ใส่สีใส่สัน
นิโคลาส เคจ
วันที่เขียนเรื่องนี้เป็นวาระประจวบเหมาะกับที่พระเอกภาพยนตร์ชื่อดัง-นิโคลาส เคจ เดินทางเข้าเมืองไทย เพื่อโพรโมทภาพยนตร์เกี่ยวกับ 11 กันยาทมิฬ เรื่อง "WORLD TRADE CENTER" ในสหรัฐ ฯ
กิริยาที่แปลกตาคนไทยและแฟนภาพยนตร์ของเขาอย่างหนึ่ง ที่สะดุดตาและสะดุดใจเป็นอันแรกก็คือ การยกมือไหว้ อันเป็นการทักทายแบบคนไทย
นิโคลาส เคจ ทำได้งดงาม และทำให้ผมนึกถึงสุภาพสตรีต่างประเทศ อดีตนางงามจักรวาลนาตาลี เกลโบวา เพราะการกระพุ่มมือไหว้ของเธอก็ตรึงใจไม่แพ้กัน
การเปิดตัวภาพยนตร์ที่เขาเป็นดารานำ มักจะมีอีเวนท์พิเศษด้วยการมีส่วนร่วมแทบทุกครั้งเมื่อตอนเปิดเรื่อง "SNAKE EYES" ในรอบปฐมทัศน์โลก เคจ ก็มาร่วมด้วย และในงานนี้เชอร์รี แลนซิง ผู้บริหารระดับสูงของโรงถ่าย ได้กล่าวถึง เคจ ว่า
"ง่ายมาก สำหรับคำกล่าวว่า อยากให้ภาพยนตร์ทุกๆ เรื่องของเรา แสดงนำโดย นิโคลาส เคจ"
ในวันนี้ เคจ อายุ 43 ปีแล้ว หลังจากเขารับรางวัลตุ๊กตาทองเมื่อปี 1996 จากภาพยนตร์เรื่อง LEAVING LAS VEGAS ชื่อเสียงก็ทะยานติดลมบนด้วยการแสดงนำอีก 2 เรื่องถัดมา อันได้แก่ CON AIR ปี 1997 และ FACE/OFF
ปีต่อมา 1998 เคจ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าแฟนภาพยนตร์ของเขาแผ่ไพศาลในระดับไหน เมื่อภาพยนตร์เรื่อง CITY OF ANGELS เปิดตัวด้วยการทำรายได้ทะลุ 15 ล้านเหรียญในเดือนเมษายน 1998 แล้วก็ทำสถิติเก็บกวาดรายได้ในประเทศมากถึง 78 ล้าน โดยเมื่อรวมทั้งโลกแล้วรายได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มากถึง 210 ล้านเหรียญสรอ.
"SNAKE EYES" เป็นเรื่องถัดมาจาก CITY OF ANGELS และเป็นผลผลิตในปี 1998เช่นเดียวกัน ซึ่งก็น่าสังเกตว่า เคจ สามารถเล่นหนังได้ปีละ 2 เรื่องอย่างเต็มคุณภาพ
ไม่ถึงกับเฟ้อ ทั้งๆ ที่น่าจะเฟ้อ เข้าสูตรเดียวกับพระเอกนางเอกหนังไทย มิตร-เพชราต้องชักรอบเล่นหนังให้เจ้าของหนังไทยเดือนละเป็นสิบๆ เรื่อง
การแสดงภาพยนตร์ของนักแสดง ผมเข้าใจว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ บทบาทเหมาะสมกับเขาหรือหล่อนอย่างไรหรือไม่ มากกว่านักแสดงของฮอลลีวูดรับการแสดงเพราะเห็นแก่เงินซึ่งถ้าเห็นแก่เงิน ผมก็คิดว่าคงไม่ได้เล่นหนังอยู่ดี เพราะไม่มีผู้อำนวยการสร้างคนไหนหน้ามืดไม่ดูความเหมาะสมของนักแสดงที่เข้ามารับบทบาท
ฉะนั้นผมจึงต้องบันทึกว่า ในรอบ 12 เดือน เคจ สามารถมีภาพยนตร์ของเขาออกมาได้ถึง 2 เรื่อง
โดยส่วนตัวผมชอบการแสดงของ เคจ ยิ่งในบทตำรวจ หรือนักสืบส่วนตัว หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบก็ยิ่งชื่นชม "CON AIR" เป็นเรื่องหนึ่ง นอกจากเพลงประกอบภาพยนตร์จะไพเราะแล้ว เนื้อหาของเรื่องก็ตื่นเต้นและชวนติดตาม นับตั้งแต่นาทีซึ่ง เคจ ต้องโทษจำอย่างไม่เป็นธรรม แล้วถูกนำตัวมาร่วมกับนักโทษของรัฐในเครื่องบินลำเดียวกัน
นอกจาก ไซมอน เวสต์ เป็นผู้กำกับการแสดงที่ควรได้รับการยกย่องแล้ว ผมก็ต้องชื่นชมบทภาพยนตร์เช่นเดียวกับบทภาพยนตร์ของเรื่อง FACE/OFF ซึ่งผมต้องขอแสดงความนับถือผู้เขียนบทว่า
"คิดได้อย่างไร ?"
