X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รู้ไว้ใช่ว่า
1 Jul 2003
ขายยางรถโดนเบี้ยว
สำหรับคดีเชคงวดนี้เป็นเรื่องหมูๆ แต่ไม่หมูเสียทีเดียว คนขายสินค้าพลาดท่ามาเยอะแล้วแต่ท่านที่อ่านเรื่องนี้อาจจะไม่รู้ จึงหยิบมาบอกด้วยความหวังดี คืออย่างนี้ครับ การขายสินค้าในบ้านเราไม่ค่อยชอบทำกันอย่างตรงไปตรงมา ที่เห็นๆ คือตอนส่งสินค้าให้แก่ผู้ซื้อพ่อค้ามักหลบเลี่ยง ไม่อยากออกเอกสารมัดตัวเอง เกรงเรื่องภาษี ทำไปทำมาเลยส่งสินค้าให้กันดื้อๆ เหมือนส่งยาบ้าอย่างไรอย่างนั้น ถือว่าได้เชคเงินสดมาเป็นโอเค รายนี้ก็เหมือนกัน "หจก. ขายยางรถ" ขายยางรถยนต์เหมือนชื่อห้างให้แก่ "หจก.ลื่นไหล" ซึ่งมี "นายบิลเลียด" เป็นเจ้าของและผู้จัดการจำนวนไม่น้อย เป็นราคาค่างวดตั้ง 2 แสนบาท หจก. ขายยางรถไม่อยากให้ปรากฏหลักฐานการซื้อขายเพื่อเลี่ยงภาษีอย่างที่บอก จึงใช้วิธียื่นหมูยื่นแมวให้ลูกน้องขนยางรถไปส่งให้แก่ หจก. ลื่นไหล โดยมีนายบิลเลียด รับไว้แล้วเซ็นเชคในนามห้างให้ใบเดียวโดดๆ เป็นเสร็จพิธี เพราะเชื่อใจกันเนื่องจากเคยซื้อขายมาก่อน ไม่น่าจะมีปัญหา สิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน อันนี้ต้องฝากรัฐบาลด้วยนะท่าน อย่าคิดว่าจับตัววางตายไปซะทุกเรื่องต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้มั่ง เชคของ หจก. ลื่นไหลไม่ลื่นไหล เด้งออกมาอย่างไม่เป็นท่า ธนาคารระบุว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย เมื่อทวงถามกันแล้วไม่เป็นผล หจก. ขายยางรถจึงเดินหน้าค้าความด้วยการแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจจัดการให้เป็นลำดับแรก ลำดับถัดมาถึงอัยการ ลงท้ายกลายเป็นคดีที่ศาล หจก. ลื่นไหลตกเป็นจำเลยที่ 1 นายบิลเลียด หุ้นส่วนผู้จัดการตกเป็นจำเลยที่ 2 ข้อหาร่วมกันจ่ายเชคเด้ง จำเลยทั้งสองเคลียร์หนี้ไม่ได้ จึงตีกรรเชียงไปก่อนให้พ้นจากคุกด้วยการสู้คดี ให้การปฏิเสธ ระหว่างนั้น หจก. ขายยางรถเข้ามาสมทบอีกแรงหนึ่ง ขอเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการรุมตื้บจำเลยให้อยู่หมัด ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วตัดสินว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้อง ปรับหจก. ลื่นไหล 5 หมื่นบาทถ้าไม่ชำระเอาตัวผู้จัดการมาคุมขังแทนค่าปรับ และลงโทษจำคุกนายบิลเลียด หุ้นส่วนผู้จัดการ 6 เดือน หจก. ลื่นไหล และนายบิลเลียด หาทางชิ่งต่อไปด้วยการให้ทนายยื่นอุทธรณ์ พร้อมกับตั้งความหวังว่าจะพลิกเกมมาชนะคดีได้ เพราะหลักฐานการซื้อขายยาง หจก. ขายยางรถไม่นำมาโชว์ศาล อัยการท่านก็ไม่สนใจนำมาแสดงเช่นกัน จำเลยจึงตั้งประเด็นว่า เชคที่นำมาฟ้องไม่มีมูลหนี้ที่อาจบังคับได้ตามกฎหมายขอให้ยกฟ้องเสีย ปรากฏว่าจำเลยได้เฮ หน้าบานเป็นจานเชิง ทั้งๆ ที่โกงเขาชัดๆ เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์เสียทั้งหมด อัยการโจทก์ คงขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด ประกอบกับมี หจก. ขายยางรถเสนอหน้ามาเป็นโจทก์ร่วมอยู่แล้ว จึงสบายตัว ไม่ยื่นฎีกา ขณะที่ หจก.