X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เปิดสวิทซ์ (cso)
1 Oct 2004
เทคนิคเฉพาะ
ถ้าคุณกล่าวถึงการฟังดนตรี คงเป็นเรื่องยาก ที่จะวัดว่าเสียงที่ได้ยินได้ฟังนั้น มีคุณภาพอย่างไร ? เพราะคุณสมบัติของเสียงเป็นพลังงานที่ไม่สามารถจับต้องได้ และแถมยังแยกแยะให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าดี หรือไม่ดีอย่างไร ไม่ได้เลย สำหรับเครื่องมือวัดเสียงที่วิศวกรคิดค้นพัฒนาออกมา วัดได้เพียง ระดับความดัง และความถี่เท่านั้น รวมทั้งทิศทาง และความกว้างของมัน กับเครื่องที่แสดงผลออกมาแบบ 3 มิติ แต่ในด้านมิติความเหมือนของชิ้นดนตรี ความหนา ความกว้าง หรือเนื้อหาของดนตรีที่ออกมานั้นไม่มีเครื่องมือวัดได้ มีแต่อวัยวะที่เรียกว่า "หู" เท่านั้นที่จะจับผิด ซึ่งก็ไม่มีเครื่องมือวัดหูอีกว่าหูไหนฟังแล้วจะจับผิดได้ดีกว่ากัน ดังนั้นจึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เสียงดีเป็นอย่างไร ? สำหรับนักเล่นเครื่องเสียงระดับออดิโอไฟล์และนักดนตรี เป็นผู้ที่มีโอกาสฟังเสียงดีๆ จากเครื่องดนตรีจริง และแผ่นที่บันทึกออกมาดีรวมถึงเครื่องเล่นก็เป็นของดีมีราคาสูง คงพอให้คำตอบได้ เพราะหูคนเรามีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ คือ ฟังแต่เสียงที่ดีขึ้น ไพเราะขึ้น พอมาฟังชุดเครื่องเสียงที่คุณภาพต่ำลงที่มากับแผ่นเดียวกัน ก็จะรู้ทันทีว่า เสียงที่ออกมาแย่ลง แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับเครื่องเสียงบ้านเท่านั้น ส่วนเครื่องเสียงรถยนต์ มีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งตัวสินค้าเอง ที่ต้องออกแบบให้มีขนาดเล็กติดตั้งได้ง่าย ทนต่อการสั่นสะเทือน รวมถึงตำแหน่งการติดตั้ง ที่มีข้อจำกัด และหนักที่สุดก็คือสภาพอคูสติคภายในรถแต่ละคัน ซึ่งชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์ระดับเรือนแสน อาจจะมาตกม้าตายตอนจบ เพราะการติดตั้งที่ไม่ลงตัว "อะไรคือสิ่งที่วัดคุณภาพเสียงในรถ" นี่คือคำถามคาใจของนักเล่นเครื่องเสียงหลายๆ คนเสียงที่จับต้องได้ ก็คือเสียงที่ถูกต้องตามต้นฉบับ และสิ่งเดิมๆ ที่เราเคยทำกันคือ การวัดค่า RTA กับสัญญาณ PINK NOISE คือ เสียงแฟลทตลอดย่านความถี่ 20-20,000 HZ เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดเกือบทุกร้านสามารถทำได้แล้ว แต่ในปัจจุบันตลาดการแข่งขันเครื่องเสียง มีการคิดค้นแผ่นที่จะจับผิดเสียงได้เพราะมีการบันทึกมาเป็นพิเศษ โดยต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญ ฝึกฝนหูให้เคยชินกับแผ่นนี้เป็นอย่างดี ถึงจะวัดเสียงออกมาได้อย่างถูกต้อง สิ่งที่วัดได้มีทั้งความกว้าง ความสูง ความลึก ของเวทีเสียง มิติของเสียง เนื้อหาของชิ้นดนตรี รวมไปถึงความกลมกลืน ซึ่งทำให้เสียงสามารถจับต้องได้และปรับแต่งให้ถูกต้อง และสิ่งเหล่านี้เอง คือเสียงที่ถูกต้องตามต้นฉบับ เป็นเรื่องดีที่สิ่งเหล่านี้ เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการเครื่องเสียงบ้านเรา โดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา อิมพอร์เตอร์หลายๆ ราย ได้จัดสัมมนากันอย่างต่อเนื่อง ให้บรรดาดีเลอร์ร้านติดตั้งทราบถึงประสิทธิภาพของสินค้าที่จำหน่าย ทั้งด้านเทคนิคการปรับทูนเสียงเค้นพลังและฟังค์ชันการทำงานขั้นสูง ในการปรับรายละเอียดต่างๆ ของเสียง เพื่อนำไปติดตั้งให้แก่ลูกค้าและเพื่อแข่งขัน ทุกวันนี้ เราจะเห็นได้ว่าวงการเครื่องเสียงบ้านเรา เริ่มมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น และมองไปในทิศทางเดียวกันกับผู้บริโภค ซึ่งมีจุดประสงค์เดียวกัน คือ "เสียงที่ถูกต้อง" อันจะนำไปสู่คุณภาพเสียงที่ดีในรถยนต์ต่อไปครับ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ดำคำเพราะ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : เปิดสวิทซ์ (cso)
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/54472
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
เปิดสวิทซ์ (cso)
เปิดสวิทซ์ (cso)
1 Dec 2014
สมาร์ทโฟน
เปิดสวิทซ์ (cso)
1 Oct 2014
CAR STEREO SOUND SESSION
เปิดสวิทซ์ (cso)
2 Sep 2014
งานแข่งคึกคัก
เปิดสวิทซ์ (cso)
1 Sep 2014
CAR STEREO โฉมใหม่ !!
เปิดสวิทซ์ (cso)
2 Jun 2014
ทีวีดิจิทอล ในรถยนต์
เปิดสวิทซ์ (cso)
13 Mar 2014
ระบบคาร์เธียเตอร์
เปิดสวิทซ์ (cso)
4 Dec 2013
คุณภาพเสียง สำหรับนักฟัง
ดูต่อในคอลัมน์ เปิดสวิทซ์ (cso)