สัมภาษณ์พิเศษ(4wheels)
กิตติ นครชัย
เบนดิกซ์ เป็นผ้าเบรคที่มีชื่อเสียงรู้จักกันทั่วโลกมีการพัฒนาคุณภาพของสินค้ารวมถึงการขยายกลุ่มและประเภทของสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อผู้ใช้รถ ที่คำนึงถึงชีวิตและความปลอดภัย เป็นหลัก
"4 WHEELS" สัมภาษณ์พิเศษ กิตติ นครชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบนดิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ถึงความสำเร็จนโยบาย และแผนการตลาดของ เบนดิกซ์ ในประเทศไทย
4 WHEELS : เริ่มมาทำงานที่บริษัท เบนดิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้อย่างไร ?
กิตติ : หลังจากจบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ที่เมืองไทย และปริญญาโทที่ประเทศ สหรัฐอเมริกาก็มีโอกาสเข้าทำงานที่โรงงาน โตโยตา อเมริกา ในส่วนของพัฒนาคุณภาพรถยนต์ ชิ้นส่วน และผู้ผลิตชิ้นส่วนทำให้เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้รถยนต์ดี ทำอย่างไรชิ้นส่วนถึงจะดี รวมถึงโรงงานประเภทไหนที่จะผลิตชิ้นส่วนที่ดีได้
ต่อมาก็มีเวลาช่วงสั้นๆ อยู่กับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนในเมืองไทย ซึ่งเป็นบริษัทจากอเมริกาผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์หายากเพื่อส่งไปอเมริกา สำหรับรถยุค 50 และยุค 60 เท่านั้นลูกค้าให้การตอบรับดีมาก
จากนั้นจึงก้าวเข้ามาทำงานที่ เบนดิกซ์ ประเทศไทย โดยการแนะนำของบริษัทนายหน้า เริ่มเข้ามาทำงานให้กับเบนดิกซ์ อย่างเต็มตัว และได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมทางด้านการตลาดเสริมที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีโอกาสได้เข้าอบรมวิชาการตลาดของ เบนดิกซ์ โดยเฉพาะที่ประเทศ ออสเตรเลีย ตอนนี้ทำงานให้ เบนดิกซ์ มาได้ 3ปี รับผิดชอบทางด้านการตลาด และคลังสินค้า
4 WHEELS : สินค้าหลักที่ เบนดิกซ์ ทำอยู่ตอนนี้มีอะไรบ้าง ?
กิตติ : เรามีผ้าดิสค์เบรคหน้า/หลัง ดรัมเบรค น้ำมันเบรค ผ้าเบรคม้วน ชุดซ่อมเบรค ผ้าเบรครถบรรทุกสำหรับผ้าดิสค์เบรคเราแบ่งเป็น 5 เกรด คือ
1. เกรดสำหรับรถทั่วไป หรือ สแตนดาร์ด
2. เกรดเมทัลคิง โกลด์
3. เกรดยูโร แพค สำหรับรถยุโรปโดยเฉพาะ
4. เกรดอัลทิเมท สำหรับรถประสิทธิภาพสูง หรือรถแข่ง
5. เกรดสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่เพิ่งวางจำหน่าย
4 WHEELS : ภาพลักษณ์ของ เบนดิกซ์ ในเมืองไทยเป็นอย่างไร ?
กิตติ : เราเป็นผู้นำในตลาดสินค้าประเภทนี้อยู่แล้ว ปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูงคู่แข่งพยายามที่จะแย่งตลาดของเราไปโดยการลดแลกแจกแถม แต่เราไม่ได้ลงไปแข่งขันในลักษณะนั้นเราจะโพรโมทสินค้าให้ลูกค้าเห็นถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เราคิดว่าความปลอดภัยมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้นสังคมไทยยังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับระบบมาตรฐานของรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันนี้พัฒนาขึ้นมากมีกฎเกณฑ์และขั้นตอนค่อนข้างเยอะ ช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ใช้รถยนต์ดีขึ้น เบนดิกซ์พยายามส่งเสริมให้ลูกค้าเข้าใจว่าการใช้ผ้าเบรคที่มีคุณภาพ หมายถึงความปลอดภัยของตนเอง คนรอบข้าง สังคมรถยนต์ และเศรษฐกิจ
