X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
1 May 2004
แดนหิมาลายันใต้ (3)
เรากำลังเหม่อมองแม่น้ำสตรี ไหลเอื่อยๆ อย่างชดช้อยจากหน้าโรงแรมของเรา ภาพของวังดูเอซอง (WANGDUE DZONG) ที่ตั้งตะหง่านอยู่เหนือผาสู้กับฟ้าเปลี่ยนสี ยิ่งช่วยเสริมเรื่องราวการเดินทางของแม่น้ำสตรี ให้น่าดูขึ้น เราเฝ้าดูมันจนลมกระโชกแรงที่เป็นเรื่องประจำของที่นี่ พัดมาจนเราไม่อาจทนกระแสความเย็นได้ วันต่อมา เราก็ได้เป็นสักขีพยานในการเดินทางบนถนนคู่ไปกับแม่น้ำสตรี เพื่อไปยังราชธานีแห่งแรกของภูฐาน เมืองปูนากะ แม่น้ำสตรีนำเรามาถึงจุดชมวิวแห่งหนึ่ง จากที่นี่เราสามารถมองเห็นปูนากะซอง ที่ตั้งตะหง่านอยู่ตรงทางบรรจบกันของแม่น้ำด้านขวามือคือ แม่น้ำสตรี ด้านซ้ายมือคือ แม่น้ำบุรุษ ทั้งสองมาพบรักกันรวมเป็นแม่น้ำปูนากะดูแล้วคนภูฐาน เข้าใจตั้งชื่อให้แม่น้ำทั้งสอง เรารู้สึกได้ถึงอากาศที่อบอุ่นขึ้นของปูนากะ ซึ่งไกด์ของเรา นัมไก ดอร์จี บอกว่าปูนากะปัจจุบันถูกลดบทบาทลงมาเมื่อเมืองหลวงย้ายไปยังทิมบูแต่ปูนากะก็ยังคงความสำคัญอยู่ อย่างน้อยก็ในแง่ของศาสนา เนื่องจากในฤดูหนาว สมเด็จพระสังฆราชแห่งภูฐาน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบุรุษผู้คงความสำคัญที่สุดพระองค์หนึ่งของภูฐานจะเสด็จมาพำนักอยู่ที่นี่ นั่นเพราะว่าปูนากะ ในฤดูหนาวมีอุณหภูมิที่ไม่หนาวนัก คือราว 5-15องศาเซลเซียส เราได้แต่มองตากันเลิกลั่กนั่นเหรอไม่หนาว ส่วนฤดูร้อนสูงราว 32 องศาเซลเซียสส่วนซองที่ปรากฏอยู่ด้านหน้านี้ เพิ่งได้รับการบูรณะเสร็จเรียบร้อยไม่นานมานี้ ดังจะเห็นได้จากเพิงที่พักคนงานมีการรื้อถอนออกไป ด้วยภูมิอากาศที่พอเหมาะและน้ำที่มีอย่างสมบูรณ์ ทำให้ชาวนาที่นี่สามารถปลูกข้าวได้สองครั้งในหนึ่งปี ผู้คนที่นี่ก็ดูสดใส ไม่ต้องเผชิญกับหน้าหนาวที่หฤโหดมากนัก พวกเขาตั้งบ้านเรือนเรียงกันไปตามแม่น้ำ แม้แต่ชาวลายับ ที่ปกติอาศัยอยู่ในที่สูงบนเทือกเขาหิมาลัย ตั้งแต่ความสูงระดับ 2,000 ม. ไปจนถึง 4,000 ม. เหนือระดับน้ำทะเล ก็ยังอพยพลงมาอยู่ที่นี่ในฤดูหนาวชาวลายับ เป็นเผ่าที่มีต้นกำเนิดในทิเบต เข้ามาอยู่ในภูฐาน ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยติดตามสังฆราชชาวทิเบตที่ชื่อ ซาบดรุง งาวัน นำกัล (ZHABDRUNG NGAWAN NUMGAL) ในปีคศ. 1616 พระสังฆราชองค์นี้ เกิดปัญหาขัดแย้งกับกษัตริย์ทิเบต เนื่องจากกษัตริย์ทรงไม่พอพระทัยที่องค์สังฆราชมีอำนาจ และบทบาททัดเทียมกับท่าน เมื่อตกลงกันไม่ได้ สังฆราชจึงหนีมาภูฐาน ซึ่งคนภูฐานก็ให้ความนับถือเป็นอันมาก ส่วนพวกลายับก็ตามท่านมาตั้งรกรากที่นี่ปัจจุบันมีประชากรลายับในภูฐาน ประมาณ 10,000 คน