X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
1 Nov 2004
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2004 สนาม 9
การแข่งขันรถยนต์ทางฝุ่นรายการ เวิร์ลด์ แรลลี แชมเพียนชิพ ประจำปี 2004 สนามที่ 9 ซึ่งเป็นครั้งที่ 54 จัดขึ้นที่ประเทศฟินแลนด์ การแข่งขันมีกำหนด 3 วัน แบ่งออกเป็น 22 สเตจ ระยะทางรวมทั้งสิ้น 357.30 กิโลเมตร มีรถแข่งลงทะเบียนออกสตาร์ททั้งสิ้น 68 คัน ทุกคันต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนและแห้ง เส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นทางตรงยาว และเต็มไปด้วยฝุ่นลื่น เสี่ยงต่อการลื่นไถล และหลุดโค้งได้ง่ายเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม การแข่งที่นี่ครั้งที่ผ่านๆ มานักแข่งเจ้าถิ่นมักจะคว้าชัยได้เสมอ ต้องมาดูกันว่า ครั้งนี้ทีมต่างถิ่นจะสามารถล้างอาถรรพ์ได้สำเร็จหรือไม่ สเตจแรก เปอโฌต์ โชว์ความร้อนแรงตั้งแต่ออกสตาร์ทด้วยการขึ้นนำใน 3 อันดับแรก โดยมี ฮาร์ริ โรวันเปรา (HARRI ROVANPERA) ขึ้นนำหัวแถว ส่วน เซบัสเตียง ลินด์โฮล์ม (SEBASTIAN LINDHOLM) และ มาร์คุส โกรนโฮล์ม (MARCUS GRONHOLM) ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ในสเตจที่ 2 โกรนโฮล์ม ทำให้ทีมงาน เปอโฌต์ ต้องใจหายในคว่ำ เมื่อทำรถหลุดโค้งในช่วงทางแยกโชคยังดีที่สามารถบังคับรถกลับขึ้นมาได้ แต่ก็ต้องเสียเวลาไป 8 วินาทีกว่า แน่นอนว่าเมื่อทีม เปอโฌต์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงข่มคู่ต่อสู้ขนาดนี้ ความกดดันจึงตกไปอยู่กับ เพทเทร์ โซลเบร์ก (PETTER SOLBERG) นักแข่งทีม ซูบารุ อดีตแชมพ์โลกคนล่าสุด ที่พยายามอย่างหนักเพื่อจะรักษาแชมพ์ในปีนี้ไว้ให้ได้ แต่แล้วเขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อเร่งความเร็วรถ อิมพเรซา มากเกินไป ทำให้รถลื่นไถลออกนอกโค้ง ไปกระแทกกับก้อนหินข้างทางอย่างแรง ทำให้ชิ้นส่วนด้านหน้าพังยับเยิน หมดสิทธิ์ลุ้นแชมพ์อย่างแน่นอน สเตจที่ 5 โรวันเปรา ผู้นำกลุ่มในตอนนี้ ก็ขับผิดพลาด ทำรถคว่ำไปหลายตลบ จนต้องออกจากการแข่งขันไปอีกราย อุบัติเหตุครั้งนี้ ส่งผลให้อันดับผู้นำถูกเปลี่ยนมือเป็นของ โกรนโฮล์ม ที่ทำเวลาดีที่สุดมากถึง 4 สเตจด้วยกัน จบการแข่งขันวันแรก โกรนโฮล์น ขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่มด้วยเวลา 59 นาที 8.6 วินาที ตามด้วยเพื่อนร่วมทีม ลินด์โฮล์ม ทำเวลาตามหลัง 18.3 วินาที ส่วน มาร์คโค มาร์ทิน (MARKKO MARTIN) จากทีม ฟอร์ด ทำเวลาดีที่สุดได้ในสเตจที่ 10 ทำให้เวลารวมตีตื้นขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ได้สำเร็จ เลกที่ 2 เริ่มต้นด้วยการแข่งขันในสเตจที่ 11 ทีม เปอโฌต์ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในอันดับ 1 และ 2 เอาไว้ได้ ด้าน โซลเบร์ก หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุในช่วงต้นของเลกแรก กลับมาลงสนามอีกครั้งตามกฎใหม่ของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ที่อนุญาตให้รถที่ออกจากการแข่งขันไปแล้ว สามารถกลับมาลงสนามใหม่เพื่อลองฝีมือ และหาประสบการณ์ได้ในวันถัดไป โดยไม่มีคะแนนสะสมและไม่มีสิทธิ์ชนะ ในตอนจบของสเตจที่ 14 ทีมเซอร์วิศของ เปอโฌต์ ต้องทำงานหนักอีกครั้ง เมื่อรถของ โกรนโฮล์ม มีปัญหากับระบบเกียร์ ทำให้เข้าเกียร์สี่ไม่ได้ แต่ก็แก้ไขได้ทันเวลาและสามารถกลับไปแข่งต่อได้ กลายเป็นทีม ฟอร์ด ที่คำนวณเวลาพลาดเข้าจุดเซอร์วิศช้ากว่ากำหนด ทำให้ถูกลงโทษปรับเวลา 50 วินาที แม้ในช่วงท้ายของเลกที่ 2 โกรนโฮล์ม