ผลทดสอบต่างแดน
โฟล์คสวาเกน ตูอเรก
ตูอเรก (TOUAREG) อีกหนึ่งความหรูหรา ที่ลุยได้จากค่าย โฟล์คสวาเกน หลังจากเปิดตัว เฟทัน(PHAETON) สุดยอดซีดานหรูรุ่นใหญ่ และเพื่อเป็นการตอกย้ำว่า โฟล์คสวาเกน คือแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ระดับหรูหรา เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีในทุกๆ ด้าน ตูอเรก เอสยูวีซึ่งถูกเปิดตัวในสเปน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พร้อมๆ กับเปิดโอกาสให้นักทดสอบจากทั่วโลกได้มีโอกาสสัมผัสความเยี่ยมยอดของเทคโนโลยีจากสุดยอดเอสยูวี สายพันธุ์เยอรมัน รุ่นใหม่เอี่ยมคันนี้
โฟล์คสวาเกน ตูอเรก เปิดตัวในเยอรมนี เมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกสองแบบ คือเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 3.2 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ วี 10 5.0 ลิตร
สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน 3.2 ลิตร วี 6 เป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดกะทัดรัด ไม่กินเนื้อที่มากมีมุมองศาของกระบอกสูบเพียง 15 องศา ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ทีดีไอ 5.0 ลิตร วี 10ใช้เทอร์โบสองตัวสำหรับการอัดกระแสไอดี และใช้หัวฉีดแรงสูง ทำให้ได้กำลังสูงสุดถึง 313 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 76.5 กก.-ม.
ในอนาคต คาดว่าจะเพิ่มแบบเครื่องยนต์อีกสองเครื่อง โดยมีเครื่องยนต์ดีเซล ทีดีไอ 5 สูบ 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า และมีแรงบิด 40.8 กก.-ม. และอีกเครื่องหนึ่งคือ เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ4.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 310 แรงม้า และแรงบิด 41.8 กก.-ม.
ระบบรองรับ และห้ามล้อ
ระบบห้ามล้อ สำหรับทั้งสองระดับเครื่องยนต์ ใช้เบรคแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อนทั้งในล้อหน้า และหลัง
การปรับระดับความห่างใต้ท้อง ***ขอจัดเรียงใหม่ตามลำดับของภาพ ไม่ใช่ข้อความ
- ใช้บนทางเรียบ ความเร็วต่ำกว่า 80 กม./ชม. ระยะห่างใต้ท้อง 215 มม.
- ใช้ความเร็วระหว่าง 125-180 กม./ชม. ระยะห่างใต้ท้อง 190 มม.
- ใช้ความเร็วเกินกว่า 180 กม./ชม. ระยะห่างใต้ท้อง 180 มม.
- ใช้ความเร็วต่ำกว่า 5 กม./ชม. ระยะห่างใต้ท้อง 160 มม.
- ในเส้นทางวิบาก ความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม. ระยะห่างใต้ท้อง 240 มม.
- ปรับด้วยคนขับในเส้นทางวิบาก ระยะห่างใต้ท้อง 300 มม.
