ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
เส้นทางปราสาทหิน
ในภูมิภาคเอเชียนั้น หากไม่นับจีน และอินเดีย ที่มีอารยธรรมมายาวนานกว่าใคร
โดยเฉพาะถ้าเรากล่าวถึงในเขตเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ชนชาติตระกูลมอญ-เขมร นับเป็นชนชาติแรกๆที่มีอารยธรรมและความเจริญมาก่อนใคร ส่วนคนไทย หรือพม่า นั้นเป็นพวกมาทีหลัง แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตอย่างมอญนั้น ปัจจุบันไม่มีประเทศเป็นของตนเอง ในประเทศพม่าคนมอญก็พยายามต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชร่วมกับชนกลุ่มน้อยอื่นๆ เพื่อเป็นรัฐอิสระ ส่วนในเมืองไทย มอญที่มีอยู่ไม่มากนักบางส่วนก็ถูกกลืนไป สำหรับคนเขมร หรือพวกขอม ในอดีตก็มีอารยธรรมที่สูงส่งไม่แพ้กัน น่าจะเจริญกว่าด้วยซ้ำเราสามารถเห็นหลักฐานต่างๆ ได้จากสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมาที่หลงเหลืออยู่ทั้งในประเทศกัมพูชาปัจจุบันลาว รวมทั้งในเมืองไทย ถ้าเราตัดปราสาทหินใหญ่ในกัมพูชาออกไปแล้วในเมืองไทยเองก็มีสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตอย่าง ปราสาทหินพิมาย ปราสาทพนมรุ้ง บางคนอาจนับรวมเอาเขาพระวิหารไปด้วย
คงมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่า นอกจากปราสาทใหญ่ๆ เหล่านี้ พวกขอมโบราณได้ทิ้งสิ่งก่อสร้างอื่นๆตามรายทางของเส้นทางสายชัยวรมัน และบนพื้นที่อื่นในเมืองไทยอีกมากมาย โดยเฉพาะที่ภาคอีสานเราจะเริ่มเดินทางโดยมุ่งหน้าสู่อรัญประเทศไปชมปราสาทเขาน้อย ที่ตั้งอยู่ริมชายแดนประเทศกัมพูชา ปราสาทเขาน้อยเป็นปราสาทเก่าแก่ สร้างขึ้นแต่สมัยกลางพุทธศตวรรษที่ 12 แล้วมีการต่อเติมในอีกสามร้อยปีต่อมาจุดเด่นของปราสาทนี้ คงจะเป็นทับหลังแบบสมโบร์ไพรกุก และแบบไพรกเมง
ที่ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติปราจีนบุรี แต่ที่ตัวปราสาทเองทางกรมศิลปากรก็ได้จำลองทับหลังให้คนทั่วไปได้ชมนอกจากนี้เมื่อมองลงไปยังทางทิศตะวันออกก็จะเห็นแผ่นดินกัมพูชาได้อย่างชัดเจน เพราะที่นี่ตั้งอยู่บนเนินเขา
ตามเส้นทางขึ้นเหนือหากใครมีเวลาก็อาจเยี่ยมชมปราสาทสด๊อกก๊อกธมในเขตอำเภอตาพระยาตัวปราสาทแม้จะไม่ค่อยมีจุดเด่นเท่าไหร่นัก แต่ก็มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากเพราะหลักศิลาจารึกที่พบที่นี่เป็นกุญแจสำคัญให้ศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดส ปราชญ์ชาวฝรั่งเศสไขความลับของอาณาจักรเขมรในอดีตทำให้เราสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวของกษัตริย์องค์ต่างๆ ได้ หลักศิลานี้ถูกเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติท่าวาสุกรีจากนั้นเราขึ้นเหนือไปเข้าสู่เขตจังหวัดบุรีรัมย์ แล้วเข้าอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งใครอยากจะแวะชมปราสาทพนมรุ้ง และเมืองต่ำก็ไม่ว่ากัน ที่ปราสาทพนมรุ้งนี้ คนที่อยากนอนเอาบรรยากาศสามารถติดต่อ
ขอพักได้ที่นี่ เพราะที่พักตั้งอยู่ด้านหลังปราสาท พอตอนเช้าก็สามารถเดินขึ้นไปชมปราสาทในยามพระอาทิตย์ขึ้นได้ ด้วยระยะทางเพียงไม่ถึงร้อยเมตร
