จากรายการ โลกรถยนต์ ช่วง ฟอร์มูลา ฟอรัม ทาง NATION CHANNEL (UBC 8)ออกอากาศ วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2546 เวลา 17.00-18.00 น.
นภดล เอกภักดิ์สกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์คาสตรอล และ พยงค์ ชาติสุขศิริเดชผู้จัดการฝ่ายเทคนิค บริษัท แอสแพค ออยล์ (ไทยแลนด์) จำกัด จำหน่ายน้ำมันเครื่อง คาสตรอลให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับน้ำมันเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด “แมกนาเทค” (MAGNATEC) ในรายการ “โลกรถยนต์”ช่วง “ฟอร์มูลา ฟอรัม” โดยมี ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ และ สายยศ สุวรรณหงษ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ
สายยศ : น้ำมันเครื่องรุ่นใหม่ของ คาสตรอล คือรุ่นอะไรครับ ?
พยงค์ : ใช้ชื่อว่า แมกนาเทค ครับ
ขวัญชัย : น่าจะมีที่มาจากแม่เหล็กใช่ใหมครับ?
พยงค์ : คล้ายๆ ครับ แต่ความจริงแล้ว น้ำมันเครื่องเป็นสารเคมี ไม่ใช่แม่เหล็ก
เพียงแต่เราอยากเปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ ว่า โมเลกุลของน้ำมันเครื่องรุ่นนี้
สามารถยึดเกาะชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ได้เสมือนแม่เหล็ก จึงช่วยลดการสึกหรอโดยเฉพาะขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งน้ำมันเครื่องทั่วไป จะต้องใช้เวลา 30-40 วินาทีเพื่อให้ปั๊มน้ำมันเครื่อง ดูดน้ำมันขึ้นไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆ แต่ แมกนาเทคจะมีฟีล์มคอยเคลือบชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ไว้พอสมควรหลังจากดับเครื่อง
สายยศ : แมกนาเทค จัดเป็นน้ำมันเครื่องกลุ่มไหน ?
นภดล : ตัวนี้เป็นประเภทกึ่งสังเคราะห์ครับ
พยงค์ : ทางเทคนิคจะแบ่งน้ำมันเครื่องออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรก เป็นน้ำมันธรรมชาติกลุ่มสองเป็นน้ำมันที่มีคุณภาพดีขึ้น หรือกึ่งสังเคราะห์ ส่วนกลุ่มสาม เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100%
นภดล : เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน น้ำมันเครื่อง บีพี เริ่มมีพวก เซมิ-ซินเธทิค เข้ามาสู่ตลาดแต่ในต่างประเทศไม่มีหรอกครับ เขาจะมีแต่น้ำมันธรรมดากับสังเคราะห์ 100 % แต่ในบ้านเรามีการแนะนำทางการตลาดในเรื่องของสารผสม ที่บอกว่าดีขึ้นระดับหนึ่ง แต่ผู้บริโภคจ่ายไม่แพง จึงเกิดเซมิ-ซินเธทิค ขึ้น แนวโน้มทางการตลาดในอนาคต น้ำมันกลุ่ม เซมิ-ซินเธทิค นี้ จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ขวัญชัย : ราคาต่อลิตร ของน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ?
นภดล : ในแต่ละกลุ่ม จะต่างกันประมาณ 3 เท่าขึ้นไป แล้วแต่ส่วนผสมที่แต่ละยี่ห้อเลือกใช้ เช่นน้ำมันเครื่องทั่วไปราคา 60 บาท พวกซินเธทิคก็จะประมาณ 180-200 บาท/ลิตร เป็นอย่างน้อย
ขวัญชัย : พวกซินเธทิค ที่เดี๋ยวนี้นิยมกันมาก มีราคาสูง แล้วคุณภาพจะสมกับราคาไหม ?
พยงค์ : ถ้าใช้งานปกติถือว่าแพงครับ แต่ข้อดีของ ซินเธทิค คือมีอายุการเปลี่ยนถ่ายยาวนานกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไปประมาณ 2-3 เท่า และในยุโรปยังมีค่าจัดเก็บน้ำมันที่ใช้แล้ว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ถ้ามีการใช้ลดลง จากการยืดเวลาเปลี่ยนถ่ายออกไปก็จะช่วยลดจำนวนการใช้ และค่าใช้จ่ายการจัดเก็บลงไปได้
นภดล : ด้วยคุณสมบัติของ ซินเธทิค เองสามารถช่วยรักษาชิ้นส่วนเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นนั่นคือความคุ้มค่าส่วนหนึ่งของน้ำมันประเภทนี้ครับ
สายยศ : แมกนาเทค แบ่งเป็นกี่รุ่น ?
พยงค์ : มี 2 รุ่นด้วยกัน คือ สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ค่าความหนืด 10W40 API SL/CFซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุด และสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล มีค่าความหนืด 15W-40 คุณภาพสูงกว่ามาตรฐานAPI CF-4/SG
การกำหนดค่าต่างๆ ของน้ำมัน อย่างเช่นรุ่นสำหรับเครื่องเบนซินเราจะคำนึงถึงสเปคของผู้ผลิตรถยนต์เป็นหลัก ยกตัวอย่างคือ แคทาไลทิค ซึ่งติดตั้งมาให้ในรถรุ่นใหม่ๆถ้าใช้น้ำมันเครื่องไม่เหมาะสม แคทาไลทิคก็จะตัน เป็นต้น ส่วนค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องจะเห็นว่ามีความใส เพราะเครื่องยนต์เบนซินใช้รอบเครื่องยนต์สูงกว่าเครื่องยนต์ดีเซล นอกจากนี้ความใสยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ลื่นขึ้น จึงประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
ขวัญชัย : สมมติว่า เราซื้อน้ำมันเครื่องผิด ไปเอาของเครื่องดีเซล มาใส่ในเครื่องเบนซิน จะมีผลอย่างไร?
พยงค์ : เครื่องยนต์ไม่พังหรอกครับ แต่เราจะไม่ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจากน้ำมันเครื่องนั้นอย่างน้ำมันเครื่อง แมกนาเทค ก็มี API กำหนดอยู่ ซึ่งทั้งสองชนิดมีค่าไม่เท่ากัน
การเลือกใช้น้ำมันเครื่อง ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเครื่องยนต์อย่างยิ่งเพราะนอกจากน้ำมันเครื่องจะช่วยให้การทำงานของเครื่องยนต์ราบรื่นแล้ว คุณภาพของน้ำมันเครื่องยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี และความสึกหรอมากถึง 75 %ที่เกิดขึ้นขณะสตาร์ทเครื่องยนต์นั้น ถือเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่คอยบั่นทอนอายุเครื่องยนต์ให้สั้นลงหากเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยทีเดียว
Model | Start Price (THB) |