โลกรถยนต์สนทนา(4wheels)
กฤษฎ์ กาญจนบัตร
กฤษฎ์ กาญจนบัตร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัดให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข้อมูลและจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ขัดเคลือบสีรถ คาร์แลค 68 รวมถึงการบำรุงรักษาสีรถอย่างถูกวิธีเพื่อให้สีคงความเงางามและมีอายุยาวนาน ในรายการ "โลกรถยนต์" ช่วง "ฟอร์มูลา ฟอรัม" โดยมี ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัทสื่อสากล จำกัด และสายยศ สุวรรณหงษ์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร "ฟอร์มูลา" เป็นผู้ดำเนินรายการ
ขวัญชัย : ความเป็นมาของบริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด ?
กฤษฎ์ : บริษัทเราก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2525 โดยได้ร่วมทุนกับบริษัทแม่ที่ประเทศเยอรมนีเพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้าเคมีภัณฑ์ประเภทขัดเคลือบสี โดยมีทีมงานที่ร่วมทำงานกันเองในรูปแบบครอบครัวจนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วผมเรียนจบจึงได้เข้ามาช่วยดูแลธุรกิจของคุณพ่อ ซึ่งอาศัยคำแนะนำจากท่าและประสบการณ์ที่ได้มาระหว่างเรียนมาช่วยในการบริหารงาน เพราะปัจจุบันธุรกิจสินค้าและบริการขัดเคลือบสีมีการแข่งขันกันสูงมากถ้าทำการตลาดไม่ดีก็ยากที่จะเข้าถึงผู้บริโภค สำหรับตัวผมถือว่าเป็นงานที่ท้าทาย เพราะต้องใช้ความคิดและทุ่มเทกับมันตลอดเวลา เพื่อให้ประสบความสำเร็จ
ขวัญชัย : ผลิตภัณฑ์ "คาร์แลค" ทำไมต้องมี 68 ต่อท้าย ?
กฤษฎ์ : หลายคนจะคิดว่า 68 เป็นปีที่เราผลิตสินค้าคาร์แลคขึ้นมา จริงๆ แล้วไม่ใช่เพราะเราเริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี 1958 แล้ว แต่ที่มีตัวเลข 68 ต่อท้ายหมายถึงปี 1968ซึ่งเป็นปีที่สินค้าของคาร์แลคได้รับรางวัลสุดยอดน้ำยาเคลือบสีนานาชาติ ที่ประเทศเยอรมนี
ขวัญชัย : มีแผนการทำตลาดในประเทศไทยอย่างไร ?
กฤษฎ์ : ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าปัจจุบันตลาดของผลิตภัณฑ์ขัดเคลือบสีในบ้านเราแตกต่างไปจากเดิมเมื่อก่อนเรามักจะพบเห็นสินค้าประเภทนี้วางจำหน่ายอยู่แต่ในเฉพาะแผนกอุปกรณ์ประดับรถยนต์เท่านั้นแต่ปัจจุบันมีการกระจายไปจำหน่ายตามห้างร้านต่างๆ รวมถึงที่เปิดศูนย์บริการขัดเคลือบสีแบบครบวงจรก็มีให้เห็นมากขึ้นสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะคนไทยมีเวลาดูแลรักษารถน้อยลง เนื่องจากต้องใช้เวลากับการทำงานมากขึ้นจึงต้องหันไปพึ่งศูนย์บริการให้ดูแลรักษารถแทน ซึ่งตรงนี้เราได้เปิดศูนย์บริการขัดเคลือบสี คาร์แลค 68 แบบครบวงจรขึ้นมาโดยมีทั้งแบบที่เราเปิดเอง 6 แห่ง และแบบดีเลอร์ 70 แห่ง กระจายอยู่ตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศ
สายยศ : เคยได้ยินมาว่าน้ำยาเคลือบสีบางยี่ห้อมีการรับประกันถึง 5 ปีทำไมถึงรับประกันได้นานขนาดนั้น ?
กฤษฎ์ : ถ้าบริษัทนั้นมีมาตรฐานน่าเชื่อถือว่ารับประกันได้ตลอด 5 ปี ก็ต้องไปดูเงื่อนไขให้ละเอียดเพราะส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ว่าต้องนำรถเข้าไปรับบริการเคลือบสีซ้ำทุกๆ 2-3 เดือนส่วนของเราเป็นรูปแบบสัญญารับประกันรายปีเช่นใน 1 ปี ต้องเอารถไปรับบริการซ้ำ 3 ครั้ง หรือทุกๆ 4 เดือน ซึ่งจะเห็นว่าคล้ายๆ กันเพียงแต่ของเราไม่ต้องเข้าไปรับบริการบ่อยๆ
ขวัญชัย : การแสดงจุดไฟเผาสีรถที่เคลือบ คาร์แลค 68 ตรงนี้ต้องการจะสื่อถึงอะไร ?