จุดมุ่งหมายต่อไปของเราคือ กลุ่มปราสาทตาเหมือน ซึ่งประกอบไปด้วยปราสาทสามหลัง โดยมีปราสาทตาเหมือนธม เป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ติดชายแดนเขมร มีเพียงลำธารเล็กๆกั้นเขตแดนประเทศไว้ ด้วยเหตุนี้ในสมัยเขมรแดงเรืองอำนาจ พวกทหารเขมรแดงได้ทำลายตัวปราสาทด้วยระเบิดและนำเอาโบราณวัตถุไปขาย ทุกวันนี้ขณะที่กรมศิลปากรยังบูรณะตัวปราสาทอยู่เราสามารถดูร่องรอยของการทำลายได้อย่างชัดเจน ตัวปราสาทองค์กลางสร้างครอบบนหินศิวลึงค์ที่เกิดตามธรรมชาติ
น่าเสียดายที่ถูกคนมือบอนกะเทาะออกไปเสียเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่อำเภอศรีขรภูมิ ในจังหวัดสุรินทร์ ยังมี ปราสาทศรีขรภูมิ ที่งดงามแต่ในความงามนั้นดูเหมือนเจดีย์ถูกต่อเติมโดยคนลาว ทำให้ตัวสถาปัตยกรรมที่แท้จริงถูกบิดเบือนไป อย่างไรก็ดี
นับเป็นความโชคดีที่ทับหลังของปราสาทองค์กลางยังคงอยู่ ทับหลังนี้มีรูปของพระศิวะสิบกรเต้นรำอยู่เป็นตัวอย่างของทับหลังสมัยนครวัตอันงดงามที่หาไม่ค่อยได้ในเมืองไทย
ที่บ้านสระกำแพงใหญ่ ในเขตอำเภออุทุมพรพิสัย ปราสาทสระกำแพงใหญ่
เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาอย่างไม่ระมัดระวัง เนื่องจากปราสาทที่มีคุณค่ทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ ถูกทางรถไฟตัดผ่านทำให้หลักฐานทางโบราณคดีบางอย่างสูญหายไป อย่างไรก็ตามตัวองค์ปราสาทยังคงอยู่ลักษณะทางศิลปกรรมนั้นเป็นแบบบาปวน ในรัชสมัยของพระเจ้าอุทาทิตย์วรมันปัจจุบันเป็นพื้นที่ของวัดสระกำแพงใหญ่ซึ่งก็เหมือนกับปราสาทหินส่วนมากที่วัดจะมาสร้างครอบในภายหลัง แต่นับว่ายังดีที่กรมศิลปากรได้บูรณะเรียบร้อยแล้วเราล่องใต้อีกครั้งเข้าสู่เขตเขาพระวิหารที่บัดนี้ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้งแต่จุดหมายที่จะแนะนำนั้นอยู่ในฝั่งไทยที่มีความน่าสนใจไม่น้อย คือ ผามออีแดงที่เบื้องล่างมีรูปสลักบนหน้าผาเป็นรูปของบุคคลสามคนแต่งกายแบบเขมร เป็นชายหนึ่งคนและหญิงสองคนนั่งชันเข่าในท่าสลิตะสนะ
ใกล้กับทางขึ้นเขาพระวิหารเป็นที่ตั้งของ ปราสาทโดนตวล ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ 15ตัวปราสาทเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมทั้งสี่ด้าน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
เรามุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังจังหวัดขอนแก่น ที่นี่ในอำเภอเปือยน้อยยังมีปราสาทที่น้อยคนจะรู้จักซ่อนตัวอยู่ คือปราสาทเปือยน้อยตัวปราสาทมีขนาดใกล้เคียงกับปราสาทสระกำแพงใหญ่ และมีอายุอยู่ในสมัยเดียวกันคือราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ศิลปะเป็นแบบบาปวนต่อสมัยนครวัต ปราสาทเปือยน้อยนับเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ที่พบได้น้อยในภาคอีสานตอนบน ปัจจุบันทางกรมศิลปากรได้บูรณะเรียบร้อยแล้ว นอกจาก
ปราสาทที่กล่าวมานี้ หากใครอยากดูหลักฐานที่คนไทยเริ่มสร้างอาณาจักรบนรากฐานของพวกขอมสามารถแวะไปที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยในจังหวัดสุโขทัยได้
ที่นั่นที่ซุ้มประตูวัดมหาธาตุจะปรากฏรูปเหมือนหน้าบายนสี่หน้า ซึ่งเป็นหลักฐานว่าเราสร้างอาณาจักรสุโขทัยในพื้นที่ของพวกขอมโบราณ อย่างไรก็ดีพึงระลึกว่าประเทศไทยทุกวันนี้ประกอบไปด้วยคนหลายชาติหลายเผ่าพันธุ์สร้างเป็นชาติไทย
เรื่องโดย : สุเทพ กฤษณาวารินทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2547
คอลัมน์ Online : ฟ้ากว้าง ทางไกล (4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/56353