พวกนี้เป็นพวกนับถือผีภูเขา และยังถือศีรษะตนเองมาก จะไม่อนุญาตให้ใครแตะศีรษะเป็นอันขาด ส่วนการแต่งกายก็เป็นชุดดำมีจุดเด่นที่หมวก ซึ่งเป็นทรงคล้ายกระโจมอินเดียนแดง พวกลายับ อพยพลงมาโดยตั้งเทนท์อยู่ในบริเวณของคนที่รู้จัก หรือบางครั้งคนพื้นราบก็จะอุปถัมภ์ชาวลายับที่สนิทกัน แต่คนภูฐานจะไม่มีการแต่งงานกับคนลายับ การเข้าชมปูนากะซอง ค่อนข้างเข้มงวดมาก อาจกล่าวได้ว่ามากกว่าซองอื่นๆ ที่เราได้เยือนมาทั้งหมดและมีตำรวจรักษาการอย่างหนาแน่น สาเหตุก็คงเนื่องมาจากการมาพำนักของสมเด็จพระสังฆราชในฤดูหนาวนั่นเอง คนที่เข้ามาเยี่ยมเยือนต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย โดยเฉพาะคนภูฐาน ที่เพิ่งมีกฎใหม่ห้ามใส่ลองจอห์นส์ หรือถุงน่องเพื่อกันหนาว โดยเหตุที่อากาศในภูฐาน ค่อนข้างหนาวเย็นมาก และชุดของผู้ชายที่ค่อนข้างสั้น จึงมักจะใส่ลองจอห์นส์เพื่อกันหนาว แต่ที่นี่ถือว่าไม่เรียบร้อย และนั่นคือ ปัญหาของไกด์ของเราที่เขาใส่ลองจอห์นส์มาด้วย ทำให้ต้องเจรจากับตำรวจรักษาการอยู่นาน ด้านในของซองมีลวดลายของจิตรกรรมฝาผนังที่ดูงดงามและสดใสกว่าที่อื่นจากการที่เพิ่งบูรณะเรียบร้อย ปูนากะซอง ยังเป็นซองแห่งเดียว ที่ยังคงใช้ไม้ทำหลังคาเพราะลมที่นี่แรงมาก ส่วนซองอื่นๆ เปลี่ยนเป็นสังกะสีหมดแล้ว ด้านในสมเด็จพระสังฆราช กำลังทำพิธีอยู่ และมีการห้ามถ่ายรูปท่านเด็ดขาด เมื่อท่านทำพิธีเสร็จ คนภูฐานที่รออยู่ด้านนอกรีบเข้าไปขอพรจากท่าน รวมทั้งไกด์ของเราด้วย แดดเริ่มต่ำคล้อยลงจนกลายเป็นสีทองเป็นสัญญาณว่าวันนี้ใกล้สิ้นสุดลง รวมทั้งเวลาของเราที่นี่ด้วย เรามุ่งหน้าเข้าสู่ทิมบู เมืองหลวงปัจจุบันทิ้งอดีตราชธานีเก่าไว้อยู่ในความทรงจำของเรา
อ่านต่อ
เรื่องโดย : อุษณีย์ กฤษณาวารินทร์
ภาพโดย : สุเทพ กฤษณาวารินทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/56476
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
1 Mar 2007
ร่อนตามลม ไปกับ "ร่มร่อน"
ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
1 Jul 2004
อุทยานแห่งซาราวัก
ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
1 Jun 2004
แดนหิมาลายันใต้ (3)
ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
1 May 2004
แดนหิมาลายันใต้ (3)
ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
1 Mar 2004
แดนหิมาลายันใต้ (1)
ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
1 Feb 2004
เส้นทางปราสาทหิน
ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
1 Nov 2003
อ่างกาหลวง
ดูต่อในคอลัมน์ ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)