ชีวิตอิสระ(4wheels)
พักผ่อนสุดสัปดาห์
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายในชีวิตประจำวัน บางครั้งเราอาจต้องการสถานที่สงบเงียบปราศจากมลพิษ เพื่อปล่อยให้ชีวิตได้รับการพักผ่อน สถานที่อันสงบสุขที่ว่านั้น อาจหาได้ยากในสังคมเมือง แต่เรากลับพบบรรยากาศเหล่านี้ตามป่าเขาลำเนาไพร...ในทริพนี้เราเลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ. สระแก้ว
อุทยานแห่งชาติปางสีดา เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาพนมดงรักซึ่งทอดยาวมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติทับลาน ไปจนถึงอุทยานแห่งชาติตาพระยา จรดกัมพูชา ด้วยสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ และลักษณะภูมิประเทศทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย น้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง มีสัตว์ป่า รวมทั้งนกไม่ต่ำกว่า 200 ชนิด อาศัยอยู่กระจายทั่วไป
ช่วงสายของวันหยุด เราขับรถออกจากกรุงเทพ ฯ มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติปางสีดา แวะซื้อเสบียงที่ตลาดสดในตัวเมืองสระแก้ว เพราะในอุทยาน ฯ ไม่มีอาหารจำหน่ายต้องเตรียมไปเอง เมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว จึงเดินทางต่อ จากตัวเมืองสระแก้วไปถึงที่ทำการอุทยาน ฯ ระยะทางประมาณ 27 กม.
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง จุดแรกที่เราแวะชมคือ น้ำตกปางสีดา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ เพียง 800 ม. เป็นน้ำตกที่ทิ้งตัวจากหน้าผาสูง 10 ม. สู่แอ่งน้ำใหญ่เบื้องล่าง บรรยากาศของที่นี่ร่มรื่น และมีน้ำค่อนข้างมาก เนื่องจากช่วงที่เรามาเป็นช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวจึงมีไม่เยอะ ทำให้น้ำตกดูเงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
ถัดขึ้นไปเหนือน้ำตกปางสีดา ประมาณ 2.5 กม. เป็นน้ำตกผาตะเคียน สามารถเดินเท้าขึ้นไปได้ 2 เส้นทาง ตลอดเส้นทางขึ้นสู่น้ำตก ร่มรื่นด้วยแมกไม้หนาทึบ เป็นน้ำตกชั้นสุดท้ายที่อยู่ในสายเดียวกับน้ำตกปางสีดา มีความสูงประมาณ 10 ม. เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เราใช้เวลาถ่ายภาพเที่ยวชมน้ำตกอยู่พักใหญ่ ก็ต้องเดินทางต่อไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยาน ฯ ปางสีดาที่ 5 ซึ่งเป็นจุดที่เราจะไปกางเทนท์พักแรม ตลอดระยะทางกว่า 25 กม. ไปตามทางลูกรังที่คดเคี้ยว ทำให้เราเพลิดเพลินกับบรรยากาศ จนต้องปิดแอร์เปิดกระจกรถเพื่อรับกลิ่นอายของธรรมชาติ
เมื่อถึงที่พัก เราเลือกบริเวณศาลาริมลำธารเพื่อกางเทนท์ จัดแจงสัมภาระลงจากรถเรียบร้อยแล้วโพรแกรมต่อไปคือ เดินเท้าเข้าไปชมน้ำตกห้วยน้ำเย็น ซึ่งห่างจากจุดที่พักประมาณ 500 ม. ลัดเลาะไปตามป่าทึบข้ามลำธารที่ใสเย็น ป่าในเขตอุทยาน ฯ ปางสีดา ประกอบด้วย ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา และป่าเต็งรัง มีพันธุ์ไม้นานาชนิด เช่น ไม้ยาง กระบาก ตะเคียนแดง มะค่าโมง ฯลฯ ขึ้นอยู่กระจายไปตามชนิดของป่า รวมไปถึงไม้พื้นล่าง อาทิ หวาย เฟิร์น มอส และกล้วยไม้ดินชนิดต่างๆ
เราใช้เวลาเดินชมธรรมชาติเกือบชั่วโมง ก็มาถึงน้ำตกห้วยน้ำเย็น เป็นน้ำตกชั้นเตี้ยๆ ไหลผ่านมาตามลานหิน เหมาะสำหรับลงไปนอนแช่น้ำ จากข้อมูลที่ได้มา น้ำตกสายนี้เป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลสู่ห้วยน้ำเย็น ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของจระเข้น้ำจืด ที่มีขนาดใหญ่แหล่งสุดท้ายของประเทศไทย
