ลับเฉพาะ
ซับวูเฟอร์อัจฉริยะ
KAPPA PERFECT แจ้งเกิดเข้าสู่วงการเครื่องเสียงรถยนต์ระดับไฮเอนด์ในปี 1998 แต่ INFINITY อ้างว่าเป็นปี 1999 ซึ่งเป็นปีที่ซับวูเฟอร์ KAPPA PERFECT ตัวแรกส่งเข้าสู่ตลาด จุดเด่นของซับวูเฟอร์อยู่ที่มีช่วง LINEAR EXCURSION แบบวันเวย์ที่ยาวที่สุดเท่าที่มีขายในตลาดช่วงเวลานั้น
นอกจากนี้ ซับวูเฟอร์ KAPPA PERFECT ยังมีค่า QTS สูงกว่าวูเฟอร์แบบซีลบอกซ์อื่นๆที่มีขายในตลาดช่วงเวลานั้น ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้กับตู้ซีล และตู้เวนท์ขนาดเล็ก สำหรับรุ่น 12D VQ นี้ถือว่าเป็นซับวูเฟอร์รุ่นล่าสุดของตระกูล PERFECT โครงสร้างของลำโพงเป็นแบบเฟรมหล่อแบบ 4 ก้าน ใช้วอยศ์คอยล์คู่ ตัวซับมีน้ำหนักรวมแล้วประมาณ 22 ปอนด์ตัวเฟรมมีชุดของเวนท์ หรือครีบระบายทั้งหมด 4 ชุด
ข้างใต้สไปเดอร์ จะช่วยให้อากาศไหลผ่านทอพเพลทวอยศ์คอยล์และบริเวณแกพได้เป็นอย่างดี กลไกของการระบายความร้อนนี้ นับว่าเป็นอีกก้าวของการใช้เฟรมในการระบายความร้อน นอกจากตัวเฟรมจะใช้ระบายความร้อนได้แล้ว ยังได้ทำให้ช่วงชักของสไปเดอร์ทางด้านหลังมีระยะเกือบ 1 1/2" นับจากตำแหน่งติดตั้งสไปเดอร์ในตัวไปจนถึงด้านหลังของเฟรม
ระบบมอเตอร์ของซับรุ่นนี้ เป็นจุดที่ดูสวยมาก และได้จดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คำว่า VQย่อมาจาก VARIABLE Q โดยทั่วไปแล้วซับวูเฟอร์ส่วนใหญ่จะมีค่า Q ที่คงที่ (ค่า Q ย่อมาจาก QTS ซึ่งเป็นหน่วยที่ใช้บอกประสิทธิภาพค่าความถี่ต่ำของลำโพง) วิศวกรของ INFINITYได้คิดค้นหาวิธีที่จะทำให้ผู้ใช้งานได้ใช้ประโยชน์จากค่า Q ของซับวูเฟอร์ได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ใช้กับตู้ซีลขนาดเล็กไปจนถึงตู้แบนด์พาสส์ หรือตู้เวนท์ขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ใช้กับอินฟินิทบัฟเฟิล
ทั้งนี้ความสำเร็จทั้งหมดเกิดจาก "ปลอกเหล็ก" (STEEL INSERT) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 1/2" ใช้กลไกแม่เหล็กในการเหนี่ยวนำให้เกิดการเคลื่อนที่ โดยปลอกเหล็กนี้จะสอดเข้าไปในส่วนของโพลบริเวณแบคเพลท ซึ่งเปรียบเหมือนที-โยคที่ต่อยื่นออกไปจากโพลอีก 3 มม.ปลอกเหล็กทั้ง 2 ชิ้นนี้ เป็นตัวทำให้เกิดค่า MID Q และค่า LOW Q โดยจะทำให้ซับวูเฟอร์รุ่นนี้ ปรับค่า Q ได้ถึง 3 ระดับ
ที่ HIGH Q ไม่ต้องอาศัยปลอกเหล็ก โดย HIGH Q มีค่า QTS ประมาณ 0.6 มีแกพ 2 1/2"ทางด้านหลังของวูเฟอร์ ปลอกเหล็ก MID Q มีค่า QTS ในช่วง 0.47 ซี่งสั้นที่สุด มีระยะชักสั้นเพียง 1 7/8" และมีโพลเวนท์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 1/8" สำหรับ LOW Q มีค่า QTS ประมาณ 0.32 โดยต้องติดตั้งปลอกชิ้นใหญ่ก่อน วัดความยาวได้ประมาณ 2 7/8" และมีโพลเวนท์ขนาดเล็กกว่าโดยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 1" เท่านั้น เพราะปลอกเหล็กทั้ง 2 อันนี้ใช้สนามแม่เหล็กในการเหนี่ยวนำให้ชักเข้า/ชักออก จากแบคเพลทมอเตอร์
นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ทาง INFINITY ไม่สามารถทำเครื่องมือสำหรับชักเข้า/ชักออกนี้ได้โดยอัตโนมัติ ต้องอาศัยมือจับสายที่มีปลายติดเข้าไปในรูเล็กๆ 2 รู ในบริเวณฝั่งของโพลเวนท์ ในทางเทคนิคปลอกเหล็กจะมีผลในการวัดค่า QTS ของวูเฟอร์ 2 ประการด้วยกัน