จะทำเวลาได้ไม่ดี ปล่อยให้ โซลเบร์ก และมาร์ทินทำเวลาดีที่สุดใน 2 สเตจท้าย แต่เขาก็ยังคงรักษาอันดับผู้นำกลุ่มไว้ได้ ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 21 นาที 37.3 วินาที ด้าน มาร์ทิน และการ์โลส เซนซ์ (CARLOS SAINZ) ทำเวลามาเป็นอันดับที่ 2 และ 3 ตามลำดับ เลกสุดท้ายเริ่มต้นในสเตจที่ 19 แม้รถทั้ง 2 คัน ของทีม ซูบารุ จะทำเวลาดีที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถทำเวลาตีตื้นขึ้นมาได้ จบการแข่งขัน โกรนโฮล์ม คว้าชัยชนะในบ้านเกิดของตัวเองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 4 ด้วยเวลารวมทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง 7 นาที 16.1 วินาที ด้าน มาร์ทิน นักขับจากทีม ฟอร์ด ที่เน้นการขับแบบประคองตัวมากกว่า ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 2 ตามหลังผู้นำ 34.7 วินาที ส่วนที่ 3 เป็นของ เซนซ์ จากทีม ซีตรอง ที่ทำเวลารวมได้ 3 ชั่วโมง 9 นาที 0.6 วินาที ขึ้นโพเดียมได้สำเร็จ แม้ว่า เซบัสเตียง โลบ์ (SEBASTIEN LOEB) นักขับสัญชาติฝรั่งเศส จะจบการแข่งขันเพียงแค่อันดับ 4 แต่จากการที่คู่ปรับอย่าง โซลเบร์ก จบการแข่งขันแบบไม่มีคะแนนติดมือ ส่งผลให้คะแนนสะสมประเภทนักขับของเขายังคงรั้งอันดับหนึ่งเอาไว้ได้ โอกาสที่จะคว้าแชมพ์ประจำปีนี้เป็นไปได้สูงขึ้น เนื่องจากยังทิ้งห่างอันดับ 2 โซลเบร์ก อยู่ถึง 22 แต้ม ส่วนอันดับ 3 เป็นของ มาร์ทิน มีทั้งสิ้น 42 แต้ม ส่วนคะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต ซีตรอง ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ตามคาดโดยมีคะแนนรวมทั้งสิ้น 109 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 ทีม ฟอร์ด ที่มีเพียง 83 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของทีม ซูบารุ ที่ในสนามนี้ไม่สามารถเก็บแต้มได้เลย มีเพียง 64 แต้มเท่านั้น [table]
สรุปผลคะแนนการแข่งขันรวม 9 สนาม ประเภทผู้ขับ
อันดับ ,ผู้ขับ ,คะแนนรวม
ชนะเลิศ, เซบัสเตียง โลบ์ ,66 รองอันดับ 1, เพทเทร์ โซลเบร์ก ,44 รองอันดับ 2, มาร์คโค มาร์ทิน ,42
สรุปผลคะแนนการแข่งขันรวม 9 สนาม ประเภททีมผู้ผลิต,,
อันดับ ,ทีม ,คะแนนรวม
ชนะเลิศ, ซีตรอง ,109 รองอันดับ 1, ฟอร์ด ,83 รองอันดับ 2, ซูบารุ ,64 [/table]
อ่านต่อ
เรื่องโดย : สิทธิพงศ์ วิยาภรณ์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/56715
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
18 Mar 2014
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2014 สนามที่ 2
เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
1 Mar 2013
ปิดฉากศึก ดาการ์ แรลลี 2013
เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
1 Feb 2013
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2012 สนามที่ 13
เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
1 Jan 2013
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2012 สนามที่ 12
เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
1 Dec 2012
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2012 สนามที่ 10 -11
เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
1 Jul 2012
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2012 สนามที่ 5
เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
1 Oct 2011
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2011 สนามที่ 8
ดูต่อในคอลัมน์ เจาะสนามแข่งต่างประเทศ