สัมภาษณ์พิเศษ(4wheels)
ไพศาล พิสุทธิ์วัชระกุล กรรมการผู้จัดการ
หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ทำให้ราคารถยนต์หลายเซกเมนท์ได้ปรับลดราคาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่รถยนต์ที่จะต้องปรับราคาจำหน่ายขึ้น ก็ยังคงราคาไว้อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์ นอกเหนือจากโครงสร้างภาษี เรื่องปัญหาราคาน้ำมันในตลาดที่ถีบตัวสูงอย่างต่อเนื่องแล้ว ผู้ประกอบการอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ก็ได้รับผลกระทบเป็นเงาตามตัวไปด้วย
4 WHEELS สัมภาษณ์ ไพศาล พิสุทธิ์วัชระกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลฟ์เซฟเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เกี่ยวกับนโยบาย และแผนการตลาด ยางรถยนต์ ดันลอพ
4 WHEELS : วางนโยบาย และทิศทางการดำเนินงานไว้อย่างไร ?
ไพศาล : เมื่อตลาดมีการแข่งขันสูง เรามองว่าอะไรคือ ข้อได้เปรียบซึ่งนโยบายของบริษัทเน้นไปที่กลุ่มตลาดยางรถยนต์ระดับพรีเมียม และกลุ่มนิชมาร์เกทโดยบริษัทแม่ได้มีการวิเคราะห์ขยายผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงและครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคระดับนี้มากที่สุด เช่น ในกลุ่มผู้ใช้รถ 4x4 มีการแบ่งผลิตภัณฑ์เป็นรุ่นต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า
4 WHEELS : ผลิตภัณฑ์ของดันลอพ มีอะไรบ้าง ?
ไพศาล : เมื่อไม่นานนี้ เรามีการเปิดตัวยางสำหรับรถ 4x4 รุ่น PT1 ซึ่งสามารถรองรับความเร็วได้ถึง 210 กม./ชม. ยางทั่วไปสามารถรองรับความเร็วได้ไม่ถึง 200 กม./ชม. ส่วนยางของรถยนต์นั่งก็เช่นกันเรามียางรถระดับพรีเมียม และระดับทอพ คือ รุ่น เอสพี สปอร์ท 9000 และ ไดเรซซา ดีเซด 101 เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อไม่นาน ตัวนี้เรามีการเน้นคุณสมบัติพิเศษคือ เป็นยางสปอร์ท ที่มีโครงสร้างที่นุ่มนวลเหมือนยางรถเก๋ง เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบแบบสปอร์ท หรูหรา และรวดเร็ว และก็มี รุ่น เลอ มองส์ แอลเอม 702 ซึ่งเป็นตัวคอมฟอร์ท และยังมีอีกรุ่นที่เราจะเปิดตัวในปลายปีนี้เป็นรุ่น เลโร ซึ่งเป็นยางโครงสร้างพรีเมียมระดับทอพ ดังนั้นระดับทอพ เรามี 2 ตัว ส่วนตัวกลางจะมี 1 ตัว ลงมาก็จะเป็นคอมฟอร์ท ดังนั้น พรีเมียมเราจะมี 4 ตัว ซึ่งมีทั้งขอบ 15-20 นิ้ว ข้อบ่งชี้แล้วว่าเรามีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมียมที่หลากหลาย นั่นคือ การสร้างความพร้อมในการแข่งขัน
4 WHEELS : อยากทราบยอดจำหน่ายยางรถ 4x4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ?
ไพศาล : สำหรับกลุ่มโฟร์วีลส์ มีการตื่นตัวสูง แต่ของเราเน้นรถระดับหรู และกลาง ถ้าเทียบสัดส่วนยาง 4x4 กับยางรถเก๋ง เราอยู่ที่ประมาณ 40-60 % เดิมอยู่ที่ 20 % นับว่าเพิ่มขึ้นมากเป็นที่น่าพอใจถ้าเทียบสัดส่วนโดยรวมก็ยังไม่มากนัก