ประการแรกค่า QTS ของซับวูเฟอร์ เป็นฟังค์ชันแรกของความแข็งแรงของมอเตอร์ (มีหน่วยเป็น BI ดูได้ในตารางข้อมูล) มอเตอร์ยิ่งแข็งขึ้นค่า QTS จะยิ่งต่ำลง ปลอก LOW Q มีความยาวมากที่สุดแต่มีเวนท์เล็กที่สุด ดังนั้นจึงต้องอาศัยแรงเหนี่ยวนำจากสนามแม่เหล็กค่อนข้างจะมากเติมใส่ให้กับระบบมอเตอร์
การเพิ่มแรงของสนามแม่เหล็กให้กับแกพวอยศ์คอยล์เปรียบเหมือนถังไนตรัสในรถยนต์เช่นเดียวกันกับปลอกเหล็ก MID Q ที่อาศัยแรงในการเหนี่ยวนำจากสนามแม่เหล็กน้อยกว่าเพราะมีช่วงชักที่สั้นกว่าและมีโพลเวนท์ที่ใหญ่กว่า ดังนั้นจึงมีช่วงเหนี่ยวนำที่น้อยกว่าและมีผลให้ค่า QTS สูงกว่าปลอก LOW Q ที่ HIGH Q จะไม่มีการใช้ปลอกเหล็กใดๆ ซึ่งอาศัยการเหนี่ยวนำจากสนามแม่เหล็กน้อยมากแต่มีค่า QTS สูงกว่าใครๆ
ประการที่ 2 เพราะมีค่าความต้านทานจำนวนมาก จึงเป็นสาเหตุให้ต่อต้านการระบายความร้อนด้วยอากาศออกจากโพล ทำให้ต้องติดตั้งในที่ๆ มีการระบายอากาศได้เป็นอย่างดี กำลังของซับวูเฟอร์รุ่นนี้ เกิดจากแม่เหล็กซ้อน 2 ชั้น ประกบแบบแซนด์วิช ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กขับเคลื่อนวอยศ์คอยล์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 1/8" ตัววอยศ์คอยล์ประกอบไปด้วยม้วนของขดลวดอลูมิเนียมฉาบเส้นลวดทองแดง โดยฟอร์เมอร์เป็นแบบไม่อาศัยสนามแม่เหล็กในการเหนี่ยวนำ วิศวกรของ INFINITY ใช้ซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ในการออกแบบระบบมอเตอร์ ให้มีความสวยงามระดับประติมากรรม
โคนโลหะทำจากอัลลอยแมกนีเซียมที่ทาง INFINITY เรียกว่า M3D หรือ MAGNESIUM METAL MATRIX DIAPHRAGM ซี่งวัสดุที่ใช้ทำนี้มีความเบากว่าโคนอลูมิเนียมถึง 20 เท่า มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ดูดซับความสั่นสะเทือนได้ดีกว่าวัสดุอื่นๆ ดัสต์แคพขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5" ทำจากวัสดุเดียวกันซึ่งเสริมแรงให้กับโคนที่ตำแหน่งมิดพอยท์ ตัวโคนที่โค้งเล็กน้อยนั้นจริงๆ แล้วแข็งมาก สงสัยว่าทำไมริมด้านนอกถึงไม่คว่ำหน้าลง เหมือนกับที่เห็นในโคนอลูมิเนียมทั่วไป แต่คิดว่าน่าจะเป็นผลมาจากคุณภาพ ของส่วนผสมแมกซีเนียมที่ลงตัว ถึงทำให้โค้งได้เช่นนั้น
เซอร์ราวน์ดแบบฉีดหล่อขึ้นรูป ทำจากวัสดุ NITRILE-BUTYLENE-RUBBER ขนาดกว้าง 1" พร้อมทั้งประเก็นติดตั้งทางด้านหน้าในตัวเซอร์ราวน์ด ที่เหลือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7" เป็นส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์ และคอททอน และมีสายวอยศ์คอยล์ทินเซลลีดเชื่อมติดอยู่ทางผิวหน้า แต่ละวอยศ์คอยล์มีขั้วเชื่อมต่อกับขั้วถักสีทอง
ฉบับหน้ามาติดตามกันต่อ ถึงผลการทดสอบในห้องทดลองกับตู้สูตรจริง ว่าเจ้า INFINITY KAPPA PERFECT 12D VQ จะปรับทูนค่า Q มีผลต่อเสียงเบสส์อย่างไร ?
เรื่องโดย : วิโชค
ภาพโดย : อินเตอร์เนท
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : ลับเฉพาะ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/54558