ใส่สีใส่สัน
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
ภาพยนตร์โคลัมเบียเรื่อง "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" เข้ามาฉายในเมืองไทย ได้รับความสนใจจากคนไทยมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นหนังดังฮอลลีวูดที่มีสาวไทยร่วมแสดงด้วยถึง 4 คน
"สะพานข้ามแม่น้ำแคว" (THE BRIDGE ON THE RIVER KWAI) ได้รับตุ๊กตาทองประจำ ปี 1957 สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และอีก 6 สาขา รวมทั้งผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม คือเดวิด ลีน และพระเอกยอดเยี่ยมคือ อเลค กินเนสส์ ผู้รับบทผู้พันนิโคลสันแห่งกองทัพอังกฤษ
ในปีเดียวกันยังมีหนังอีกเรื่อง "ซาโยนาระ" (SAYONARA) ก็ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองในสาขานางเอกยอดเยี่ยม คือ มิโยชิ อูเมกิ และเรด บัททอนส์ ได้ผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยมผมจะได้พูดถึงหนังเรื่องนี้ต่อไปในโอกาสหน้า เพราะเป็นหนังที่ผมและเพื่อนสั่งมาฉายแบบ รี-รัน และสามารถทำเงินได้มากมายที่โรงภาพยนตร์โคลีเซี่ยม
นักแสดงสาวไทยทั้งสี่คนล้วนเป็นนักแสดงสำคัญของไทยทั้งสิ้น คือ คุณวิไลวรรณวัฒนพานิช ถ้าได้ดูเธอในภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเห็นชัดเจนว่าหน้าตาคุณมาช่าละม้ายคล้ายคลึงไปทางคุณวิไลวรรณเป็นอย่างมาก คุณงามตา ศุภพงษ์, คุณกรรณิการ์ ดาวคลี่ และคุณ
เยาวนารถ ปัญญะโชติ สวยๆ ทั้งนั้น
บทบาทของสาวไทยทั้งสี่ไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะเป็นแค่ลูกหาบเดินตามดาราฮอลลีวูดได้พูดภาษาไทยบ้างนิดหน่อยเพื่อให้เรื่องนี้จริงจังมากขึ้น
สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสะพานรถไฟเพื่อให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของญี่ปุ่นในมหาสงครามเอเชียบูรพา โดยกองทัพของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นต้องการวางรางรถไฟสายมรณะจากสิงคโปร์ ผ่านกรุงเทพ ฯ ออกเมืองกาญจน์ ขึ้นไปถึงร่างกุ้ง
เพื่อเข้าถึงอินเดีย
สะพานนี้กลายเป็นสะพานแห่งประวัติศาสตร์ เพราะญี่ปุ่นใช้กำลังคนเป็นจำนวนมากกำลังคนทั้งหมดนี้ก็เป็นเชลยศึกรวมนานาชาติหลายภาษา และงานครั้งนี้ก็ทำให้เชลยศึกถึงแก่กรรมไปมิใช่น้อย ดังจะเห็นได้จากอนุสรณ์สถานที่ปรากฏในจังหวัดกาญจนบุรีทุกวันนี้
แซม สปีเกล เป็นผู้อำนวยการสร้าง หลังจากที่เขาสร้างชื่อเสียงและความนิยมมาจากเรื่อง "วายร้ายท่าเรือ" (ON THE WATERFRONT) บทประพันธ์เรื่องนี้เป็นของ ปิแอร์ บูลล์ ชาวฝรั่งเศส ใช้เงินลงทุนไปดูเหมือนจะอยู่ที่สามล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ฯ
ฉากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมจำได้แม้กระทั่งเบื้องหลังการถ่ายทำก็คือ ฉากสะพานข้ามแม่น้ำแควตอนที่ต้องระเบิดทำลายขบวนรถไฟตกลงสู่ก้นแม่น้ำแคว ผมจำได้ว่ากองถ่ายต้องใช้กล้องถ่ายทำฉากนี้หลายกล้อง หลายมุมมอง เมื่อบันทึกภาพเสร็จแล้ว ยังแยกเครื่องบินส่งไปทำต่อที่โรงถ่ายในเมืองอังกฤษ เพื่อป้องกันหากมีอุบัติเหตุเครื่องบินเครื่องใดเครื่องหนึ่งมีอันเป็นไป และบินไม่ถึงจุดหมายปลายทาง
นักแสดงที่ผมชอบมากก็คือ อเลค กินเนสส์ ผู้แสดงเป็นผู้พันนิโคลสัน แสดงได้ยอดเยี่ยมมากๆ เลยสมกับที่เขาได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง เริ่มแต่การเปิดตัวเขานำหน้าทหารอังกฤษเข้าค่ายเชลยศึก พร้อมด้วยเพลงมาร์ช การเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างเขา กับพันตรีไซโตะแสดงโดย เซซูเอะ ฮายากาวา การเอาชนะนายทหารญี่ปุ่นผู้บัญชาการค่ายด้วยบุคลิกที่โดดเด่น ยึดมั่นในหลักการของผู้พันนิโคลสัน จนถึงฉากจบ คำพูดของเขาที่พูดกับตัวเองก่อนล้มลงไปทับเครื่องกดระเบิดก็คือ
"นี่กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย ?"