4 WHEELS : มีแผนโพรโมชัน มาช่วยกระตุ้นตลาดอย่างไรบ้าง ?
ไพศาล : เราเพิ่งมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากนี้ฝ่ายขายก็วางแผนว่าในส่วนของผู้บริโภคเราจะให้อะไรเขาบ้าง ต้องติดตามดู
4 WHEELS : กลุ่มลูกค้าที่ใช้ยางดันลอพ เป็นอย่างไร ?
ไพศาล : ในปีนี้เน้นเป้าหมายที่กลุ่มต่างจังหวัด เพราะตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในต่างจังหวัดมีอัตราการเติบโตของยางพรีเมียมอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งยางพรีเมียม การเติบโตในกรุงเทพ ฯ ค่อนข้างที่จะเต็มที่แล้ว แต่เราไม่ได้หมายความว่า เราจะหยุด เมื่อเทียบสัดส่วนการเติบโตจากนี้ไป การขยายตลาดของเราพอมีช่องทาง เรามีแผนที่จะเปิดตัวยางตัวใหม่ในปลายปีนี้
4 WHEELS : มีแผนที่จะเปิดศูนย์บริการบ้างหรือไม่ ?
ไพศาล : แผนงานของเราไม่มีศูนย์บริการ แต่เราจะทำในรูปแบบ ศูนย์วิเคราะห์ตรวจสอบซึ่งเราจะตั้งออฟฟิคใหม่ที่อ่อนนุช ตรงนั้นเราได้ไปสร้างตึกสร้างโชว์รูมไว้แล้ว เราจะเป็นศูนย์อินสเปคชัน เซนเตอร์ ไม่ใช่เซอร์วิศ เซนเตอร์ คือเราจะไม่เซอร์วิศลูกค้าของเราที่วิ่งเข้าไปหาดีเลอร์แล้วแก้ปัญหาไม่ได้ เซอร์วิศไม่ดีเท่าที่ควร เราจะไม่แย่งดีเลอร์ขาย ปัจจุบันมีดีเลอร์ 120 แห่ง คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 150 แห่งทั่วประเทศ
4 WHEELS : สภาวะทางเศรษฐกิจช่วงนี้ มีผลกระทบบ้างหรือไม่ ?
ไพศาล : ในช่วงที่เขามีการรณรงค์ ส่งผลในช่วงต้นแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น แต่ที่ประเมินไว้เพราะตลาดของเราเป็นนิชมาร์เกท คนซื้อค่อนข้างที่จะมีกำลังซื้อ จึงไม่ค่อยมีผลกระทบเท่าที่ควร เพียงแต่ว่าเมื่อน้ำมันแพงขึ้น คนที่ใช้รถเหล่านี้น้อยลงนิดนึง เนื่องจากรถ 4x4 ระดับหรูนั้น กินน้ำมันเยอะ เขาก็ใช้น้อยลง ก็ไม่น่าจะทำให้ตลาดทรุดลงอย่างน่ากลัว มีบ้างในช่วงที่เป็นกระแส ซึ่งมันเป็นนิสัยของสังคมไทย ที่มีการตื่นตัว เมื่อมีการรณรงค์ก็หันมาประหยัด ผมว่าขึ้นอยู่กับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ และงบที่จะจ่าย
4 WHEELS : คุณคิดว่าสภาวะตลาดในช่วงครึ่งปีแรก และแนวโน้มในครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร ?
ไพศาล : ในช่วงครึ่งปีแรก เรามียอดเติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ว่าปีนี้มีความแตกต่างอยู่ที่เราตั้งเป้าหมายไว้สูงกว่าปีที่แล้ว ดังนั้นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ยังไม่ตรงตามที่เราต้องการ แต่มันยังโตกว่าเดิม
ส่วนในครึ่งปีหลังนั้น คาดว่าน่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่คงไม่ตรงตามเป้า เพราะสภาวะน้ำมันแพงมีผลกระทบต่อการเพิ่มยอดจำหน่ายเหมือนกัน
