แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 47

ผมได้รับวารสาร "ยานยนต์สาร" ของสถาบันยานยนต์ ที่ส่งมาให้อ่านเป็นประจำทุกเดือนมีเรื่องราวน่าสนใจหลายเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงยานยนต์ในบ้านเรา อย่างเช่น เรื่องแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2547 ที่มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้น ทั้งยอดผลิต และจำหน่ายรถยนต์โดยมีการเปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศ ปี 2546 ที่ตัวเลขพุ่งไปแตะ 5.2 แสนคัน ซึ่งเป็นการปรับเป้าหมายในช่วงกลางปี หลังจากที่มีกระแสการแข่งขันในตลาดรถเล็ก ที่ ฮอนดา ส่ง แจซซ์ มาประลองกับ โตโยตา วีออสพร้อมๆ กับความร้อนแรงของ วิช รถเอมพีวีคันล่าสุดของ โตโยตาที่มีส่วนช่วยหนุนให้ตัวเลขในโค้งสุดท้ายเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ! สำหรับปี 2547 นี้ คาดการณ์ว่า ประเทศไทย น่าจะมียอดการผลิตรถยนต์สูงถึง 7.6 แสนคันมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนั้นมียอดผลิตประมาณ 6 แสนคัน และจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะจากตัวเลขการส่งออกรถยนต์ ที่หลายยี่ห้อ ประกาศใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต และส่งออก โดยมีโครงการยักษ์ อีกหลายโครงการจ่อคิว รอส่งออก ทั้งโครงการ ฮอนดา แจซซ์ โครงการ ไอเอมวี โครงการของ โตโยตา เมร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอมดับเบิลยู ที่ตั้งใจจะผลิตรถหรู สำหรับส่งออกในแถบอาเซียนนี่ยังไม่นับรวมถึงค่ายยักษ์ใหญ่ จีเอม ที่เดินหน้าผลิตรถสารพัดแบบ สารพัดยี่ห้อ ส่งออกไปประเดิมตามที่ต่างๆเป็นว่าเล่นก่อนแล้ว ส่วนตลาดการจำหน่ายรถในประเทศ ปีนี้คาดการณ์ว่า น่าจะมียอดขายประมาณ 5.8 แสนคันหรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 15 ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขอีก ถ้าบริษัทรถยนต์ยังเดินเกมแลกหมัดประเคนแคมเปญ เข้าใส่กันแบบไม่ยั้งเหมือนปีที่ผ่านมา สีสันในวงการตลาดรถปีวอกน่าจะเป็นปีของรถเอมพีวี เพราะทั้ง ฮอนดา และมิตซูบิชิ ต่างก็เตรียมไม้เด็ดที่จะมาสู้ศึกกับ โตโยตา และจีเอมไว้แล้ว ช่วงไตรมาสที่ 3 เราคงจะได้เห็น ฮอนดา ออดิสซีย์ ใหม่ และมิตซูบิชิ สเปศแวกอน ใหม่แกะกล่องนอกจากนี้ยังมีพิคอัพ เชฟวี ทรัค ในนาม โคโลราโด ที่จีเอม ประคบประหงมเตรียมตัวสู้ศึกพิคอัพญี่ปุ่น เชื่อแน่ว่าปีนี้ตลาดรถพิคอัพขับเคลื่อนสองล้อ ยังเป็นพระเอก น่าจะมียอดจำหน่ายพอฟัดพอเหวี่ยงกับตลาดรถเก๋ง ส่วนตลาดส่งออก สดใสซาบซ่าแน่นอน ทั้ง มิตซูบิชิ และฮอนดา ยังคงทำให้การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทย เดินหน้าอย่างต่อเนื่องแต่ก็จะประมาทประเทศคู่แข่งในแถบอาเซียนไม่ได้เช่นกันทั้งจีน ไต้หวัน เวียดนาม และอินโดนีเซีย ต่างก็มีจุดแข็งที่น่าศึกษาไม่น้อย จีนมีความแข็งแกร่งทั้งด้านค่าแรง ฝีมือแรงงานที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญมีความพร้อมด้านการตลาดในประเทศที่มากกว่าส่วนไต้หวัน ได้เปรียบเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ถึงอย่างไรก็ตาม แนวโน้มการส่งออกปีนี้ ต้องรอดูสถานการณ์รถจักรยานยนต์ เชื่อว่าจะเติบโตขึ้นอีก รวมถึงการส่งออกรถยนต์ ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นพอสรุปได้ว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2547 จะสดใส โดยตลาดส่งออกรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ จะเดินหน้าแบบเต็มสูบ พอๆ กับตลาดในประเทศ ที่คาดการณ์ว่าจะมีตัวเลขการจำหน่ายรถยนต์ ประมาณ 5.8 แสนคัน แต่ตัวเลขนี้น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง จะลดลงหรือเพิ่มขึ้นต้องรอดูเกมการตลาดระลอกใหม่ครับ…