รุ่นนี้พอมีเหลือ
อัลไซเมอร์
คนเรานี่ก็แปลก เมื่อเกิดมาก็ไม่เชื่ออะไร โตขึ้นมาเป็นหนุ่มเป็นสาวก็เชื่อไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง แต่พอมีอายุเข้าหน่อยกลับไม่เชื่ออะไรขึ้นมาอีก
ถ้าไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก ก็ต้องเหมาเอาว่าคนแก่กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
คนแก่นั้นหนีไม่พ้นในเรื่องการหลงๆ ลืมๆ ถือเป็นธรรมชาติของผู้อาวุโส และเป็นมาชั่วนาตาปี โดยไม่เคยพบศัพท์คำว่า "อัลไซเมอร์" ซึ่งเดินทางมาถึงโลกของเราหลังจากคำว่า "เอดส์" ไม่กี่ปี
ผมเป็นคนแก่คนหนึ่ง อายุได้ระดับบัตรทองของโออิชิ (กินฟรีครึ่งราคา) และเป็นวัยที่โรคอัลไซเมอร์อาจแวะเวียนมาเยี่ยมได้ทุกโอกาส อันที่จริงผมก็ไม่สนใจในเรื่องนี้เพราะมัวไปสนใจในเรื่องอื่นมากกว่า แต่เป็นเพราะผมเป็นคนมีเพื่อน เพื่อนก็อ่อนแก่กว่ากันไม่เท่าไร สิ่งแวดล้อมของผมจึงเป็นพิษพอสมควร
ได้รู้ได้เห็น และได้หายใจร่วมกับคนรุ่นเดียวกัน ได้สนทนาในเรื่องเดียวกัน จนในที่สุดเป็นต่อมกระตุ้นให้ผมเข้าพบเภสัชกรเพื่อถามว่า โรคอัลไซเมอร์ นั้นคืออย่างไร ? อาการหลงลืมที่เกิดเป็นปกติสำหรับคนสูงอายุคือโรคอัลไซเมอร์ หรือไม่ ?
"ไม่เสมอไป" เภสัชกรตอบหลังคำถาม "ถูกต้อง อาการหลงลืมเป็นภาวะที่เกิดได้ในคนที่อายุสูงเกินกว่า70 ปีแล้ว"
ผมไม่ได้นอนหงายเพื่อตอบคำถามที่เภสัชกรถาม ลักษณะเดียวกับผู้ป่วยไปพบจิตแพทย์
"หลงลืมที่ว่านี้ เป็นเรื่องเล็กน้อยเช่นลืมสิ่งของ จำไม่ได้ว่าเก็บไว้ที่ไหน" เภสัชกรบอกผม
"หรือจำไม่ได้ว่าเพื่อนคนนี้ชื่ออะไร เพราะไม่ได้เจอกันนาน"
แล้วอาการลืมแบบไหนที่เรียกว่าอัลไซเมอร์
"อาการหลงลืมที่ทำให้เกิดความบกพร่องในการดำเนินชีวิตประจำวัน" เภสัชกรตอบ "เช่น กินข้าวแล้วบอกว่ายังไม่ได้กิน พูดประโยคเดิมๆ ซ้ำๆ วกวนเรื่องเก่า เมื่อนึกชื่อเรียกสิ่งของไม่ออกก็มักใช้คำว่า "ไอ้นั่น" บ่อย"
ฟังแล้ว ก็รู้สึกครึกครื้นดี เภสัชกรที่ผมพบเป็นสุภาพสตรี เธอประจำสถานพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียง โดยปกติเธอก็ไม่มีเวลาจะมาตอบคำถามคนแก่อย่างผม แต่เป็นเพราะความเกรงอกเกรงใจเจ้าของสถานพยาบาลที่รู้จักผม
แรกทีเดียวเธอจะเฝ้าบอกผมสารพันรายชื่ออาหารและวัตถุที่นำมาประกอบอาหารซึ่งผมไม่ควรรับประทาน เพราะไม่เหมาะกับวัย ผมก็รับฟังโดยเงียบแต่ในใจไพล่คิดว่า ทั้งหมดเหล่านั้นล้วนเป็นอาหารจานโปรด ใครจะไปละเว้นได้
ไข่เจียวยังงี้ ขาหมูบางรัก คากิดีๆ ยังงี้ หรือฝอยทอง เม็ดขนุน ใครจะไปเลิกได้
กินข้าวแล้วบอกว่ายังไม่ได้กิน ผมฟังแล้วก็รู้สึกว่าเรายังเป็นหนุ่ม เพราะยังไม่มีอาการเช่นนั้นเกิดขึ้น
