โฮลเดน/มหินตรา/เกีย/ฟอร์ด /IIHS/จีเอม

โฮลเดน เตรียมผลิตรถเอสยูวี "เอส 3 เอกซ์" โฮลเดน ต้องการแทรกแซงตลาดรถขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง ด้วยการเปิดตัวรถใหม่ในรูปแบบของรถแนวคิดในงานมหกรรมยานยนต์ปารีส ที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อว่า เชฟโรเลต์ เอส 3 เอกซ์ (CHEVROLET S3X) ตัวรถออกแบบและสร้างขึ้นที่จีเอม แดวู ออโท ในประเทศเกาหลีใต้ เครื่องยนต์ได้รับการออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีไฮบริด จะเข้าสู่สายพานการผลิตราวปี 2549 ขุมกำลังมีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซลเทอร์โบ เอส 3 เอกซ์ เป็นรถ 7 ที่นั่ง ขนาดของตัวถังรถพอๆ กับ โตโยตา คลูเกอร์ ตัวรถสั้นกว่าเล็กน้อยแต่มีความยาวฐานล้อในขนาดที่เท่ากัน ซึ่งมากพอที่จะจัดเรียงให้ผู้โดยสารทั้ง 3 แถวที่นั่งๆ ได้อย่างสบาย เบาะแถวหลังสุด เมื่อไม่ใช้งานสามารถพับแบนราบลงกับพื้น เพิ่มเนื้อที่ในการบรรทุกสัมภาระ คันที่มาโชว์ มีหลังคาแบบบานเกล็ดกระจกใส แต่เมื่อเข้าสู่สายพานการผลิตจะเป็นแบบหลังคาเหล็กธรรมดา ด้านหน้าของแผงหน้าปัดจะมีจอมอนิเตอร์ขนาด 180 มม. คอยแสดงเส้นทางโดยทำงานร่วมกับเครื่องเล่นดีวีดี รูปแบบของตัวรถค่อนข้างจะเน้นไปในแนวรถแห่งอนาคต ที่มีคิ้วขอบโพรงล้อโค้งรับแนวล้อมีเหล็กเสริมแรงซ่อนอยู่ทั้งในกันชนหน้าและหลัง เป็นรถอีกรุ่นที่น่าจับตามอง   มหินตรา เจาะตลาดรถยุโรป มหินตรา (MAHINDRA) เปิดตัวรถขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่นใหม่ ในงานมหกรรมยานยนต์ปารีสซึ่งเป็นแผนการของบริษัทที่ต้องการจะเปิดตลาดรถในแถบยุโรป รถคันที่นำมาแสดงคือ มหินตรา จีโอเอ (MAHINDRA GOA) และ โบเลโร (BOLERO) 2 รุ่น คือรุ่นจีแอลเอกซ์ และแบบพิคอัพ 4 ประตู ซึ่งรุ่น โบเลโร มีการเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในอิตาลี ผู้บริหารระดับสูงของ มหินตรา กล่าวว่า การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นนี้ เน้นไปที่การเจาะตลาดรถขับเคลื่อนสี่ล้อในฝรั่งเศส ก่อนที่จะขยายตัวไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบนี้ เช่น สเปน โปรตุเกสประเทศในแถบคาบสมุทรบอลขาน และยูโกสลาเวีย ขุมกำลังในรุ่น จีโอเอ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 106 แรงม้า ส่วนรุ่น โบเลโร วางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ คอมมอนเรล ไดเรคท์อินเจคชัน ความจุ 1,997 ซีซีเท่ากัน แต่เครื่องยนต์คอมมอนเรล จะให้กำลัง 91 แรงม้า ที่ 4,000 รตน.   โฮลเดน เรียก แจคการู ตรวจเชค ! โฮลเดน มีจดหมายส่งไปยังลูกค้าเจ้าของรถ โฮลเดน แจคการู (JACKAROO) โมเดล UBS25 รุ่นปี 1992-1995 ที่วางเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ ให้รีบนำรถเข้าตรวจเชคที่ศูนย์บริการ โฮลเดน โดยเร็วเพื่อเปลี่ยนซีลสายเคเบิลคันเร่งใหม่ เนื่องจากวิศวกรของ โฮลเดน พบว่าซีลที่แตกเสื่อมสภาพเข้าไปขัดอยู่ภายในสายคันเร่งซึ่งจะมีผลทำให้เครื่องยนต์ไม่ลดการเร่งรอบลงเมื่อถอนคันเร่ง หรือที่เรารู้จักกันดีในลักษณะของสายคันเร่งค้าง แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเฉพาะในออสเตรเลียเท่านั้น