ISUZU CHALLENGE 2003

คาราวาน "อีซูซุ ชาลเลนจ์" รายการคาราวานข้ามประเทศที่โด่งดังไปทั่วโลกของอิสราเอลในแต่ละปีจะมีชายหญิงชาวอิสราเอลจำนวนมากมาสมัครเข้าร่วมการเดินทางกับคาราวานนี้ แต่มีเพียง 20คนเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือก โดยก่อนเดินทางผู้ร่วมเดินทางจะต้องเข้าค่ายอบรม 2 วันเกี่ยวกับการขับรถวิบากอย่างถูกวิธีการปฐมพยาบาล การนำทาง การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกรณีฉุกเฉินและความรู้เกี่ยวกับภูมิประเทศที่จะเดินทางไป นอกจากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ยังมีทีมสมทบร่วมขบวนคาราวานนี้ ซึ่งประกอบด้วยคณะสื่อมวลชนทีมช่างมืออาชีพในการขับรถทางวิบาก คณะแพทย์ และที่ขาดเสียไม่ได้คือ นักวิชาการที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศวิทยา และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติ ออสเตรเลียน เอาท์แบค คือชื่อของการผจญภัยครั้งล่าสุด กับการเดินทางผ่าใจกลางทวีปออสเตรเลียจากใต้จรดเหนือ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายที่เวิ้งว้าง และแห้งแล้ง และป่าดงดิบร้อนชื้นที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิดปกคลุมอย่างหนาแน่น จุดเริ่มต้นเริ่มจากเทือกเขาฟลินเดอร์สซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปออสเตรเลีย คณะนักผจญภัย 60ชีวิต อาศัยรถบัสมาถึงฟาร์มแห่งหนึ่ง ซึ่งขบวนรถขับเคลื่อนสี่ล้อ อีซูซุ ลายเสือ เกือบ 20คันจอดเรียงรายเป็นครึ่งวงกลมรอพวกเราอยู่แล้ว 7 คันในนั้นเป็นรถที่ส่งตรงจากประเทศไทย พวงมาลัยซ้าย 2 คันและพวงมาลัยขวา 5 คัน สังเกตได้ว่ารถ อีซูซุ ที่ร่วมเดินทางครั้งนี้ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ เช่น สนอร์เกิลสำหรับการลุยน้ำลึก สปอทไลท์ กันชนหน้าที่มีบาร์กันชนทรงแกร่งซึ่งสำคัญมากสำหรับการขับรถในออสเตรเลียเนื่องจากสามารถป้องกันตัวรถจากการชนจิงโจ้ ที่มักวิ่งเข้าหาแสงไฟหน้ารถ สนอร์เกิล สำหรับการลุยน้ำลึกสปอทไลท์ ภายในรถนอกเหนือจากสัมภาระที่บรรทุกเต็มท้ายรถแล้ว ยังมีอุปกรณ์ที่สำคัญมากคือ ระบบสื่อสารเต็มรูปแบบ ทั้งวิทยุคลื่นสั้นเพื่อใช้สื่อสารระหว่างกัน และเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ของ GEOGRAPHICAL TOURS ใช้บรรยายให้ข้อมูลสำคัญของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว ระบบจีพีเอสซึ่งเป็นระบบนำทางผ่านดาวเทียมที่ทันสมัยที่สุดในขณะนี้ สามารถแจ้งให้ผู้เดินทางทราบจุดของตัวเอง และเพื่อนร่วมทางกรณีที่มีการผลัดหลง แผนที่เส้นทาง หรือแม้กระทั่งความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 10 วันเต็มในการลัดเลาะสู่ป่าดงพงไพร และทะเลทรายใจกลางทวีป ทุกคนในคาราวานได้รู้จักกับการเสียสละและทำงานเป็นทีม พร้อมกับการเรียนรู้และทักษะการขับขี่ การวางแผนที่ดีพบกับช่วงเวลาที่สนุกสนานในชีวิต ช่วงพักกลางวันจะมีการร้องรำทำเพลง จิบกาเฟกันอย่างสบายอกสบายใจ หลังจากเดินทางมาเป็นระยะทางกว่า 3,500 กม. ขบวนได้หักขวาเข้าสู่เมืองเคนส์ รัฐควีนสแลนด์ซึ่งเป็นการเข้าเมืองครั้งแรก โดยเข้าพักที่โรงแรมเรดิสัน พลาซา ชาวคาราวานได้ถือโอกาสพักใหญ่ช่วงกลางของการเดินทาง และให้ช่างเทคนิคได้มีโอกาสซ่อมบำรุง ที่เมืองเคนส์ แห่งรัฐควีนสแลนด์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งแสงแดด ที่นี่ชาวคาราวานพร้อมคณะสื่อมวลชนไทยได้ลงเรือลำใหญ่ลำเดียวกันและใช้เวลาตลอดทั้งวันในการไปเยือนเธอะ เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (THE GREAT BARRIER REEF) แนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีความยาวประมาณ 3,000 กิโลเมตร สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งหนึ่งของโลกและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย จากนั้นเริ่มเดินทางสู่จุดหมายต่อไปตามเส้นทางเข้าสู่เขตป่าดงดิบร้อนชื้นของออสเตรเรียที่เรียกว่าเดนทรี เรนฟอเรสต์ (DAINTREE RAIN FOREST) ป่าฝนเก่าแก่ที่สุดในโลกที่มีอายุยาวนานกว่า 100ล้านปี เส้นทางส่วนใหญ่ผู้ขับขี่ต้องใช้ทักษะเฉพาะตัวค่อนข้างสูงบางครั้งต้องมีหัวหน้าทีมลงไปสำรวจพร้อมกับให้สัญญาณรถแต่ละคันลุยน้ำ ลุยโคลนข้ามลำธารเพื่อไปรอพรรคพวกในอีกฟากหนึ่ง ทุกปีที่ อีซูซุเลือกใช้เส้นทางในการเดินทางจะมีการศึกษาปัญหาการอนุรักษ์ธรรมชาติของแต่ละประเทศ สำหรับเส้นทางในออสเตรเลียนี้ได้เลือกศึกษาปัญหาเรื่องจระเข้น้ำเค็มที่ชายฝั่งเมืองเคพยอร์คโดยการนำเครื่องส่งสัญญาณวิทยุติดตามไปติดที่บริเวณหลังของจระเข้น้ำเค็มเพื่อศึกษาพฤติกรรมขอบเขตถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าเจ้าถิ่นที่ขึ้นชื่อในความดุร้ายอันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการอนุรักษ์สัตว์ป่าอันมีค่าต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติให้คงอยู่สืบไป อีกหลายวันต่อมาชาวคาราวานไปถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งไว้ นั่นคือ เคพยอร์ค เหนือสุดของออสเตรเลีย ซึ่งหมายความว่าทุกคนได้ผ่านการเดินทางมากว่า 4,500 กม. ในเวลา 16 วันกับกิจกรรมที่ไม่ใช่การเดินทางเพื่อแข่งขันหาผู้ชนะ หรือทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อทั่วๆ ไป แต่เป็นการนำสิ่งดีๆ ที่อยู่ในตัวตนของคนมาสร้างสรรค์ประโยชน์ร่วมกับธรรมชาติแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยแต่การเดินทางยังไม่จบเสียทีเดียวเนื่องจากรถ อีซูซุ 5 คัน จะกลายเป็นรถตัวอย่างเพื่อนำไปโชว์ในอีกกว่า 130 ประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว