พิเศษ(cso)
ชุดดูหนังในรถ
ฉบับนี้เป็นเรื่องของ "ชุดดูหนังในรถ" หรือระบบคาร์เธียเตอร์ (CAR THEATER) สำหรับชมความบันเทิงในรถยนต์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนี้ ซึ่งทีมงานจะเริ่มต้นกันตั้งแต่ความเป็นมาของระบบเสียงดังกล่าว รวมถึงการเลือกจอทีวี เครื่องเล่น ตัวถอดรหัสระบบเสียงการเลือกเพาเวอร์แอมพ์ เพื่อให้เข้าชุดกับลำโพงทั้งระบบ เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ใช้เป็นแนวทางในการเล่นระบบคาร์เธียเตอร์กันอย่างถูกต้อง
ปัจจุบันระบบเสียงรอบทิศทาง หรือคาร์เธียเตอร์ ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ มีด้วยกัน 2 ระบบ คือ DOLBY DIGITAL และ DTS ซึ่งทั้งสองระบบต่างก็มีหลักการที่เหมือนกันตรงที่แยกสัญญาณเสียงออกเป็น 5.1 แชนแนล สำหรับชมภาพยนตร์ หรือเพื่อการฟังเพลง
วิวัฒนาการ
ของระบบเสียง
ในอดีตระบบเสียงรอบทิศทาง (5.1 แชนแนล) มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดย DOLBY LABORATORIES LICENSING CORPORATION ในช่วงแรกๆ คือ DOLBY STEREO ซึ่งเป็นรากฐานของระบบเสียงรอบทิศทาง ก่อนที่จะมีการปรับปรุง และพัฒนาเป็นระบบต่างๆ เช่น
DOLBY SURROUND PROLOGIC เป็นระบบเสียงที่คิดขึ้นมา เพื่อแก้ไขและเพิ่มเติมความสมบูรณ์ของระบบเสียงในการชมภาพยนตร์ให้สมจริงยิ่งขึ้นระบบนี้จะใช้วิธีผสมข้อมูลของช่องสัญญาณเสียงกลาง (เซนเตอร์) เข้ากับช่องสัญญาณของลำโพงชุดหน้า (ซ้าย/ขวา) สำหรับลำโพงเซอร์ราวน์ด (ลำโพงคู่หลังซ้าย และขวา) เป็นระบบโมโน ซึ่งยังไม่สมบูรณ์มากนัก
DOLBY SURROUND PROLOGIC II เป็นระบบที่พัฒนามาจาก DOLBY SURROUND PROLOGIC โดยใช้การถอดรหัสข้อมูลที่ดีกว่า ทำให้ลำโพงชุดหลัง (ซ้าย/ขวา) มีอิสระในการตอบสนองความถี่ที่ดีขึ้น ทำให้ผู้ฟังรับรู้ถึงตำแหน่งเสียงที่มาจากทิศทางต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น และในกรณีที่ฟังเพลงในระบบสเตริโอ 2 แชนแนลสามารถแปลงสัญญาณเป็นระบบเสียง 5.1 แชนแนล เพื่อความเพลิดเพลินในการฟังระบบเสียงรอบทิศทาง
DOLBY DIGITAL เป็นระบบเสียงเซอร์ราวน์ดมาตรฐาน 5.1 แชนแนล สำหรับการชมภาพยนตร์ในขณะนี้ โดยใช้การเข้ารหัสด้วยระบบดิจิทอลให้กับลำโพงแต่ละตัวเป็นอิสระจากกัน ซึ่งลำโพงในระบบดังกล่าวจะประกอบด้วย ลำโพงชุดหน้า (ซ้าย/ขวา) ลำโพงเซนเตอร์ ลำโพงเซอร์ราวน์ด (หรือชุดหลัง ซ้าย/ขวา) รวม 5 ตัวด้วยกัน เพื่อให้เกิดเสียงรอบทิศทางตามตำแหน่งที่ชัดเจน และเที่ยงตรงมากขึ้น เพื่อความสมจริงในการชมภาพยนตร์ ส่วน .1 นั้นคือ แชนแนลของซับวูเฟอร์ (LOW FREQUENCY EFFECTS)