เพื่อนผมคนหนึ่ง เล่าให้ผมฟังเป็นเรื่องขบขัน อาการหลงลืมแบบนี้ มักเกิดในห้วงเวลาที่แอบไปอยู่กับเด็ก นอนกับเด็กสาว นอนแล้วก็แล้วกัน แต่มันมักมีปัญหาบ่อยๆ
"เด็กมันหาว่าเราเบิ้ล ความจริงครั้งเดียวเราก็จะตายแล้ว" เพื่อนผมว่า
เพื่อนผมมันคงไม่รู้ว่า มันมีอาการในลักษณะเดียวกับที่ว่า กินข้าวแล้วบอกว่ายังไม่ได้กิน
และคำว่า "ไอ้นั่น" เป็นคำที่เราใช้มาเป็นประจำในกลุ่มเพื่อนผู้ชายด้วยกันตั้งแต่พวกเรายังเป็นหนุ่ม ใช้คำนี้ทีไรก็หัวร่อกันกลิ้งทุกที
"หลงลืมเส้นทางที่เคยใช้เป็นประจำ เช่นหาทางกลับบ้านไม่ถูก จำทางไม่ได้"
เราก็ถกกับเธอว่า เรื่องนี้ผมใช้เป็นประจำกับเมียที่บ้าน เพราะบางคืนผมมีภารกิจหลักที่ต้องปฏิบัติและบอกความจริงกับเมียลำบากมาก วิธีสะดวกสุดๆ ก็คือ แกล้งทำเป็นหลงลืมว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน ถนนอะไรตรอกซอยอะไรก็จำไม่ได้
"อาการบางอย่าง ซึ่งปกติทำเองได้ด้วยความคล่องแคล่ว แม่นยำ เช่นเปิด/ปิดโทรทัศน์ กลับเป็นเรื่องยากเย็น ทำไม่ได้-อาการแบบนี้ก็ต้องระวัง เพราะมันอาจจะเป็นอาการของอัลไซเมอร์"
ผมก็รับฟัง แต่ในใจคิดว่า ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับเรา ความคล่องแคล่ว และแม่นยำนั้นผมทำได้เป็นบางพฤติกรรม ไม่ว่าเป็นฉากแห่งความมืดหรือเป็นฉากแห่งไฟแสงสลัว
คล่องแคล่วเกินเหตุ และแม่นยำอย่างเหลือเชื่อ
"ปฏิบัติการที่เคยทำเป็นประจำวัน เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง เช่น อาบน้ำ แปรงฟัน ใส่เสื้อผ้าหรือมีการกระทำที่เปลี่ยนไป เช่น สวมรองเท้าขึ้นไปนอนบนเตียง"
การสวมรองเท้าขึ้นไปนอนเตียง ผมยังไม่เคยทำ แต่การล้มตัวนอนทั้งๆที่รองเท้ายังสวมอยู่กับพื้นห้องนั้น ทำบ่อย เนื่องจากมีอาการเมาสุรามากจนลืมพฤติกรรมที่ควรปฏิบัติ
ที่จริงผมก็อยากขึ้นเตียงนอน แต่ขึ้นไม่ไหวเพราะเมียนอนคำรามเบาๆ อยู่บนเตียงนั้น
สมัยนี้ ก็คงไม่เกิดกับผมอีกแล้ว เพราะตำรวจทุกวันนี้มีความรู้สึกในการปฏิบัติหน้าที่ว่าไม่มีอะไรน่าจับเท่ากับคอยดักจับคนขับรถที่ลืมคำว่า "เมาไม่ขับ"
"อาการที่เห็นได้ชัดมากๆ คือ มีบุคลิกภาพเปลี่ยนไป"
ผมตกใจคิดว่า จะกลายเป็นหมาป่าคืนเวลาเดือนเพ็ญ แต่เภสัชกรบอกเราว่า
"เช่น อารมณ์หงุดหงิดเกินเหตุ โมโหง่าย ก้าวร้าว พูดจาหยาบคาย หรือมิฉะนั้นกลายสภาวะเป็นคนเฉยชา ไม่มีอาการกระตือรือร้น มีแต่ความกังวลซึมเศร้า อาการเหล่านี้จะพัฒนาจนถึงระดับเห็นภาพหลอนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้"
อาการทั้งหมดนี้ เราก็ต้องเถียงอีก เพราะเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับผมเป็นประจำ ไม่ว่าจะกี่ปีมาแล้ว เป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหานั้น ใครเลยจะเว้นได้ซึ่งความหงุดหงิดเพราะไม่ถูกใจ