โชคดีที่ไม่เกิดที่เมืองไทย แต่ถึงอย่างไร ต้องขอบอกว่า โฮลเดน แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ได้ดีมาก   เกีย ส่ง สปอร์เทจ ใหม่ ลงตลาดเมืองผู้ดี ในดินแดนแห่งเมืองผู้ดีนั้น แม้ว่า เกีย จะมีสัดส่วนของตลาดรถขับเคลื่อนสี่ล้อเพียง 3 % จากตลาดรวม แต่ก็ยังมากกว่า จีพ เสียอีก รุ่นที่สร้างชื่อให้กับ เกีย จนเป็นที่ยอมรับในแถบยุโรป เป็นรุ่น โซเรนโต เพื่อรักษาสัดส่วนของตลาดให้คงอยู่ต่อไป และมีการเจริญเติบโตขึ้นไปอีก เกีย ได้ส่งรุ่น สปอร์เทจ ใหม่ เข้าชิมลางในตลาดของรถเอสยูวีขนาดเล็ก ด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงมากนัก แต่เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานติดรถหลายรายการ ซึ่ง เกีย มั่นใจว่าสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่าง แลนด์ โรเวอร์ ฟรีแลนเดอร์ โตโยตา รัฟโฟร์ และแม้แต่ ฮันเด ทัคซัน ได้ บั้นท้ายของ เกีย สปอร์เทจ ใหม่ มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ โวลโว เอกซ์ซี 90 มาก อีกทั้งห้องบรรทุกสัมภาระด้านท้ายก็มีความกว้างขวางมากพอที่จะให้ผู้ใหญ่ตัวใหญ่ๆ 3 คนนั่งได้อย่างสบาย เบาะแถวหลังสามารถแยกพับเก็บแบนราบกับพื้นในลักษณะแยกซ้าย/ขวา โดยการโยกคันเร่งเบาๆ เท่านั้น ทัศนวิสัยด้านหน้าดูดีจากในตำแหน่งคนขับ จะมีข้อติก็ตรงที่พวงมาลัยน่าจะปรับระดับความสูง/ต่ำได้ อีกทั้งแผงหน้าปัดก็ดูจะด้อยราคาไปนิดตรงที่ทำจากพลาสติคแข็งฉีดขึ้นรูป น่าจะออกแบบให้มีความนุ่มมือ เวลาสัมผัส ขุมกำลังมีให้เลือกทั้งแบบเบนซิน และดีเซล โดยในรุ่นเบนซินนั้นมีให้เลือกทั้งแบบ 4 สูบแถวเรียง 2.0 ลิตร 174 แรงม้า และ วี 6 สูบ 2.7 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ คอมมอนเรล นั้นมีขนาดความจุ 2.0 ลิตร 111 แรงม้า ช่วงแรกของการเปิดตัว มีเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน ถ้าอยากได้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ คอมมอนเรล ต้องรออีก 2 เดือน ในรุ่นดีเซล คอมมอนเรล เกีย ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวทำการทดลองขับ ปรากฏว่าเครื่องยนต์ให้แรงบิดในช่วงรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำได้ดีมาก ในขณะที่ยังรักษาอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีอยู่   ฟอร์ด แนะนำ "เอสเอวี" รถของคนรักกีฬา เอสเอวี (SAV: SPORT ACTIVITIES VEHICLE) หรือรถเพื่อกิจกรรมด้านกีฬา เป็นรถอีกแนวหนึ่งนอกเหนือไปจากรถเอสยูวี ที่มีกันเกร่อเกือบทุกยี่ห้อ รถสเตชันแวกอนที่ใช้ชื่อรุ่นเป็นชื่อเดียวกับรูปแบบของตัวถังรถรุ่นนี้ ทาง ฟอร์ด กำหนดแจ้งเกิดเพื่อมาทดแทนรถเอมพีวี กาแลคซี แล้ว รถเอสเอวี รุ่นนี้ ค่อนข้างจะแบ่งความแตกต่างระหว่างรถเอสเตท ทั่วไปกับรถเอสยูวี ได้อย่างชัดเจนขุมกำลังและระบบส่งกำลังมีให้เลือกหลายรูปแบบ ตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ไปจนถึง 5 สูบ 2.5 ลิตร ที่ยืมมาจาก โวลโว และยังมีเครื่องยนต์ดีเซล เจเนอเรชันล่าสุด ที่เรียกว่า DW ด้วยระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเกียร์ CVT นอกจากนี้ยังมีเกียร์ธรรมดา