DTS เป็นระบบเสียงภายใต้เครื่องหมายการค้าของ DIGITAL THEATER SYSTEM,INC. เป็นระบบเสียงคู่แข่งของ DOLBY DIGITAL มีหลักการทำงานที่เหมือนกันคือ แยกสัญญาณเสียงออกเป็น 5.1 แชนแนล แต่จะแตกต่างกันตรงการใส่รหัสข้อมูล และการลดข้อมูลที่ใช้บันทึกเสียง
นอกจากนี้ก็มีระบบอื่นๆ อีกเช่น THX ของ LUCAS FILM เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์ "จอร์จ ลูคัส" เป็นเจ้าของภาพยนตร์ที่โด่งดัง คือ "สตาร์วอร์" ซึ่งระบบนี้จะพบอยู่ในเครื่องถอดรหัสที่ใช้กับเครื่องเสียงบ้านในหลายๆ ยี่ห้อ
จอทีวีมีหลายประเภท
จอทีวีสีหรือทีวีมอนิเตอร์ขนาด 6" ถึง 7" ที่รวมเครื่องเล่นแผ่น DISCS ภาคทูเนอร์ วงจรถอดรหัสระบบเสียง 5.1 แชนแนล ภาคขยาย (ไฮเพาเวอร์) โดยรวมฟังค์ชันการทำงานต่างๆไว้ในเครื่องเดียวกัน เช่นแบบ IN-DASH หรือ POP-UP (1 DIN หรือ 2 DIN) สำหรับติดในช่องคอนโซลหน้ารถ สามารถพบเห็นในเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ในหลายยี่ห้อตอนนี้
จอทีวีสีขนาด 6" ถึง 7" ที่มีทูเนอร์ พร้อมภาคขยายเสียงในตัวแบบ IN-DASH หรือ POP-UP สำหรับติดในช่องคอนโซล ซึ่งเหมาะสำหรับรองรับกับสัญญาณภาพต่างๆ เช่นภาพยนตร์ เกม รายการทีวี ฯลฯ
จอทีวีสีขนาด 7" กับ 8" แบบ ROOF MOUNT ที่มีเครื่องเล่นแผ่น DISCS และทูเนอร์ในตัว บางยี่ห้อมีไฟเก๋ง ซึ่งออกแบบสำหรับติดแขวนหลังคา แต่ไม่มีวงจรถอดรหัสต้องเพิ่มอุปกรณ์ DSP ต่อพ่วงจากภายนอก เพื่อรองรับระบบเสียง 5.1
จอทีวีสีหรือมอนิเตอร์อย่างเดียวแบบ ROOF MOUNT มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 6" ถึง 10" ขึ้นไป ซึ่งเหมาะสำหรับรองรับความบันเทิงด้านภาพยนตร์ เกม รายการทีวี ฯลฯ
นอกจากนี้ก็มีจอทีวีสีแบบ HEADREST สำหรับติดที่หมอนรองศีรษะเบาะนั่งรถยนต์หรือ ON-DASH ติดบนแผงหน้าปัดรถ เท่าที่พบเห็นในตลาดมีตั้งแต่ขนาด 5" ถึง 8" เหมาะสำหรับรองรับกับสัญญาณภาพต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ เกม รายการทีวี ได้เช่นกัน
เลือกจอทีวี
ให้เหมาะสมกับระบบภาพ
จอทีวี หรือทีวี มอนิเตอร์ มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 5" ถึง 10" ขึ้นไป ซึ่งมีหลายยี่ห้อด้วยกันส่วนจะเลือกขนาดเท่าไรถึงจะเหมาะสมนั้น ขึ้นอยู่ที่ความต้องการของท่านนักเล่นเป็นหลัก โดยมีข้อสังเกตว่าควรเลือกจอทีวีที่มีจำนวน PIXELS (เม็ดสี) หรือ RESOLUTION มากที่สุด เพื่อความชัดเจน และรายละเอียดของภาพสูงสุด
นอกจากนี้ จอทีวีควรมีระบบปรับสัดส่วนภาพ (RESPECT RATIO) เช่น 16:9 หรือ 4:3ให้เหมาะสมกับภาพยนตร์ ซึ่งข้อมูลของภาพจะถูกบันทึกไว้ในแผ่น DVD และสามารถรองรับระบบภาพ NTSC หรือ PAL ได้ เพื่อการรับชมภาพระบบนั้นได้ตามปกติ และสัดส่วนของภาพที่ถูกต้อง
เลือกเครื่องเล่น
สำหรับระบบเสียง 5.1
การเล่นระบบคาร์เธียเตอร์ แบบแยกชิ้น ต้องต่อพ่วงอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆเช่น จอทีวีสี เครื่องเล่น เครื่องถอดรหัสระบบเสียง ฯลฯ เข้าด้วยกัน ถึงจะใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการเล่นเครื่องเสียงในลักษณะดังกล่าว ต้องใช้งบประมาณในการลงทุนที่สูงมาก แต่ก็มีนักเล่นจำนวนไม่น้อยที่นิยมการเล่นแบบนี้ โดยมีหลักให้พิจารณาคือควรเป็นยี่ห้อเดียวกัน เนื่องจากอุปกรณ์แต่ละชิ้นทางบริษัทผู้ผลิตได้ออกแบบให้ใช้งานร่วมกันเป็นพิเศษ เพราะมีค่าอิมพีแดนศ์แมทชิงระหว่างอุปกรณ์ที่เหมาะสม
แต่ก็มีนักเล่นหลายท่านที่เล่นระบบคาร์เธียเตอร์ แบบแยกชิ้น โดยใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงในระบบที่ต่างยี่ห้อกัน ก็สามารถนำมาจัดชุดใช้งานร่วมกันได้ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความชำนาญในการจัดชุดของแต่ละคน
เพื่อลดความยุ่งยากในการติดตั้งระบบคาร์เธียเตอร์ แบบแยกชิ้น และการคัดเลือกอุปกรณ์ต่อพ่วงที่มีค่าอิมพีแดนศ์แมทชิงที่เหมาะสม ปัจจุบันมีเครื่องเล่น DVD หลายยี่ห้อที่รวมจอทีวีสี ภาคขยายไฮเพาเวอร์ วงจรถอดรหัสระบบเสียง 5.1 พร้อมสายพรีเอาท์สำหรับต่อกับเพาเวอร์แอมพ์ เพื่อขับลำโพงในระบบ 5.1 แชนแนล จึงเป็นทางเลือกที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
เลือกเพาเวอร์แอมพ์อย่างไร
ถึงจะเหมาะสม
สำหรับนักเล่นที่มีงบประมาณจำกัด สามารถเลือกเพาเวอร์แอมพ์แบบมัลทิแชนแนล ซึ่งสามารถขับลำโพงได้ครบทั้ง 5-6 ตัว เนื่องจากปัจจุบันมีเพาเวอร์แอมพ์ระดับไฮเอนด์หลายยี่ห้อที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อรองรับการเล่นระบบคาร์เธียเตอร์โดยเฉพาะนอกจากจะช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้งแล้ว และช่วยลดงบประมาณในการเล่นเครื่องเสียงได้อีก หรือในกรณีที่นักเล่นมีงบประมาณเพียงพอ สามารถใช้เพาเวอร์แอมพ์หลายตัว เพื่อขับลำโพงในระบบเสียง 5.1 ได้เช่นกัน
ข้อสำคัญอยู่ตรงที่เลือกเพาเวอร์แอมพ์ให้มีกำลังขับที่เหมาะสมกับลำโพงทั้งระบบและลำโพงที่ใช้ควรออกแบบมาเพื่อรองรับกับระบบคาร์เธียเตอร์ได้ด้วย หรือสามารถใช้งานได้ทั้งดูหนัง และฟังเพลง นอกจากนี้ควรเลือกลำโพงที่เป็นยี่ห้อเดียวกัน หรือรุ่นเดียวกัน เพื่อให้น้ำเสียงโดยรวมนั้นเหมือนกัน
ตำแหน่งติดตั้งลำโพง
