พิเศษ(cso)
อุปกรณ์เครื่องเสียง
อุปกรณ์เครื่องเสียง (ACCESSORIES) จัดเป็นส่วนสำคัญสำหรับระบบในเครื่องเสียงรถยนต์ ที่จะต้องนำมาประกอบร่วมกัน เพื่อความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อสัญญาณ ระบบไฟ หรือเพื่อคุณภาพเสียง
หลายๆ ท่าน อาจไม่เห็นถึงความสำคัญของอุปกรณ์เครื่องเสียง เพราะมีผลต่อคุณภาพเสียงน้อยมาก ไม่ถึง 10 % แต่สำหรับนักเล่นที่พิถีพิถันแล้ว เพียงแค่ 5 % ก็ไม่อยากให้เสียไป และที่จะกล่าวถึงก็มีความสำคัญที่ต้องนำมาร่วมติดตั้ง แต่จะเลือกสินค้าคุณภาพระดับไหน ราคาเท่าไร นี่สิสำคัญว่าแล้วก็มาดูกันว่ามีอุปกรณ์ตัวใดบ้าง
สายสัญญาณ RCA
เพื่อระบบที่สูงขึ้น
เพื่อให้สัญญาณจากฟรอนท์เอนด์ เดินทางไปเข้าพรีแอมพ์ อีเลคทรอนิคส์ ครอสส์โอเวอร์ และเพาเวอร์แอมพ์ สัญญาณจากพรีแอมพ์เดินทางไปยังอีเลคทรอนิคส์ ครอสส์โอเวอร์ และเพาเวอร์แอมพ์ จะต้องใช้สายสัญญาณ RCA เป็นตัวเชื่อมต่อ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งความยาว ราคา วัสดุที่แตกต่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ใช้งานสะดวก จากขั้วแจคที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว ทั้งตัวเมียซึ่งจะติดอยู่กับอุปกรณ์เครื่องเสียง และตัวผู้เป็นหัว/ท้ายของสาย
สำหรับผู้ที่ติดตั้งระบบไฮเพาเวอร์ คงไม่เห็นความสำคัญ เพราะตัวฟรอนท์เอนด์สามารถขับลำโพงให้ฟังได้อย่างสบาย ถึงแม้จะไม่ดังมาก หรือมีเสียงเบสส์หนักหน่วง แต่ก็ให้รายละเอียดเสียงได้ดีขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของภาคขยายในตัวเครื่อง
แต่ผู้ที่ต้องเพิ่มเติมอุปกรณ์ ตั้งแต่ระบบ SINGLE-AMP ขึ้นไป หากไม่มีอุปกรณ์ตัวนี้ คงจะจัดชุดไม่ได้ (ยกเว้นฟรอนท์เอนด์ที่ไม่มีพรีเอาท์แบบ RCA ในแอมพ์บางรุ่นมีช่องอินพุทแบบไฮโวลเทจ เป็นขั้วแจค แบบเข็มไว้รองรับ)
วัสดุที่ใช้ในสายสัญญาณ
สายสัญญาณส่วนใหญ่มักจะทำด้วยวัสดุตัวนำที่เป็นทองแดง โดยใช้เทคนิคในหลายขั้นตอน เพื่อให้ทองแดงมีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะออกซิเจน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดสนิมภายในสาย และเป็นต้นเหตุทำให้การนำไฟฟ้านั้นลดลง ดังนั้นผู้ผลิตสายสัญญาณจึงได้ใช้เทคโนโลยีด้า วิศวกรรมศาสตร์ เพื่อให้ทองแดงมีความบริสุทธิ์สูงสุด ดังเช่น สายสัญญาณแบบ OFC (OXYGEN FREE COPPER) หรือสาย LCOFC (LINEAR CRYSTAL OXYGEN FREE COPPER) และสายประเภท PCOCC (PURE COPPER BY OHNO CONTINUOUS CASTING) เป็นสายที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เนื่องจากไม่เกิดสนิมในทองแดง