4 WHEELS : สินค้าใหม่ๆ ของ เบนดิกซ์ มีอะไรบ้าง ?
กิตติ : เรากำลังจะมีผลิตภัณฑ์ผ้าเบรคเกรดใหม่ล่าสุด ใช้ผ้าเบรคเนื้อเดียว กับต่างประเทศสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นรถเอมพีวี เอสยูวีและรถพิคอัพขับเคลื่อนสี่ล้อเหมาะกับรถสมบุกสมบัน ต้องใช้เส้นทางทุรกันดาร ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม
4 WHEELS : นโยบายการตลาดของผ้าเบรค เบนดิกซ์ เป็นอย่างไร มีช่องทางจัดจำหน่ายแบบไหน ?
กิตติ : เบนดิกซ์ เป็นชื่อที่ทุกคนรู้จักค่อนข้างดี เราเพียงแต่รักษาคุณภาพของสินค้าและพัฒนาให้ดีขึ้นขยายชนิดของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น เช่นการเปิดตัวผ้าเบรคสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อออกมาเรามีทีมการตลาดที่ลงไปดูตลาดและสัมผัสกับลูกค้าโดยตรง เรามีคู่ค้าหลักที่มีความสัมพันธ์กันมานานมีตัวแทนที่จะเข้าถึงร้านซ่อมรถหรือร้านเบรค ช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้ได้โดยตรงและรวดเร็ว
4 WHEELS : คุณใช้กลยุทธ์อะไรในการแข่งขันด้านการตลาด และการสร้างชื่อเสียงให้ เบนดิกซ์ ?
กิตติ :ในปีนี้นอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้ามา เราจะขยายกลุ่มของสินค้าออกไป เช่น ผ้าคลัทช์ ชุดซ่อมเบรคจะช่วยเพิ่มปริมาณยอดขายให้กับเราได้ เราเชี่ยวชาญทางด้านระบบเบรค เทคโนโลยีต่างๆ สามารถใช้แบบเดียวกันได้การขยายกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกันจึงไม่ใช่เรื่องยาก และในปีนี้เรายังมีผ้าเบรคสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่รวมถึงผ้าคลัทช์อีกด้วย
4 WHEELS : ผลิตภัณฑ์ เบนดิกซ์ ที่ผลิตในประเทศ มีการส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยหรือเปล่า ?
กิตติ : เราเป็นบริษัทที่ได้รับสิทธิพิเศษของ BOI การส่งออกเป็นหลักหนึ่งของเราอยู่แล้ว เป็นตัวที่สร้างรายได้ให้เราช่วยลดต้นทุนสำหรับสินค้าที่จะผลิตด้วย เราส่งออกจากโรงงานที่ระยอง BOI โซน 3 ไปยังหลายๆ ประเทศในเอเชียเช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน แม้กระทั่ง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์นอกจากนี้เรายังช่วยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้แก่ผู้ผลิต และผู้ประกอบรถยนต์ในประเทศไทย สำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่จะออกมาด้วยเช่นกัน