ขายยางรถต้องออกเหงื่อยื่นฎีกาขึ้นไป ขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยดังที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ มันโกงชัดๆ ศาลฎีกาเพ่งดูคดีนี้และรู้ว่า หจก. ลื่นไหลกับนายบิลเลียดมันโกงอย่างเห็นๆ แต่การตัดสินลงโทษต้องว่ากันตามกฎหมายและพยานหลักฐาน ยุติธรรมหรือไม่ พอใจหรือไม่ช่วยไม่ได้ อยากโง่เองในที่สุดศาลฎีกาฟันธงลงมาว่า การเอาผิดทางอาญาข้อหาจ่ายเชคเด้งต้องมีอยู่ 2 ข้อ คือ หนึ่ง มีหนี้ที่ต้องชำระ ข้อนี้โจทก์คงจะผ่านไปได้อยู่หรอก ถ้าเป็นหนี้ค่ายางรถยนต์จริง ส่วนข้อที่สอง หนี้ต้องบังคับได้ตามกฎหมาย ในข้อที่สองนี้เอง ที่ฝ่ายโจทก์พลาดท่าหงายท้อง เนื่องจากจำเลยเขาสู้คดี อ้างว่าเซ็นเชคเพื่อจ่ายเงินกู้ยืมต่างหาก ไม่ได้จ่ายค่ายางรถยนต์ตามที่โจทก์อ้าง เมื่อเป็นยังงี้ถือว่าจำเลยเขาปฏิเสธว่ามูลหนี้ซื้อยางรถไม่มีอยู่จริง เขาไม่ได้ให้การรับในเรื่องนี้เมื่อการซื้อขายยางรถยนต์ซึ่งเป็นสังหาริมทรัพย์ 500 บาทขึ้นไป เข้าข่ายตามกฎหมายแพ่ง มาตรา 456 วรรคสองและสาม ผู้ขายจะมัดคอผู้ซื้อได้ ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ซื้อเป็นสำคัญ หรือมีการวางมัดจำหรือวางประจำไว้ หรือมีการชำระเงินบางส่วน เมื่อสู้คดีกันมาตลอดแล้วปรากฏว่าฝ่ายโจทก์อ้างลอยๆ ว่าจำเลยซื้อยางรถยนต์ ไม่ยักมีเอกสารลงลายมือชื่อจำเลยมาแสดง ไม่มีหลักฐานการวางเงินมัดจำ ไม่ได้มีการชำระเงินบางส่วน หนี้รายนี้จึงบังคับไม่ได้ตามกฎหมาย การจ่ายเชคเด้งจึงขาดองค์ประกอบตาม มาตรา 4 ของ พรบ. เชค พศ. 2534 ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องถูกต้องแล้ว ศาลฎีกาพิพากษายืน เห็นหรือยังว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีหลักฐานการซื้อขายเป็นหนังสือ เช่นใบรับของหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีการวางเงินมัดจำ ไม่มีการจ่ายเงินบางส่วน รับแต่เชคอย่างเดียว ถ้าเชคเด้ง เอาผิดทางอาญาไม่ได้ ขณะเดียวกัน ถ้าหันไปเล่นงานเขาในคดีแพ่งฟ้องเรียกเงินตามเชค อันนี้ทำได้ก็จริง แต่ต้องดูว่าขาดอายุความหรือยัง เกิน 1 ปีหรือยัง นับแต่วันที่เชคเด้ง ถ้าขาดอายุความก็ชวด จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2544
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/56076
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
รู้ไว้ใช่ว่า
รู้ไว้ใช่ว่า
18 Aug 2015
โทษเบาไปนะ !!!
รู้ไว้ใช่ว่า
17 Jul 2015
เบรคแตก
รู้ไว้ใช่ว่า
24 Jun 2015
ลืมไม่เข้าคุก !
รู้ไว้ใช่ว่า
19 May 2015
"ไฟไหม้รถ/ค้ายา !"
รู้ไว้ใช่ว่า
20 Apr 2015
"ลูกหลานใช้รถ !"
ดูต่อในคอลัมน์ รู้ไว้ใช่ว่า