ระบบรองรับอิสระ
ปรับความสูงได้
ระบบรองรับของ ตูอเรก ใช้ปีกนกคู่ทั้งในด้านหน้า และหลัง แต่สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ วี 6ใช้ระบบรองรับแบบคอยล์สปริง ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ทีดีไอ วี 10 ใช้แบบถุงลม
ระบบรองรับแบบถุงลม ใช้ CDC (CONTINUOUS DUMPING CONTROL) ในการควบคุมมีการตรวจสอบความสูงด้วยเซนเซอร์ถึง 4 จุด โดยทำการปรับระดับห่างใต้ท้องได้ถึง 4 ระดับตั้งแต่ความสูง 180-240 มม. และคนขับสามารถใช้ระบบธรรมดา ในการปรับระดับความสูงตั้งแต่ 160-300 มม. เพื่อสมรรถนะสูงสุดสำหรับการลุยในเส้นทางวิบาก
ระบบห้ามล้อของ ตูอเรก เป็นแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อน ทั้งในล้อหน้า และหลัง นอกจากนั้นยังมีระบบช่วยการขับในเส้นทางวิบาก ในรุ่นเครื่องยนต์ วี 6 ระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะได้รับการติดตั้งระบบ HILL STARTING ASSISTANT SYSTEM และ DOWNHILL ASSISTANTSYSTEM เพื่อให้การขับขึ้นหรือลงเนินเขาที่มีความชันสูงเป็นไปด้วยความปลอดภัยสมรรถนะในเส้นทางวิบากที่น่าประทับใจ
เมื่อแรกสัมผัส ตูอเรก ซึ่งจอดรออยู่ที่สนามบินบาเซโลนา ในสเปน สิ่งแรกที่อยากรู้คือ
สมรรถนะในเส้นทางวิบาก สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วออกเดินทางเป็นระยะทางกว่า 200 กม.บนไฮเวย์ชั้นยอดซึ่งได้มีโอกาสสัมผัสกับสมรรถนะบนไฮเวย์ พวงมาลัยของ ตูอเรก เบาและควบคุมง่าย ตัวถังที่มั่นคงแข็งแรงให้ความรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทางระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะทำงานด้วยความนุ่มนวล และต่อเนื่องจนแทบไม่รู้สึกถึงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ไม่ว่าจะชิฟท์ขึ้น หรือลง
การทรงตัวมั่นคงมาก ด้วยน้ำหนักตัวถึง 2,229 กก. ของรุ่นเครื่องยนต์ วี 6 ให้การขับขี่ด้วยความรู้สึกนิ่งและแนบแน่นกับพื้นถนน ไม่ว่าจะเป็นทางลาดชัน หรือมีกระแสลมกระโชกไม่ทำให้เกิดปัญหาในการขับขี่เลย
เหนือความคาดหมายคือ รุ่นดีเซลเทอร์โบ ทีดีไอ วี 10 เครื่องยนต์มีการตอบสนองดีมาก ให้แรงบิด76.5 กก.-ม. ที่รอบเพียง 2,000 รตน. มีการตอบสนองการขับขี่อย่างนุ่มนวล และเต็มไปด้วยพละกำลังทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน
สมรรถนะบนเส้นทางวิบากของ ตูอเรก จัดว่าสมบูรณ์แบบ แม้จะมีระบบรองรับแบบปีกนกคู่ซึ่งมีช่วงยืดตัวน้อยมาก ทำให้เกิดอาการล้อแขวนในขณะลุยบ่อยครั้ง
แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคเพราะด้วยความช่วยเหลือจากระบบ ESP (ELECTRONIC STABILITY PROGRAM) ที่ช่วยลดอาการหมุนฟรีของล้อที่สูญเสียแรงยึดเกาะ และจ่ายกำลังขับเคลื่อนไปสู่ล้ออื่นๆทันที นอกจากนั้นยังมีระบบ DOWNHILL ASSISTANT SYSTEMช่วยสร้างความมั่นใจให้กับการเคลื่อนตัวลงจากเนินชันได้อย่างสบาย
ตูอเรก ถือว่าเป็นแบบอย่างของเอสยูวี ยุคใหม่ ด้วยสมรรถนะการลุย รูปทรงภายนอก
รวมไปถึงการตกแต่งภายในที่มีการเลือกใช้อุปกรณ์ในระดับเดียวกับรถซีดานหรู
ชื่อเสียงของ โฟล์คสวาเกน เป็นที่ยอมรับในเรื่องของความเป็นรถตลาดที่ได้รับความนิยมด้วยยอดขายจำนวนมากดังที่ประสบผลสำเร็จกับ กอล์ฟ และบีเทิล แตกต่างจาก ค่ายเมร์เซเดส-เบนซ์ที่มีชื่อด้านความหรูหรา แม้แต่ A160 ที่เป็นรถรุ่นประหยัด ก็ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นมินิแวนที่หรูหราไม่น้อย
การพลิกกลยุทธ์ของค่าย โฟล์คสวาเกนเพื่อเปลี่ยนภาพพจน์บริษัทให้เป็นผู้ผลิตสุดยอดยนตรกรรมระดับหรู ด้วยการผลิตรถยนต์ราคาสูง ซึ่งตูอเรก สามารถทำได้สำเร็จพร้อมกับยอมรับว่าเป็นผู้ปฏิวัติแนวทางของเอสยูวี แห่งยุคปัจจุบัน
เรื่องโดย : อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2546
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบต่างแดน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/55820