมส์สันทนาการต่างๆ ก่อนที่จะแยกย้ายกันพักผ่อน
รุ่งเช้าท่ามกลางอากาศที่สดใส ขบวนคาราวาน สปิริท แคมพ์ ต้องอำลาบ้านตะเพินคี่ ก่อนกลับแวะขอบคุณครูมนัสที่อำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ จากนั้นมุ่งหน้าสู่กรุงเทพ ฯ ด้วยความเบิกบาน หลังจากที่ได้มาสัมผัสกลับธรรมชาติบ้านป่า ที่น้อยคนนักจะหาโอกาสเช่นนี้ได้
ข้อมูลการเดินทาง อุทยานแห่งชาติพุเตย
การเดินทาง
ใช้รถกระบะ หรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อ จะสะดวกที่สุด โดยเดินทางจาก จ. สุพรรณบุรี ถึง อ. ดอนเจดีย์ แล้วเดินทางไปตามเส้นทางหมายเลข 3264 ถึงแยกบ้านสระกระโจม เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 333 ถึง อ. ด่านช้าง หรือจาก จ. สุพรรณบุรี ไปตามทางหลวงหมายเลข 321 ถึง อ. อู่ทองเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 333 ถึง อ. ด่านช้าง
ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน ฯ ที่ 1 (พุเตย)
อยู่ห่างจาก อ. ด่านช้าง ประมาณ 33 กม. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 333 เดินทางจาก อ. ด่านช้างถึงบ้านวังคัน ประมาณ 15 กม. และเลี้ยวซ้ายที่สามแยกบ้านวังคัน ถึงบ้านป่าขี ระยะทางประมาณ 15 กม. แล้วเดินทางต่ออีก 3 กม. เป็นทางราดยางตลอด
ที่ทำการอุทยาน ฯ พุเตย
จากหน่วยพิทักษ์อุทยาน ฯ ที่ 1 ตรงไปตามทางลูกรังอีก 15 กม. ผ่านศาลเลาดาห์เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งอยู่ไกลกัน นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ดังนี้ป่าสนสองใบธรรมชาติ, ศาลเลาดาห์ จากหน่วยพิทักษ์อุทยาน ฯ ที่ 1 ไปตามทางลูกรังประมาณ 7 กม.จะถึงศาลเลาดาห์ แยกขวาไปอีก 3 กม. เป็นลานจอดรถ ถ้าเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อจะขึ้นไปอีกประมาณ 1 กม. แล้วเดินเท้าอีก 500 เมตร ก็จะถึงเขาสน
น้ำตกพุกระทิง ห่างจาก อ. ด่านช้าง ประมาณ 50 กม. เดินทางจาก อ. ด่านช้าง ไปตามทางหลวงหมายเลข 3086 ถึงสี่แยกบ้านปลักประดู่ เลี้ยวขวาเดินทางถึงบ้านหนองผักแว่น แล้วเลี้ยวขวาถึงที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ 2 (พุกระทิง) แล้วเดินทางต่ออีก 6 กม. ถึงน้ำตกพุกระทิง
น้ำตกตะเพินคี่ หมู่บ้านกะเหรี่ยง ห่างจาก อ. ด่านช้าง ประมาณ 120 กม. และห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน ฯ ที่ 2 (พุกระทิง) ประมาณ 70 กม. เดินทางไปบ้านวังยาว ผ่านบ้านกล้วยป่าผากเลี้ยวซ้ายประมาณ 14 กม. ตามเส้นทางลูกรังไปบ้านตะเพินคี่ หมู่บ้านกะเหรี่ยง อยู่ติดเขตแนวกันชนมรดกโลก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
วนอุทยานถ้ำเขาวง, ถ้ำพุหวาย จาก อ. ด่านช้าง ไปทาง อ. บ้านไร่-บ้านสะนำ แยกซ้ายไปวนอุทยาน ฯ รวมระยะทาง 52 กม.
เรื่องโดย : ถาวร พรมพิทักษ์
ภาพโดย : ชูสิทธิ์ สิทธิวรรณ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : พิเศษ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57102