หลักสูตรของนักดำน้ำ

เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้นำนักดำน้ำที่ต้องการจะสอบเป็นครูผู้ฝึกสอนดำน้ำไปสอบเป็นครูผู้ฝึกที่พัทยาเป็นเวลาสามวัน โดยกรรมการควบคุมการสอบเป็นครูจากประเทศออสเตรเลีย พัทยาเป็นสนามสำหรับสอบครูผู้ฝึกสอนเกือบทุกสองเดือน นักดำน้ำที่จะมาสอบก็มีทั้งชาวต่างประเทศและคนไทย เฉลี่ยครั้งละสิบถึงยี่สิบคน ตามปกติจะไม่ค่อยมีใครทราบว่าประเทศไทยเป็นสนามสอบครูผู้ฝึกสอนดำน้ำของ PADI (PROFESSIONAL ASSOCIATION DIVING INSTRUCTION) ที่ใหญ่ที่สุดในแถบ SOUTHEAST ASIA คือมีทั้งที่ พัทยา, เกาะเต่า, เกาะสมุย, เกาะพีพี, เกาะลันตา และเกาะภูเก็ต ซึ่งในแต่ละปีนั้นจะมีนักดำน้ำจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาสอบถึงเกือบพันคน ซึ่งทำให้มีเงินตราต่างประเทศไหลเข้ามาไม่น้อยทีเดียว สำหรับคนไทยส่วนใหญ่จะไปสอบกันที่พัทยา อย่างคราวนี้มีคนไทยทั้งหมดสิบสองคนและเป็นชาวต่างชาติแปดคน แต่สำหรับที่อื่นๆ นั้นส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติเก้าสิบกว่าเปอร์เซนต์สำหรับคนที่จะมาสอบเป็นครูผู้ฝึกสอนดำน้ำนั้น จะต้องผ่านการดำน้ำใบรับรองและได้รับระดับต่างๆ ดังนี้ : OPEN WATER DIVER (ใบรับรองนักดำน้ำขั้นต้น) ADVANCED OPEN WATER DIVER (ใบรับรองนักดำน้ำขั้นกลาง) RESCUE DIVER (ใบรับรองนักดำน้ำที่สามารถช่วยคนที่เกิดปัญหาในน้ำได้ซึ่งจะต้องเรียนควบคู่ไปกับ การปฐมพยาบาล (FIRST AID) และ การปั๊มหัวใจแบบ CPR DIVEMASTER (ใบรับรองนักดำน้ำขั้นต้นของมืออาชีพ) INSTRUCTOR DEVELOPMENT COURSE (หลักสูตรวิธีการจะเป็นครูผู้ฝึกสอนดำน้ำ)ในแต่ละใบรับรองจะมีข้อกำหนดของการเรียนที่แตกต่างกันออกไปเมื่อเรียนในหลักสูตรวิธีการเป็นครูผู้ฝึกสอนดำน้ำเสร็จแล้ว (ระยะเวลาในการเรียนประมาณหนึ่งเดือนกว่า) จะต้องสอบเป็นครูผู้ฝึกสอนดำน้ำ ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า INSTRUCTOR EXAMINATION โดยจะมีตัวแทนจาก PADI มาคุมสอบเป็นเวลาถึงสามวัน วิชาที่ทดสอบได้แก่ : การสอบข้อเขียนภาคทฤษฎีเกี่ยวกับการดำน้ำ ซึ่งจะมีวิชาฟิสิกส์, วิชาสรีรวิทยา, วิชาการใช้ตารางคำนวณของ การดำน้ำ, วิชาเกี่ยวกับเครื่องมือของการดำน้ำ และวิชาเกี่ยวกับทักษะและสภาพแวดล้อมของการดำน้ำความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานของการสอน และมาตรฐานของการปฏิบัติต่อนักเรียนดำน้ำวิธีการสอนทักษะในสระน้ำ หรือน้ำที่ตื้นมีขอบเขตจำกัดถึงความลึกและตื้นวิธีการสอนทักษะในทะเล หรือแหล่งน้ำธรรมชาติ และการช่วยเหลือนักดำน้ำที่เกิดปัญหาในน้ำ ภาพที่เห็นนี้ก็เป็นภาพที่ผู้มาทดสอบนั้นจะทำการทดสอบการสอนของผู้ที่มาสอบเป็นครูผู้ฝึกสอนดำน้ำในสระน้ำ ซึ่งจะเน้นถึงความปลอดภัยและความสนุกของนักเรียนดำน้ำเป็นใหญ่ คือจะทดสอบว่าถ้าหากนักเรียนดำน้ำนั้นเกิดมีปัญหาเกี่ยวกับการทำทักษะการเคลื่อนไหวไม่ได้จะต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้นักเรียนดำน้ำนั้นสามารถแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปด้วยดีและปลอดภัย และจะต้องให้แน่ใจว่านักเรียนดำนั้นสามารถปฏิบัติทักษะการเคลื่อนไหวนั้นได้จริงๆ ก่อนที่นำนักเรียนดำน้ำนั้นออกไปปฏิบัติทักษะนั้นๆ ในน้ำที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือในทะเล ส่วนอีกภาพหนึ่งนั้นจะเป็นการทดสอบถึงวิธีการช่วยเหลือนักดำน้ำที่เกิดอุบัติเหตุในน้ำว่าจะต้องช่วยเหลือ และปฐมพยาบาลอย่างไร ซึ่งอาจจะต้องการความฟิทของร่างกายเล็กน้อย ส่วนภาพในห้องเรียนนั้น เป็นการทดสอบการสอนเกี่ยวกับการสอนทฤษฎีให้แก่นักเรียนดำน้ำก่อนที่จะลงไปสอนการปฏิบัติทักษะในน้ำ ทั้งหมดนี้เป็นการทดสอบถึงสามวัน ซึ่งรวมอยู่ในหลักสูตรการเรียนเป็นครูผู้ฝึกสอนดำน้ำที่ใช้ระยะเวลาเรียนถึงเดือนกว่า เพื่อเตรียมพร้อมให้ตัวเองมีความรู้ความสามารถที่จะเป็นครูผู้ฝึกสอนดำน้ำได้ แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติจะใช้ระยะเวลาในการสอนเพียงสิบวันถึงสองอาทิตย์เท่านั้น เนื่องจากตำราเรียนทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ และพวกเขาส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากต่างประเทศ ต้องใช้ระยะเวลาสั้นเพื่อประหยัดค่าที่พัก ดังนั้นจึงมักจะไปเรียนและสอบกันที่เกาะเต่า หรือภูเก็ต แต่สำหรับคนไทยจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานกว่า เนื่องจากการสอนเป็นภาษาไทยที่จะต้องอธิบายกันอย่างละเอียดลออ ไม่ใช่เอาหนังสือตำราไปอ่านด้วยตัวเองเหมือนกับชาวต่างชาติจึงเป็นเรื่องค่อนข้างเครียดในตอนที่ต้องไปสอบสามวัน เพราะถึงแม้คำถามคำตอบจะเป็นภาษาไทยก็ตาม แต่ผู้ที่แปลนั้นใช้ภาษาไทยไม่ค่อยถูกต้องนัก และสำหรับการสอบการสอนในสระน้ำ และในทะเล กับการสอนทฤษฎีในห้องเรียนนั้นสามารถพูดเป็นภาษาไทย โดยมีผมซึ่งเป็นผู้สอน ในหลักสูตรวิธีการเป็นครูผู้ฝึกสอนดำน้ำเป็นผู้แปลเป็นภาษาอังกฤษอีกทีหนึ่ง สำหรับการสอบครั้งล่าสุดนี้ทำให้ได้ครูผู้ฝึกสอนดำน้ำเพิ่มขึ้นอีกถึงสิบสองคนด้วยกันซึ่งจะช่วยทำให้ตลาดการสอนนักดำน้ำเป็นตลาดของคนไทยเราเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต่างกับเมื่อประมาณเกือบสิบปีก่อนที่ตลาดการสอนนักดำน้ำจะตกเป็นของชาวต่างชาติเกือบทั้งสิ้น เนื่องจากครูผู้ฝึกสอนดำน้ำที่เป็นคนไทยนั้นแทบจะไม่มีเลย จนขณะนี้ได้มีครูผู้ฝึกสอนดำน้ำคนไทยประมาณไม่ต่ำกว่าสองร้อยคนแล้ว