การติดตั้งลำโพงระบบ 5.1 แชนแนล เพื่อชมภาพยนตร์นั้นแตกต่างกับการฟังเพลงอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากการฟังเพลงจะขึ้นอยู่กับซาวน์ดสเตจทางด้านหน้าเป็นหลักส่วนลำโพงชุดหลังเป็นเพียงเรียร์ฟิลล์ช่วยเสริมบรรยายกาศในการฟังเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันในด้านใช้งาน ก็ยังมีความจำเป็นต้องตรวจเชคเฟสของลำโพงทั้งหมดให้ถูกต้องเช่นกัน ทั้งจากการฟัง หรือใช้เครื่องตรวจเชคเฟส
ในกรณีที่ติดตั้งลำโพงในช่องเดิม เช่น แผงประตูหน้า ส่วนเซนเตอร์อยู่บนหน้าปัดเป็นตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมเท่าไรนัก เพราะจะทำให้เสียงเอฟเฟคท์ของลำโพงด้านหน้ามีซาวน์ดสเตจอยู่ต่ำกว่าเสียง DIALOGUE หรือเสียงสนทนาที่อยู่บนหน้าปัดเนื่องจากลำโพงที่แผงประตูไม่อยู่ในแนวเดียวกับลำโพงเซนเตอร์ ทำให้เสียงเอฟเฟคท์ที่วิ่งจากลำโพงข้างหนึ่งเกิดอาการเลื่อนทางด้าน IMAGE HEIGHT ก่อนที่จะถึงลำโพงอีกข้าง
การติดตั้งลำโพงคู่หน้าที่ตำแหน่ง A-PILLAR หรือ TOP PANEL ส่วนเซนเตอร์อยู่กลางหน้าปัด เป็นตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งลำโพงชุดหน้าทั้ง 3 ตัว เนื่องจากลำโพงซ้าย/ขวา และเซนเตอร์อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับลำโพงชุดหลังสามารถติดตั้งได้ที่แผงเรียร์เดค (รถซีดาน) โดยปรับมุมยิงเสียงและตรวจเชคเฟสให้ถูกต้อง หรือถ้าเป็นที่ C-PILLAR ที่ท้ายรถ ให้พยายามออกแบบติดตั้งโดยวางตำแหน่ง และทิศทางของเสียงไปที่ๆ ไม่มีสิ่งกีดขวาง (หัวหมอนเบาะนั่ง,สะท้อนกระจก) หรือประมาณระดับศีรษะของผู้โดยสาร ซึ่งในบางครั้งจำเป็นต้องทำแบบจำลองสำหรับติดลำโพงขึ้นมาก่อน โดยฟังตรวจสอบทิศทางของเสียงเซอร์ราวน์ดให้ถูกต้องและให้ได้บรรยากาศของเสียงเอฟเฟคท์ที่สมจริง ส่วนซับวูเฟอร์จะติดตั้งตำแหน่งใดก็ได้ตามที่นิยมกัน เช่น ตีตู้ใต้เบาะนั่ง, ตู้ไฟเบอร์ นอกจากนี้ยังต้องตรวจเชคการกลับเฟสและปรับทูนเสียงให้กับลำโพงทั้งระบบด้วยเช่นกัน
ส่งท้าย
บทความพิเศษเรื่อง "ชุดดูหนังในรถ" หรือระบบคาร์เธียเตอร์ ที่ทีมงานได้นำเสนอในครั้งนี้ จึงเหมาะสำหรับท่านที่ต้องการใช้เป็นข้อมูล และทิศทางในการเล่นระบบเสียงได้ถูกต้อง หรือเพื่อใช้เป็นหลักในการตัดสินใจเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆที่เหมาะสม สามารถคำนวณงบประมาณได้โดยไม่บานปลาย และมีประโยชน์กับผู้อ่านที่สนใจไม่มากก็น้อย
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : พิเศษ(cso)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/54494