กฤษฎ์ : เป็นมุมมองที่แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของ คาร์แลค 68 สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 160องศาเซลเซียสหรือ 320 องศาฟาเรนไฮท์ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ทั่วๆ ไปในท้องตลาดทนความร้อนได้แค่ 60-70องศาเซลเซียสเท่านั้น ถ้าเกินกว่านี้ส่วนใหญ่จะละลายและเสื่อมสภาพไปหมดซึ่งถ้ามองในแง่ความเป็นจริงจะเห็นว่าสีรถโดยเฉพาะพื้นที่ส่วนฝากระโปรงหน้าจะมีความร้อนสะสมสูงมาก ทั้งความร้อนจากแสงแดดและความร้อนที่เครื่องยนต์ปล่อยออกมาถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพก็จะลาย และคุณสมบัติการปกป้องสีรถหมดไปทันทีทำให้ต้องเคลือบใหม่อยู่เป็นประจำ
สายยศ : ทนความร้อนได้มากขนาดนี้เป็นเพราะส่วนผสม ?
กฤษฎ์ : ใช่ครับ ผลิตภัณฑ์ขัดเคลือบสีส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมหลักเป็นแวกซ์ หรือไม่ก็เทฟลอน แต่ของคาร์แลค 68จะเป็นโพลีเอธีลีน(POLYETHYLENE CONCENTRATE) ซึ่งสามารถทนความร้อนได้มากกว่าไม่ละลายเมื่อถูกความร้อน ผสมกับอครีลิค (ACRYLIC CONCENTRATE)ทำหน้าที่เพิ่มความเงางามเป็นประกายให้กับสีรถโดยส่วนผสมเหล่านี้จะสร้างแผ่นฟีล์มเคลือบบนสีรถ จึงสามารถป้องกันและแก้ปัญหารอยขีดข่วนกรดจากน้ำค้าง มูลนก ยางไม้ และน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี
สายยศ : ความคิดที่ว่าหน้าฝนไม่จำเป็นต้องเคลือบสีเพราะต้องล้างรถบ่อยๆ อยู่แล้ว ถูกต้องหรือไม่ ?
กฤษฎ์ : ในมุมมองผมกลับคิดว่ายิ่งหน้าฝนสมควรที่จะต้องเคลือบสีเนื่องจากปัจจุบันมลพิษในอากาศทำให้ฝนที่ตกลงมามีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งสามารถทำให้สีรถซีดจางได้ ถ้าเราเคลือบสีเอาไว้ ชั้นฟีล์มบางๆจะทำหน้าที่ปกป้องสีรถไม่ให้ถูกน้ำฝนโดยตรง ข้อดีอีกข้อหนึ่งก็คือ ผลิตภัณฑ์เคลือบสีของ คาร์แลค 68สามารถเคลือบกระจกได้ด้วย ทำให้ผิวกระจกมีความมันวาวเมื่อฝนตกลงมาน้ำฝนไหลออกจากกระจกอย่างรวดเร็ว ทำให้รถมีทัศนวิสัยดีกว่ารถที่ไม่ได้เคลือบกระจกเอาไว้
สายยศ : ระหว่างเคลือบสีเองที่บ้าน กับไปเคลือบที่ศูนย์บริการ อย่างไหนคุ้มค่ากว่ากัน ?
กฤษฎ์ : คุ้มกันคนละแบบครับ อย่างท่านที่มีเวลาว่างก็สามารถทำเองที่บ้านได้เพราะไม่ต้องอาศัยเครื่องมือพิเศษอะไรแค่ผ้าก็เพียงพอแล้ว โดยใช้น้ำยาเคลือบสี คาร์แลค 68 ขนาด 300 ซีซี ราคาขายประมาณ 800 บาทสามารถใช้ได้ถึง 4 ครั้ง แต่สำหรับท่านทีไม่มีเวลาไปให้ศูนย์บริการเคลือบสีให้ช่วยทุ่นเวลาไปเยอะ และที่ศูนย์ ฯ เราจะมีเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญและมีเครื่องขัดชนิดพิเศษที่ใช้ในการขัดเคลือบสีโดยเฉพาะไม่ทำลายสีรถแม้จะขัดบ่อยๆ โดยเสียค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ 1,500 บาท พร้อมรับประกัน 6 เดือน หรือจะซื้อแพคเกจเป็นรายปีก็ได้ราคาเริ่มต้น 3,745 บาท เท่านั้น ได้เคลือบสี 3 ครั้งพร้อมรับประกันตลอดทั้งปีถ้าสีรถมีปัญหาถูกมูลนก ยางไม้ หรือน้ำมันเชื้อเพลิง แล้วเกิดรอยด่างที่ชั้นฟีล์ม เราจะขัดเคลือบแก้ไขให้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
คาร์แลค 68 เชิญผู้สนใจพบกันในงาน THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2003เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2546 ที่บูธ H83 และ H39, 40
เรื่องโดย : สิทธิพงศ์ วิยาภรณ์
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2546
คอลัมน์ Online : โลกรถยนต์สนทนา(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/56236