มันแตกต่างกันตรงที่ว่า สมัยเราเป็นหนุ่มหากเราโมโห หงุดหงิด เราจะถูกตำหนิว่าเป็นคนใจร้อน
แต่พอมาถึงวันนี้ วันที่เราก้าวเข้าสู่วัยทอง เราก็ถูกตำหนิว่า แก่แล้วใจน้อยจัง
ความเฉื่อยชาและกังวลซึมเศร้า มักมาเยือนผมเสมอ เพราะผมเป็นคนเขียนหนังสือจำเป็นต้องหาข้อมูล ต้องอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน หรือดูข่าวโทรทัศน์ ถ้าพบเห็นข่าวเศร้าๆ มันก็อดไม่ได้จะต้องเกิดอาการเซ็งและบางทีก็โคตรเซ็ง
เป็นต้นว่า พ่อข่มขืนลูก ยังงี้ บุกกุฏิ บีบพระให้สึกคาสีกา ยังงี้ ผมก็คิดว่า มันชอบที่จะต้องมีอาการเฉยชา กังวลและซึมเศร้า
ส่วนภาพหลอนที่ทำให้ผมตกใจ มักเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืน เป็นหน้าเมียผมเอง มักจะหลอกหลอนผมไปต่างๆ นานา สุดแต่ว่า พฤติกรรมขโมยชั่วโมงของผู้ชายอย่างผมนั้นเกิดขึ้นอย่างไรและผมปกปิดเมียได้สนิทสีหน้าหรือไม่
บางทีมันก็หลอนผมถึงขนาดผมเก็บไปฝัน สะดุ้งแทบตกเตียง มีดหั่นเนื้ออยู่ในครัวแท้ๆดันมาลอยอยู่ตรงหน้าตักผมได้ยังไง ? ภาพหลอนแบบนี้ผู้ชายคนไหนบ้างควบคุมตนเองได้ ?
เพื่อนผมอีกราย เห็นภาพหลอนเป็นประจำ เพราะก่อนนอนเมียเพื่อนก็จะเอาสีขาวๆ มาโปะลงบนหน้า นอนหลับตื่นมากลางดึกต้องตกใจทุกทีเพราะมันขาววับอยู่ในความมืดเหนือผ้าห่มนอน ดูแล้วยังตัดสินใจไม่ได้ว่า เป็นนางนาก หรือ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเทด
ก่อนจะลาเภสัชกรใจเย็น ผมก็ถามว่าอัลไซเมอร์นี้เป็นเพราะความเป็นคนสูงอายุอย่างผมเท่านั้นใช่หรือไม่ ?
"เหตุแห่งการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่รู้ก็มีที่ไม่รู้ก็มีอัลไซเมอร์เกิดจากสมองเสื่อมโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ทุกวันนี้พบเฉพาะคนแก่ๆ"
"การเสื่อมของสมองก็ต้องมีเหตุ เช่น หลอดเลือดสมองมีการติดเชื้อ หรือเกิดเนื้องอกในสมอง มีภาวะน้ำคั่ง สมองได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง หรือไม่ก็เกิดจากการขาดอาหารบางชนิด เช่น การขาดวิตามินบี หรือเกิดจากพิษสุราเรื้อรัง"
"อาการเหล่านี้ ไม่จำเป็นจะต้องมาเกิดกับคนแก่ อาจจะเกิดในวัยใดก็ได้"
เธออธิบายมาแบบนี้ ทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่า ผมกำลังเป็นควายและได้รับฟังการสีซอ ซึ่งผมฟังไม่รู้ภาษาเพราะความอ่อนภาษา
ผมจึงลากลับด้วยความเงียบ เดินออกจากห้องทำงานของเธอด้วยความอ่อนล้า
"กระฉับกระเฉงหน่อยลุง" เภสัชกรร้องไล่หลังผม "เดี๋ยวจะเป็นอัลไซเมอร์นะคะ"
เรื่องโดย : ไก่อ่อน
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : รุ่นนี้พอมีเหลือ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/56521