X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รู้ไว้ใช่ว่า
1 Jan 2002
หวังดีได้ผลร้าย
คดีนี้ บริษัทผู้ให้เช่าซื้อรถหวังดีต่อคนที่เช่าซื้อรถบรรทุก เมื่อรู้ว่าโดนตำรวจยึดโดนศาลสั่งริบ จึงพยายาม หาทางให้ผู้เช่าซื้อได้รถคืน แต่ความหวังดี ผสมความขี้เกียจกลายเป็นผลร้าย คนเช่าซื้อเลยซวย รถบรรทุกสิบล้อราคาเป็นล้าน
"นายขยาด"
เป็นคนเช่าซื้อมา ผ่อนส่งหมดเงินไปแล้วกว่า 1.2 ล้านบาท โดนตำรวจซิวเพราะลูกน้องเอาไปบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แล้วไม่เคลียร์ตามระเบียบ นายขยาดไม่นิ่งนอนใจ ไปขอหนังสือมอบอำนาจจากบริษัทไฟแนนศ์ เพื่อนำไปติดต่อขอรถคืนจากตำรวจ บริษัทก็ให้เพราะขี้เกียจไปติดต่อตำรวจ ปรากฏต่อศาลในภายหลัง และทำให้ซวย พอเรื่องถึงอัยการแล้ว เลยไปที่ศาล เพราะอัยการนำตัวโชเฟอร์รถบรรทุกไปฟ้อง และขอให้ริบรถบรรทุก จำเลยคือตัวโชเฟอร์ ก็ให้การรับสารภาพ ศาลเห็นว่ารถคันนี้บรรทุกน้ำหนักเกิน เป็นเหตุให้ถนนชำรุดเสียหาย จึงตัดสินลงโทษคนขับ และลงโทษ เจ้าของรถด้วยการสั่งริบ เมื่อนายขยาดรู้ว่ารถโดนริบก็พยายามหาทางเอาคืน แต่ไปขอคืนด้วยตนเอง ไม่ได้ เนื่องจากยังไม่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของรถเต็มตัว บริษัทไฟแนนศ์ ที่ให้เช่าซื้อคือ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ ต้อง ให้บริษัทไปดำเนินการร้องขอคืนจากศาลจึงจะสำเร็จ ขณะที่ตัวเองยังค้างค่างวดอยู่ตั้ง 7 งวด พอหอบ สังขารไปพูด บริษัทไฟแนนศ์ ก็ได้โอกาสบอกว่า
"คุณขยาดต้องเชคบิลล์จ่ายค่างวดที่ค้างทั้งหมดให้เสร็จก่อน บริษัทจึงจะไปร้องขอรถคืนให้จากศาล"
นายขยาดเห็นว่าลงทุนไปเยอะแล้ว จ่ายไปตั้ง 17 งวดๆ ละ 5 หมื่นกว่าบาท หมดไป 8 แสนกว่าบาท ถ้าปล่อยให้ศาลริบรถก็เสียดายตายชัก แถมยังตัดหนทางหากิน จึงกัดฟันหาเงินมาจ่ายค่างวดที่ค้าง 7 งวด หมดไปเกือบ 4 แสนบาท การจ่ายค่างวดที่ว่านี้ จ่ายภายหลังเมื่อศาลตัดสินให้ริบรถไปแล้ว จุดนี้เป็นจุดตาย หลังจากนั้นบริษัทไฟแนนศ์ ก็นำหลักฐานไปร้องขอคืนรถบรรทุกจากศาล อ้างว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจในการ กระทำความผิด อัยการซึ่งเป็นโจทก์ร้องขอให้ริบรถมาแต่ต้นโดดเข้าขวางลำ ยื่นคำคัดค้าน อ้างว่าเจ้า ของรถรู้เห็นเป็นใจในการทำผิด ขอให้ยกคำร้อง อย่าคืนรถให้ เดี๋ยวไม่เข็ด ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว สั่งยกคำร้องขอรถคืนของบริษัทไฟแนนศ์ บริษัทไฟแนนศ์ ดิ้นรนด้วยการยื่นอุทธรณ์ ยืนยันว่ามีสิทธิขอรถคืน เพราะไม่ได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำ ผิด เอาไปบรรทุกน้ำหนักเกิน มาขอรถคืนโดยสุจริต ศาลอุทธรณ์ พิจารณาแล้วเห็นไปคนละแนวกับศาลชั้นต้น พิพากษากลับ ให้คืนรถบรรทุกสิบล้อแก่เจ้าของ ยังไม่รอดสันดอนง่ายๆ เพราะอัยการโดดเข้าขวางอีกด้วยการยื่นฎีกา แจกแจงรายละเอียดให้ศาลเห็น ว่า บริษัทไฟแนนศ์ ร้องขอรถคืนเพื่อประโยชน์ของนายขยาด มีลักษณะร่วมรู้เห็นเป็นใจในการกระทำ ความผิด ขอให้ริบต่อไป อย่าคืนเป็นอันขาด ศาลฎีกา ชี้ขาดออกมาดังนี้ ได้ความว่าบริษัทไฟแนนศ์ รู้ว่ารถโดนริบเพราะนายขยาดแจ้งให้ทราบ และมาขอหนังสือมอบอำนาจไป ร้องขอคืนรถจากพนักงานสอบสวน เมื่อเดือนสิงหาคม 2540 ไม่ยักบอกเลิกสัญญา ทั้งๆ ที่ในตอนนั้น นายขยาดค้างค่างวดตั้ง 7 งวด ข้อที่บริษัทไฟแนนศ์ อ้างว่า นายขยาดมีประวัติดีจ่ายค่างวดตลอดมา 24 งวด จึงจะให้เช่าซื้อต่อไป แม้จะเกิดเรื่องขึ้น แต่ศาลดูหลักฐานแล้ว พบว่า 7 งวดหลังที่ค้าง นายขยาดเพิ่งจ่ายให้หลังจากศาลสั่ง ริบรถไปแล้ว แสดงว่าบริษัทยังรับชำระค่างวดต่อไป แม้รู้ว่าศาลสั่งริบรถแล้ว ตามพฤติการณ์ศาลเห็นว่า บริษัทร้องขอคืนเพื่อประโยชน์ของนายขยาด ที่จะผ่อนชำระต่อไปและได้รถยนต์ไป มีลักษณะร่วมรู้เห็น เป็นใจในการกระทำความผิดของโชเฟอร์ของนายขยาดผู้เช่าซื้อ จึงไม่มีสิทธิมาร้องขอรถคืน ศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง ยังไงก็ไม่คืนรถให้ ข้อสังเกตในคดีนี้ ซึ่งบริษัทไฟแนนศ์ก็ดี ผู้เช่าซื้อรถก็ดี ต้องจดจำในกรณีที่รถโดนตำรวจยึดไว้ที่โรงพัก และต่อมาศาลสั่งริบคือ บริษัทไฟแนนศ์ ไม่ควรมอบอำนาจให้ผู้เช่าซื้อติดต่อขอรถคืนจากตำรวจ หรือพนักงานสอบสวนเอง ยังไงเสียก็ต้องให้คนของบริษัทไปดำเนินการ
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7186/2543
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/55431
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
รู้ไว้ใช่ว่า
รู้ไว้ใช่ว่า
18 Aug 2015
โทษเบาไปนะ !!!
รู้ไว้ใช่ว่า
17 Jul 2015
เบรคแตก
รู้ไว้ใช่ว่า
24 Jun 2015
ลืมไม่เข้าคุก !
รู้ไว้ใช่ว่า
19 May 2015
"ไฟไหม้รถ/ค้ายา !"
รู้ไว้ใช่ว่า
20 Apr 2015
"ลูกหลานใช้รถ !"
รู้ไว้ใช่ว่า
16 Mar 2015
"รัดเข็มขัดประหยัดชีวิต"
รู้ไว้ใช่ว่า
18 Feb 2015
"รถมีประกัน...เมา !"
ดูต่อในคอลัมน์ รู้ไว้ใช่ว่า