จอห์น วู เป็นผู้กำกับการแสดง เคจ เล่นคู่กับ จอห์น ทราโวลทา ความมีอัจฉริยะในการเขียนบทเริ่มต้นจากการได้ดารานักแสดงในระดับทอพมาถึง 2 คน จะต้องแจกบทอย่างไรเพื่อให้ศักดิ์ศรีของนักแสดงเท่าเทียมกัน และชวนให้น่าติดตามเรื่องโดยไม่รู้เบื่อ
FACE/OFF มี เคจ แสดงเป็นฝ่ายผู้ร้าย และทราโวลทา แสดงเป็นฝ่ายผู้ดี เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ผู้ซึ่งยินยอมพร้อมใจเปลี่ยนหน้าของตัวเองให้เป็นใบหน้าของ เคจ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนคดีสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ แต่แผนนี้กลับสร้างความสนุกสนานและความตื่นเต้นจนจบเรื่อง
จอห์น วู สามารถกำหนดความตื่นเต้นไว้ได้อย่างถูกที่และถูกเวลา ถ้าจะให้ผมนึกถึงอดีตผู้กำกับการแสดงในอดีตอีกคนหนึ่ง ผมก็นึกถึงได้คนเดียวที่ละม้ายสไตล์ จอห์น วู คนนั้นก็คืออัลฟเรด ฮิทช์คอกซ์ ราชาแห่งหนังเขย่าขวัญ
และถ้าจะต้องตำหนิอยู่บ้างก็คือ หนังควรจบได้ตั้งนานแต่จบไม่ลง แล้วก็เป็นการจบแบบน้ำเน่าปลาตาย ไม่มีอะไรพลิกสมกับที่เรื่องราวพลิกมาแต่ต้น
"WORLD TRADE CENTER" คือ ภาพยนตร์ที่ เคจ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อการเปิดตัวภาพยนตร์ ผมยังไม่ได้ชมเรื่องนี้ครับ
นอกจากจะมาเปิดหนังแล้ว ผมก็ได้ยินว่า เคจ มีภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่ง และจะเข้ามาถ่ายทำในเมืองไทย และดูเหมือนจะร่วมแสดงกับพระเอก ชาคริต ของเราด้วย
เมืองไทยมีนักสร้างภาพยนตร์จากฮอลลีวูดเข้ามาถ่ายทำแล้วหลายเรื่อง รวมทั้งภาพยนตร์ดังที่สุดของโลกอย่างชุด เจมส์ บอนด์ 007 รุ่น โรเจอร์ มัวร์ เป็นพระเอกนักสืบชาวอังกฤษซึ่งก็หมายถึงว่า ไทยได้รับความรู้เกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์และเทคนิคบางประการอันเป็นผลดีกับการสร้างภาพยนตร์ไทย
ผลผลิตในรูปแบบภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศไทยย่อมส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวแห่งชาติโดยตรงประโยชน์จากสิ่งนี้รัฐที่เกี่ยวข้องกับการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศจึงควรให้ความสนใจ และมีการผ่อนปรนมาตรการบางสิ่งบางอย่างตามสมควร แบบประเทศชาติไม่เสียหาย
เรื่องโดย : จอสยาม
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/55134