เนื้อหาของเรื่องเขียนได้สั้นมาก เป็นภาระของไซโตะต้องทำสะพานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 12 พฤษภาคม 1943 ซึ่งในที่สุดก็สำเร็จลงเพราะผู้พันนิโคลสัน ส่วน วิลเลียม โฮลเดน แสดงเป็นทหารอเมริกันเชียร์ส หลบหนีไปได้แต่ก็ต้องหวนกลับมาอีกกับ แจค ฮอว์กินส์เพื่อระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำแคว
หลังสะพานระเบิดพินาศแล้ว คนที่เด่นกลับเป็น เจมส์ โดนัลด์ ผู้แสดงเป็น พันตรีคลิพทันเขามองดูความหายนะของสะพาน และการล้มตายของทหาร พร้อมกับร้องออกมาว่า "MADNESS
MADNESS."
วิลเลียม โฮลเดน เล่นบททหารอเมริกันผู้หิวโหยความรัก แต่ก็เข้าถึงอุดมการณ์ของชีวิตบนหลักการที่ว่า รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี แต่พร้อมที่จะใส่อารมณ์กับผู้กองวอร์เดน (แจค ฮอว์กินส์) หัวหน้าหน่วยคอมมานโด
ผู้เขียนบทภาพยนตร์คนหนึ่งในเรื่องนี้ คือ คาร์ล โฟร์แมนเป็นคนเขียนบทที่ผมนับถือและติดตามงานของเขาต่อมา และ 1 รางวัลออสการ์ของ "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" ก็คือรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
เดวิด ลีน กลายเป็นผู้กำกับการแสดงยิ่งใหญ่ต่อจากเรื่องนี้ และสร้างผลงานตามมาอีกหลายเรื่อง ทั้ง ลอว์เรนศ์แห่งอารเบีย, ลูกสาวไรอัน และ ดร. ชิวาโก ส่วนเรื่อง A PASS TO INDIA ซึ่งสร้างในปี 1984 ผมกลับผิดหวัง เพราะผมเห็นว่า เดวิด ลีน ล้วงลูกมากหน้าที่เกินไป ไม่ได้เป็นผู้กำกับการแสดง เพียงฐานะเดียว
ก่อนภาพยนตร์อวสาน เดวิด ลีน เดินเรื่องอย่างตื่นเต้น ระหว่างสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นความคืบหน้าของการสร้างสะพาน อีกด้านหนึ่งเป็นการเดินทางของหน่วยคอมมานโดค่อยๆ สร้างความตื่นเต้นเป็นแบบนาทีต่อนาที จนที่สุดขึ้นถึงไคลแมกซ์ เช้าวันระเบิดสะพานปรากฏสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝัน คือ กระแสน้ำลดลง (หลังกองถ่ายบอกว่า ฉากนี้ต้องกั้นน้ำในแม่น้ำแควเพื่อให้น้ำลด) ซึ่งเป็นผลให้ผู้พันนิโคลสันเห็นสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในแม่น้ำ โยงไปถึงเสาสะพานที่เขาสร้างด้วยความตั้งใจให้เป็นสะพานที่ดีที่สุด
ก่อนลงมือสร้างสะพาน เพื่อนร่วมสงครามบอกนิโคลสันว่า ป่านี้มีไม้เอล์ม-เป็นไม้แบบเดียวกันกับที่สะพานลอนดอนใช้ สามารถทนทานอยู่ได้นานกว่า 600 ปี ยิ่งทำให้นิโคลสันมานะสร้าง แต่ก็ถูกทำลายวินาศ ก็สมแล้วที่พันตรีคลิพทันอุทาน "บ้าชัดๆ"
เรื่องโดย : จอสยาม
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/54618