4 WHEELS : มีแผนรองรับลูกค้าในกลุ่มรถ 4x4 อย่างไร ?
ไพศาล : จากการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่เรื่องน้ำมันแพง แต่จะมีเรื่องภาษีไหม่ที่มีการปรับเพิ่มขึ้นนั้นมีผลโดยตรงต่อรถ 4x4 โดยเฉพาะรถระดับหรู ส่งผลให้อนาคตข้างหน้านั้น ความต้องการจะต่ำลง แต่ไม่ได้หมายความว่า ยางสำหรับรถประเภทนี้จะเลิกผลิต อัตรารถใหม่จะน้อยลง รถพวกนี้อนาคตจะไม่โต แต่ความต้องการก็ยังมีอยู่ สิ่งที่จะมาทดแทนคือ ตลาดรถที่เครื่องเล็กกว่านี้ เช่น สปอร์ท ไรเดอร์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นต้น ซึ่งมีอัตราภาษีต่ำกว่า 3,000 ซีซี ซึ่งหวังว่าตลาดรถพวกนี้จะถูกพัฒนาให้มีความหรูหรามากขึ้น เพื่อทดแทนรถหรู เรามองตลาดตรงนี้ จะเป็นส่วนที่มาชดเชยรถหรูที่อาจจะมียอดขายน้อยลง
4 WHEELS : อยากจะฝากอะไรถึงผู้บริโภคบ้าง ?
ไพศาล : ฝากถึงผู้บริโภคให้มีความเข้าใจในเรื่องอายุยาง หรือคุณภาพของยาง ในส่วนที่ยังไม่เข้าใจชัดเจน เพราะว่าส่วนนี้เป็นปัญหาสำคัญที่มีผลต่อผู้บริโภค ไม่ใช่ผู้ขายอย่างเดียว คือ ผู้บริโภคมักจะเข้าใจผิดๆ ว่ายางรถยนต์ต้องผลิตใหม่ๆ ผลิตเดือนสองเดือน แล้วเอามาใช้ แต่ถ้าผลิตสักปีหนึ่ง
ถือว่าเป็นยางเก่าเก็บ และไม่มีคุณภาพ อันนี้เป็นการเข้าใจผิด เพราะว่ายางรถยนต์มันไม่ใช่ผักผลไม้ที่ต้องเก็บกันสดๆ ซึ่งยางรถยนต์มันมีอายุในการเก็บ และอายุการใช้งาน ที่ต้องย้ำข้อนี้ เพราะว่ามันเกิดการโกลาหลระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ซึ่งผู้ซื้อได้รับข้อมูลผิด เมื่อเข้าไปในร้านยางคือ สั่งยางที่ผลิตใหม่ บางครั้งยางเส้นนั้น ผลิตปีที่แล้วและเอามาขาย ผู้ซื้อกลับไม่ต้องการ ไม่รับ ถึงแม้ว่าผู้ขายจะอธิบาย ตรงนี้เป็นการเข้าใจผิด เพราะว่ายางรถยนต์ไม่สามารถผลิตเดี๋ยวนั้นและขายเดี๋ยวนั้นได้ เพราะมันต้องมีการผลิตเพื่อเก็บสำรอง แล้วการขนส่งนำเข้าจากต่างประเทศ หรือผลิตภายในประเทศก็ตาม ก็ยังต้องมีการเดินทางเพื่อส่งให้ดีเลอร์เก็บสำรอง ก่อนที่จะนำออกมาจำหน่าย
ดังนั้นผู้บริโภค ต้องเข้าใจว่ายางนั้น มันมีอายุในการเก็บรักษา เราเห็นใจว่าผู้บริโภคเล็งเห็นถึงความปลอดภัยและคุณภาพของยาง อันนี้เราเห็นด้วย แต่อยากจะฝากให้ผู้บริโภคเข้าใจ
เรื่องโดย : ถาวร พรมพิทักษ์
ภาพโดย : ราชวัตร แสงจันทรา
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/56704