บิวอิค ซองตีม

ใครที่ติดตามข่าวคราวของงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ คงทราบกันดีว่า รถแนวคิดประเภทขับเคลื่อนสี่ล้อที่นำมาอวดโฉมในงาน เป็นรถเอสยูวีที่กลายพันธุ์จนอาจเรียกได้ว่าเป็นรถครอสส์โอเวอร์ เสียส่วนใหญ่ คล้ายเป็นการบอกว่า บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ รู้ถึงอนาคตของเอสยูวีที่ใกล้จะถึงจุดอิ่มตัว เพราะตลาดกลุ่มนี้ มีการแข่งขันกันสูงมากจนแต่ละค่ายต้องพยายามรวบรวมเอาข้อดีของรถทุกชนิด มาไว้ในเอสยูวีของตนเองให้มากที่สุด บิวอิค "ซองตีม" (CENTIEME) ผสานความเป็นแวกอน เข้ากับเอสยูวี แล้วนำเครื่องยนต์ วี 6ที่ให้พลังสูงถึง 400 แรงม้า มาทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ เวอร์ซาทเรค (VERSATREK)ต่อด้วยการนำความหรูหราของห้องโดยสารในรถเก๋ง มาผนวกกับความกว้างขวางขนาด 6 ที่นั่งผลที่ได้ก็คือ รถที่ไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น ถนนในเมืองหลวง ใช้ความเร็วสูงบนถนนนอกเมืองขับขี่บนทางทุรกันดาร หรือแม้แต่เข้าไปลุยป่า (ที่เส้นทางไม่โหดนัก !) แนวคิดของทีมออกแบบก็คือ ต้องการให้ ซองตีม สะท้อนภาพลักษณ์ 2 ด้านในเวลาเดียวกันด้านหนึ่งก็คือ การสนองตอบความต้องการของผู้ใช้รถได้อย่างดี และผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากรถคันนี้ได้เต็มที่ เห็นได้จากขนาดตัวถังและห้องโดยสารที่กว้างใหญ่พร้อมบรรจุอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเข้าไปอย่างครบครัน อีกด้านหนึ่ง คือภาพลักษณ์ที่บ่งบอกชัดเจนว่า รถคันนี้มีสมรรถนะที่เยี่ยมยอด ทั้งยังหรูหราและมีรสนิยมซึ่งภาพลักษณ์ทั้งหมดนี้ จะเป็นแม่แบบของแนวคิด ที่ บิวอิค จะใช้ในการผลิตรถรุ่นต่อๆ ไป จากการนำข้อดีของรถหลายๆ ประเภท มารวมไว้ในคันเดียว ทำให้ข้อด้อยต่างๆ ลดน้อยลงจนแทบมองไม่เห็น แต่เรื่องราคาก็เป็นข้อจำกัด เนื่องจากรถกลุ่มนี้ มักอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์คุณภาพดี คงยากที่จะบีบราคาให้เป็นที่พอใจแก่ผู้มีรายได้ปานกลางในขณะที่ผู้มีรายได้สูง ก็หันไปมองรถยนต์นั่งพันธุ์หรูเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นถ้าหวังจะขายให้ได้ปริมาณมากๆ คงต้องนอนคิดหลายตลบว่า จะวางแผนทางการตลาดอย่างไร