รถใหม่ 4x4 (4wheels)
ซูซูกิ แกรนด์ เอสกูโด
เมื่อ ซูซูกิ แกรนด์ เอสกูโด ออกสู่ตลาด มันกลายเป็น เอสกูโด ที่หลุดจากกรอบของรถขนาดกะทัดรัดและตอนนี้ มันก็ได้รับการตกแต่งภายในใหม่ ตามแผนการที่จะเปลี่ยนให้มีความหรูหราขึ้นอีกระดับเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพพจน์ เพื่อให้ดูสมกับขนาดตัวถังที่ "หลุดจากความกะทัดรัด"
แม้ขนาดจะไม่กะทัดรัด
แต่ก็ยังดูด้อยกว่าขนาดกลาง
เมื่อปี 88 เอสกูโด ได้ออกสู่ตลาดในฐานะรถขนาดกะทัดรัด 3 ประตู เครื่องยนต์ความจุ 1.6 ลิตรและกลายเป็นต้นตระกูลรถ 4x4 สำหรับวิ่งในเมือง แต่หลังจากนั้น ก็มีการยกระดับรถเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันออกมาถึงรุ่น แกรนด์ เอสกูโด ที่มีตัวถังหลายแบบ บรรทุกผู้โดยสารได้ 7 คน
วางเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 ความจุ 2.7 ลิตร ซึ่งแน่นอน ในกระบวนรถของ ซูซูกิมันภาคภูมิในความใหญ่สุดและหรูสุดแม้จะมีการเตรียมความพร้อมไว้มากพอสำหรับเงื่อนไขของการเรียกว่ารถขนาดกลางแต่เมื่อเทียบกับรถรุ่นที่จัดเป็นตัวแทนของรถขนาดกลางอย่าง ปราโด และ ปาเจโร แล้วก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มันยังดูด้อยกว่าในระดับหนึ่ง
มันช่วยไม่ได้ที่คนยังติดกับความรู้สึกเก่าที่พ่วงภาพพจน์ ตั้งแต่ยุคแรกของรถขนาดกะทัดรัดมาด้วยซึ่งการที่จะลบความรู้สึกดังกล่าวออกไป จำเป็นต้องสร้างภาพพจน์ใหม่ให้แรงพอควร ดังนั้นจึงได้มีการทำไมเนอร์เชนจ์ ขนานใหญ่ให้ เอสกูโด ทั้งหมด โดยวางแผนติดตั้งอุปกรณ์เพียบและเปลี่ยนการตกแต่งภายในให้หรูหรา พร้อมกับนำออกจำหน่ายในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
รถที่ทีมงานนำมาทดสอบ คือ แกรนด์ เอสกูโด เอฟไอเอส ฟรีสไตล์ เวิร์ลด์คัพ ลิมิเทดซึ่งเป็นรถแบบพิเศษที่ออกมาพร้อมกับแบบไมเนอร์เชนจ์ และเป็นแบบที่คุ้มค่าน่าซื้อเนื่องจากมีการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเพิ่มหลายรายการ เช่น ตะแกรง และแอโรพาร์ทซึ่งเป็นที่นิยมสืบทอดมาจากรุ่น
แฮรี ฮันเซน ลิมิเทด ที่วางจำหน่ายในจำนวนจำกัดเมื่อเดือนมิถุนายน ปีที่แล้วกับวัสดุหุ้มที่นั่งและยางอะไหล่แบบพิเศษที่น่าสัมผัส เป็นต้น
มีการใช้แอโรพาร์ท ที่เน้นความลู่ลมของเหลี่ยมมุมมาทำให้ตัวถังดูกว้าง
และล้างภาพพจน์ที่ดูด้อยของรถครอสส์คันทรีขนาดเล็กออกไป เมื่อลองเข้าไปนั่งก็เห็นถึงแผนการสลัดทิ้งฐานะเดิมที่นับว่า "ด้อยกว่ารถขนาดกลางไปหน่อย"ได้จากแผงอุปกรณ์ภายในที่มีการทำให้ดูหรูไม่ต่างจากของเหล่าคู่แข่งในกลุ่มรถขนาดกลางและอย่างน้อย ทัศนวิสัยจากที่นั่งคนขับ ก็ทำให้กล่าวได้ว่า ต่างไปอย่างเห็นได้ชัดจาก เอสกูโดที่เคยมีมา
ไม่หลุดเรื่องความหรูหรา
และไม่มีข้อติเรื่องสมรรถนะในการขับขี่
เมื่อบิดกุญแจสตาร์ทเครื่อง เข็มของมาตรวัดที่มืดสนิทจะสว่างแดงขึ้นเป็นอันดับแรก แล้วอักษรต่างๆจะดูลอยขึ้นมาเป็นสีขาวทันที เป็นการแสดงที่โดนใจเจ้าของรถ
เนื่องจากสีสันของการตกแต่งภายในออกไปในโทนสว่าง จึงยากที่จะกล่าวว่า ดูหรูอย่างเท่ทันสมัยแต่ด้านความสะดวกในการใช้งานขณะขับขี่ไม่มีที่ติ
ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ติดตั้งเครื่องเสียงที่อยู่ในตำแหน่งดีที่สุดสำหรับการติดตั้งเครื่องนำร่องหรือพื้นที่เก็บของที่มีประสิทธิภาพก็ดี นอกจากนี้ ตัวปรับอากาศก็เป็นแบบสวิทช์วงกลมเรียงกันสามวงทำให้ควบคุมได้ดีขึ้นมาก ส่วนความคิดในการทำฝาของคอนโซลบอกซ์ให้เป็นที่เท้าแขนและที่วางแก้วสำหรับที่นั่งแถวหลังก็น่าสนใจทีเดียว
เครื่องยนต์เบนซิน วี 6 DOHC 2.7 ลิตร แม้จะมีข้อมูลจำเพาะที่ไม่ถึงกับน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษแต่ก็มีการเตรียมกำลังและแรงบิดไว้ให้มากพอที่จะขับเคลื่อน แกรนด์ เอสกูโด น้ำหนักเบาในฐานะของรถขนาดกลางที่บรรทุกผู้โดยสาร 7 คนไปได้อย่างสบายและเนื่องจากเสียงของเครื่องยนต์เองไม่เบาเลยจึงต้องมีคุณสมบัติพิเศษในการกันเสียงและแรงสะเทือน โดยอาศัยโครงสร้างแชสซีส์ที่สมกับความเป็นรถหรู
ความแข็งแกร่งในตัวถังของ แกรนด์ เอสกูโด อยู่ในระดับสูงมาก เมื่อวิ่งบนทางด่วนมันแสดงให้เห็นจากเสถียรภาพในการวิ่งทางตรงอย่างมั่นคง
และรู้สึกได้โดยตรงถึงอาการที่เกิดขึ้นเมื่อเลี้ยวโค้งด้วย ส่วนช่วงล่างนั้น
ก็นับว่ามีการปรุงแต่งที่แยบยลให้ได้ทั้งความสบายและเสถียรภาพในการขับขี่
เสริมกำลังสำหรับสู้คู่แข่ง
ตัวรถปรับใหม่ บรรทุกผู้โดยสารได้ 7 คน
เอสกูโด ที่มีฐานล้อยาว 2,800 มม. ให้พื้นที่ว่างอย่างกว้างขวางแม้กับผู้โดยสารบนที่นั่งตั้งแต่แถวสองลงไปและมีการลดระดับพื้นรถให้ต่ำทีเดียวสำหรับตัวถังที่ติดกับเฟรมจึงมีที่ว่างพอในบริเวณที่วางเท้าและเหนือศีรษะ นอกจากนี้ที่นั่งแถวสองยังแยกกันเลื่อนส่วนซ้าย/ขวาได้ด้วยจึงสามารถปรับใช้พื้นที่ได้อย่างเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร
ส่วนห้องบรรทุกสัมภาระ มีโครงสร้างที่เชื่อมต่อเป็นพื้นราบได้ เมื่อเอนพนักของที่นั่งแถวสามลงแม้วิธีการพับที่นั่งจะเป็นแบบง่ายๆแต่ก็เป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการใช้ประโยชน์ห้องบรรทุกสัมภาระอย่างมีประสิทธิภาพ
ในที่สุด เอสกูโด ที่วิ่งบนทางเรียบได้อย่างมั่นคง และมีสมรรถนะในการวิ่งทางวิบากสูงพอควรอีกทั้งมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและมีการใช้งานภายในรถที่สะดวกสบายก็ได้รับการตกแต่งภายในอย่างหรูหรา สมกับความเป็นรถขนาดกลาง นับแต่นี้ไปมันก็น่าจะอยู่ในสภาพที่มีเสน่ห์พอควรแก่การพิจารณาเลือกซื้อมิใช่หรือ ?
[table]
ข้อมูลจำเพาะ
ซูซูกิ แกรนด์ เอสกูโด เอฟไอเอส ฟรีสไตล์ ลิมิเทด
มิติ และน้ำหนัก
ย/ก/ส (มม.), 4640/1780/1740
ความยาวฐานล้อ (มม.), 2800
ความกว้างฐานล้อ (หน้า/หลัง) (มม.), 1500/1500
ความสูงท้องรถ (มม.), 185
น้ำหนักรถ (กก.), 1640
ขนาดยางรถยนต์ ,235/60R16
เครื่องยนต์
ชนิด เบนซิน 6 สูบเรียง DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ความจุ (ซีซี) ,2736
กำลังสูงสุด (พีเอส/รตน.), 177/6000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) ,24.7/4000
ระบบถ่ายทอดกำลัง, ควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์
เกียร์,อัตโนมัติ เดินหน้า 4 จังหวะ
ระบบรองรับ
หน้า, สตรัท-คอยล์สปริง
หลัง ,คานแข็ง เหล็กยึด 5 จุด และคอยล์สปริง
ระบบห้ามล้อ
หน้า, จาน พร้อมช่องระบายความร้อน
หลัง, ดุม
[/table]
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2546
คอลัมน์ Online : รถใหม่ 4x4 (4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/55843