ขากลับเราเดินเรียบลำธารของน้ำตกห้วยน้ำเย็น ขึ้นไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่พัก แล้วเดินทางไปที่จุดชมวิวเพื่อชมพระอาทิตย์ตก ระหว่างทางผ่านนักเดินทางหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งพร้อมเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ และกองกระเป๋าสัมภาระนั่งพักอยู่ริมทาง จึงสอบถามได้ความว่า คณะนักเดินทางกลุ่มนี้เพิ่งกลับออกมาจากการพักแรมในป่าและกำลังรอรถเจ้าหน้าที่มารับ เมื่อถึงจุดชมวิว เราต้องผิดหวังเล็กน้อย เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ท้องฟ้ามีเมฆฝนก้อนใหญ่ ทำให้เรารีบกลับเพราะถ้าฝนตกจะเดินทางกลับลำบาก
เสียงเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย ภายใต้ค่ำคืนที่เงียบสงบ ปลอดจากเสียงสรรพสัตว์ต่างๆ ทำให้เราต้องยกเลิกโพรแกรมส่องสัตว์ มานั่งคุยกันใต้แสงตะเกียงแกส ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน
กลิ่นอายของความสดชื่นในยามเช้าปลุกเราให้ลุกขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ นั่งจิบกาแฟร้อน ท่ามกลางธรรมชาติ ฝนที่ตกลงมาตลอดคืน ทำให้น้ำในลำธารเต็มตลิ่งสร้างความชุ่มชื่นให้ผืนป่า เสียงนกป่าดังไปทั่วบริเวณ หลังจากที่ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ และเก็บของเรียบร้อยแล้ว เราเดินทางสู่
อ. อรัญประเทศ เพื่อไปหาซื้อของฝากที่ตลาดโรงเกลือ ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในเขตภาคตะวันออก ห่างออกไปจากตัวตลาด แค่ร้อยเมตรก็เป็นประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับใครที่ชอบชอพพิง ที่นี่น่าจะเหมาะ เพราะสินค้ามีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ ไม่แปลกที่เราจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าจากกรุงเทพ ฯ มารับสินค้าไปขาย เราใช้เวลาเดินชม และเลือกซื้อสินค้าจนพอใจแล้ว ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับ รถของเราเคลื่อนตัวออกจากตลาดโรงเกลือ พร้อมเก็บความประทับใจที่ได้มาพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติ เห็นความสมบูรณ์ของป่าเขาที่นับวันจะลดน้อยลงทุกที เราได้แต่หวังว่า หากมีโอกาสจะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
การเตรียมตัว
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว คุณสามารถนำสัมภาระไปได้เยอะ แต่ควรคำนึงถึงน้ำหนักรถที่จะสิ้นเปลืองค่าน้ำมันด้วย สิ่งของบางอย่างไม่จำเป็นต้องใช้ ก็ควรเก็บไว้ที่บ้าน และในการนำสัมภาระไปหลายๆ รายการ เราขอแนะนำให้จัดทำเป็นบัญชีรายการสิ่งของ เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบว่า ของครบหรือไม่ นอกจากเตรียมสัมภาระแล้ว อย่าลืมเชคสภาพรถก่อนเดินทาง
ข้อมูลที่พัก/การเดินทาง
การเดินทางสู่อุทยาน ฯ ปางสีดา สามารถเดินทางโดยรถยนต์ สายกรุงเทพ ฯ-อรัญประเทศ จากสถานีขนส่งหมอชิตถึงตัวเมืองสระแก้ว ระยะทางประมาณ 256 กม. จากนั้นนั่งรถประจำทาง สายสระแก้ว-คลองน้ำเขียว ตามทางหลวงหมายเลข 3462 ระยะทางประมาณ 27 กม. โดยรถไฟ สายตะวันออก กรุงเทพ ฯ-อรัญประเทศ ลงที่สถานีรถไฟสระแก้ว แล้วนั่งรถโดยสารจาก อ. สระแก้ว ถึงที่ทำการอุทยาน ฯ
ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติปางสีดา มีบ้านพัก เทนท์ สถานที่กางเทนท์ ร้านอาหาร และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา ตู้ ปณ. 55 อ. เมือง จ. สระแก้ว 27000 โทร. 0-1862-1511
เรื่องโดย : ถาวร พรมพิทักษ์
ภาพโดย : ราชวัตร แสงจันทรา
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/56703