ดับเบิลคลัทช์แบบเดียวกับที่มีใช้ในรถ โฟล์คสวาเกน รถเอสเอวี ออกแบบมาสำหรับเป็นรถโดยสาร 5 ที่นั่ง แต่อาจทำเบาะเสริมสำหรับให้เด็กนั่งหันหน้าเข้าหากัน หลังเบาะแถวหลังอีก 2 ที่นั่ง รวมเป็น 7 ที่นั่ง โครงสร้างหลักของตัวถัง จะเป็นการนำพแลทฟอร์มรุ่น C1 ที่ใช้ในรุ่น โฟคัส มาทำการขยายความยาวฐานล้อให้ยาวออกไปอีก เสริมความแข็งแรงลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงดัง โครงสร้างตัวถังใหม่นี้ ได้รับการยืนยันว่า จะมีการใช้งานร่วมกันทั้ง ฟอร์ด โวลโว และแลนด์ โรเวอร์ โดยที่ แลนด์ โรเวอร์ จะใช้กับรุ่น ฟรีแลนเดอร์ ใหม่ ส่วน โวลโว ใช้ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ เอกซ์ซี 90 ฟอร์ด ให้ความมั่นใจกับลูกค้า ด้วยข้อเสนอที่ท้าทายคู่แข่งรายอื่นๆ ด้วยการกล้ารับประกัน ทั้งส่วนของเครื่องยนต์ และเกียร์ ในระยะทางใช้งานสูงสุดถึง 100,000 ไมล์ และขยายช่วงระยะเวลาการรับประกันนานถึง 2 ปี หรือ 18,000 ไมล์ ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล   IIHS ทดสอบการชนรถเอสยูวี คันไหนเจ๋งสุด ! สถาบันการประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนทางหลวงในสหรัฐอเมริกา จัดการทดสอบการชนในรถทุกประเภท รวมทั้งรถเอสยูวี รุ่นใหม่ๆ โดยเน้นการถูกชนจากด้านข้าง ในการทดสอบได้ใช้หุ่นทดสอบแทนคนจริง ที่สามารถยุบตัวได้ เมื่อได้รับแรงกระแทกมานั่งเป็นดัมมีในตำแหน่งคนขับ เพื่อดูอาการบาดเจ็บหลังจากการถูกชน เน้นการชนโดยการเหวี่ยงเข้ากระแทกจากทางด้านข้างของตัวรถ เช่น รถอาจเสียหลักหมุนไปชนกระแทกเข้ากับต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้าข้างถนน จากการวิเคราะห์สภาพของหุ่นดัมมี หลังจากการชนในรถรุ่นต่างๆ พบว่า ถึงแม้จะมีถุงลมนิรภัยคอยรองรับแรงกระแทกจากการชนทั้งทางด้านหน้าและข้าง แต่กระโหลกศีรษะก็ยังคงได้รับการบาดเจ็บอยู่ และจากการวิเคราะห์ในเชิงวิศวกรรม พบว่ารถเอสยูวี ส่วนใหญ่ออกแบบให้มีช่องว่างระหว่างผิวประตูด้านในตัวรถถึงตัวคนขับ หรือผู้โดยสารที่น้อยมาก ทำให้เมื่อรถได้รับแรงกระแทกจากการถูกชนจากด้านข้าง มีโอกาสที่แรงกระแทกจะถูกส่งถ่ายถึงตัวผู้ขับโดยตรงได้มาก แม้ว่าจะมีถุงลมนิรภัยด้านข้างรองรับอยู่   จีเอม ปลดแรงงานกว่า 12,000 อัตรา ในที่สุด ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างจีเอม หรือเจเนอรัล มอเตอร์ ก็ต้องรับข่าวร้ายในเรื่องของการปลดแรงงานฝ่ายปฏิบัติการทางแถบยุโรปกว่า 12,000 อัตรา ราวปลายปี 2549 เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ยังมีอีก 1 ใน 5 ของพนักงานที่เหลือคอยจ่อคิวถูกปลดตามมาอีกระลอก แรงงานฝ่ายปฏิบัติการของจีเอมกว่า 12,000 คนนี้ มีสัดส่วนการกระจายไปตามโรงงานของประเทศต่างๆ ในแถบยุโรป ไม่ว่าจะเป็นโรงงานในเมืองโบคุม (BOCHUM), รึสเซลส์ไฮม์ (RUESSELSHEIM) หรือแม้แต่ ทโรลล์ฮัททัน (TROLLHATTAN) ในสวีเดน ก็พลอยโดนแผนการเลย์-ออฟ นี้ด้วย ทั้งนี้เชื่อว่า แผนการปลดแรงงานกว่าหมื่นอัตรานี้ น่าจะส่งผลถึงแผนการประกอบรถรุ่นต่างๆ ของจีเอม แน่นอน รวมทั้งการผลิตรถ วอกซ์ฮอลล์ เวคทรา และซาบ 9-3 ใหม่ ทั้งนี้ต้องรอการตัดสินใจของฝ่ายบริหารระดับสูงในปีหน้าอีกครั้ง !