4 WHEELS : ภาพรวมของตลาดผ้าเบรคในประเทศไทยปีนี้จะเป็นอย่างไร ?
กิตติ : ในปีนี้น่าจะโตขึ้นมาประมาณ 10 % โดยเฉลี่ยรถยนต์ใหม่เริ่มเปลี่ยนผ้าเบรคประมาณ 3 ปีขึ้นไปถ้ามองย้อนกลับไป 3 ปีที่ผ่านมา ช่วงปี 97-98 เศรษฐกิจไม่ค่อยดี รถยนต์ใหม่ออกมาน้อยทำให้อัตราการขยายตัวของผ้าเบรคปีนี้ยังไม่สูงเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นการขยายตัวของรถยนต์ในปีนี้สูงขึ้นประมาณ 15-20% ตามที่สมาคมของผู้ประกอบยานยนต์เขาประมาณการเอาไว้ ยอดขายรถยนต์ในประเทศ อยู่ที่ประมาณ 330,000 คันยอดรถส่งออกอยู่ที่ประมาณ 220,000 คัน รวมแล้วทั้งปีประมาณ 550,000 คันที่จะผลิตในประเทศอีกสามปีข้างหน้าตลาดผ้าเบรคจะโตขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่วนแบ่งของตลาดผ้าเบรคในประเทศไทยเรามีมากกว่า 50 % ตัวเลขจำหน่ายผ้าเบรคมากกว่าอันดับ 2 ประมาณ 5 เท่าตัว
4 WHEELS : อุตสาหกรรมผ้าเบรคเมืองไทย เป็นอย่างไร ?
กิตติ : ตลาดของผ้าเบรคในเมืองไทย เป็นตลาดที่เข้าง่ายและออกง่ายเพราะผ้าเบรคมีเหล็กแผ่นเดียวกับวัสดุเสียดทานหนึ่งอันสามารถนำมาทำเป็นผ้าเบรคติดรถได้แล้วแต่คุณภาพอย่างไรไม่รู้ รูปร่างหน้าตานั้นทำได้ง่าย แต่การนำเสนอลูกค้านั้นไม่ง่าย
ปัจจุบันจึงมีผู้ที่เข้ามาทำผ้าเบรคค่อนข้างเยอะ ขายสินค้าแบบง่ายๆแต่เมื่อถึงระยะหนึ่งแล้วผู้ขายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพก็จะอยู่ไม่ได้เพราะไม่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าผู้ใช้รถทุกวันนี้จะเข้าใจถึงเรื่องคุณภาพของรถ และคุณภาพชีวิตมากขึ้น
4 WHEELS : ปีนี้จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในส่วนไหนอีกบ้าง ?
กิตติ : ในปีนี้เราจะลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยี และสร้างชื่อเสียงให้ผู้ใช้รถได้รู้จักสินค้าของ เบนดิกซ์ เพิ่มมากขึ้นเพิ่มเครื่องมือในการทดสอบประสิทธิภาพของผ้าเบรค ใช้เงินลงทุนส่วนนี้ประมาณ 30 ล้านบาท
4 WHEELS : กิจกรรมอะไรบ้างที่ บริษัท เบนดิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้การส่งเสริมและสนับสนุนอยู่ ?
กิตติ : เราเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านระบบเบรคเพื่อสร้างความปลอดภัยให้รถยนต์และผู้ขับขี่
อย่างหนึ่งที่เรายังไม่ทำและต้องการทำในอนาคตคือ การสนับสนุนโครงการต่างๆ ของเอกชน และหน่วยงานราชการที่รณรงค์ในเรื่องของการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เช่น โครงการเมาไม่ขับ การปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดซึ่งคิดว่าโครงการที่เราจะทำนี้เป็นการขอบคุณและคืนกำไรให้ลูกค้า
4 WHEELS : เบนดิกซ์ ช่วยดูแลและอนุลักษณ์สิ่งแวดล้อมอย่างไร ?
กิตติ : ผลิตภัณฑ์ของเรา ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ในปีนี้เราจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ด้วยเช่นเดียวกับโรงงานของเรา ได้รับประกาศณียบัตรมาตรฐาน ISO14001ในเรื่องของระบบมาตรฐานการควบคุมสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปลายปี 2000 และเรารักษามาอยู่ตลอดมีการตรวจประเมินระบบของโรงงานอย่างสม่ำเสมอ และเป็นนโยบายของบริษัทถ้าอยู่ที่ไหนจะต้องทำให้สถานที่นั้นสะอาดและเป็นสีเขียวอยู่เสมอ
เรื่องโดย : ณัฐเวช ยอดแสง
ภาพโดย : พรชัย บัวทอง
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2545
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/55624