นอกจากนี้ยังมีการใช้เงินบริสุทธิ์ทำเป็นสายสัญญาณทั้งเส้น แต่ก็มีราคาแพงมาก อีกทั้งยังคิดกันว่ามันไม่คุ้มค่าถ้านำมาใช้งานจริง แต่ก็มีผู้ผลิตบางรายใช้วิธีนำสายทองแดงที่มีความบริสุทธิ์ (OFC) มาชุบด้วยเงินอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็มีนักเล่น และนักฟังบางท่านนิยมหาซื้อมาใช้ในโฮมยูส หรือโฮมออดิโอกันบ้าง แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย กล่าวกันว่าสายประเภทชุบเงินให้เสียงที่จัดเกินไป แต่ก็ให้รายละเอียดที่สูงมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับความนิยมของนักเล่น และนักฟังแต่ละคนมากกว่า
ส่วนการเลือกใช้งานนั้น ราคามักจะขึ้นอยู่กับวัสดุ และความยาว ในเรื่องของวัสดุที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นตัวนำสัญญาณ ฉนวน หรือขั้วแจค ถ้าอยู่ในสภาพปกติ ประสิทธิภาพนั้นส่งผลให้คุณภาพเสียงแตกต่างกันไม่เกิน 5 % ซึ่งฟังออกได้ยาก เพราะฉะนั้นถ้ามีงบประมาณจำกัด ก็ไม่ควรจะลงทุนไปกับสายสัญญาณ ควรจะหันไปเน้นอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นจะดีกว่า ส่วนการเลือกนั้น ให้คำนึงถึงความยาวเป็นหลัก แต่หากมีงบประมาณมากๆ ต้องการชุดไฮเอนด์จริงๆ ก็แล้วแต่ความชอบครับ
สายเคเบิล
กราวน์ด/รีโมท
สายเคเบิล คือ สายสำหรับให้กระแสไฟเดินทางจากแบทเตอรี มายังอุปกรณ์เครื่องเสียง ที่เห็นกันส่วนใหญ่จะทำออกมาเป็นสีแดงนะครับ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของไฟ จำง่าย และปลอดภัย ถ้าไม่ใช่ช่างไฟ เห็นสายสีนี้ไม่จำเป็นอย่าไปยุ่งกับมัน แต่ก็มีบางค่ายอาจใช้สัญลักษณ์แทนสีของสายไฟเป็นสีแดง สีส้ม หรือเหลือง เพื่อความเหมาะสม
สายกราวน์ด คือ สายไฟสีดำ สำหรับให้กระแสไฟเดินครบวงจร โดยกระแสไฟจะเดินทางผ่านสายกราวน์ดเพื่อลงตัวถังรถยนต์ ตรงจุดนี้มีความสำคัญมากทีเดียว เพราะหากกระแสเดินไม่เรียบ หรือประกบติดลงตัวถังไม่สนิทก็จะเกิดเสียงรบกวนได้
สายเคเบิล กับสายกราวน์ดที่ต่อกับตัวอุปกรณ์เดียวกัน ควรมีขนาดเท่ากัน เท่าที่เห็นกันอยู่กับเพาเวอร์แอมพ์ทั่วไปจะมีขั้วต่อขนาด 8 GAUGE ส่วนเพาเวอร์แอมพ์แบบไฮเคอร์เรนท์ หรือ CLASS-D จะมีขั้วต่อขนาด 4 GAUGE
นอกจากสายหลักทั้งสองแล้ว ในอุปกรณ์เครื่องเสียงยังต้องมีสายรีโมท เพื่อเปิด/ปิดเครื่องให้ครบวงจร เนื่องจากการต่อไฟจะครบวงจรอยู่ตลอดเวลาจากแบทเตอรี ทำให้อุปกรณ์เครื่องเสียงเปิดอยู่ตลอด จึงต้องเพิ่มสายรีโมท เพื่อเชื่อมต่อกับตัวฟรอนท์เอนด์ ซึ่งหากไม่เปิดฟรอนท์เอนด์ อุปกรณ์ตัวอื่นก็จะไม่ทำงาน
การเลือกสายเคเบิล สายกราวน์ด และรีโมท ขนาดขึ้นอยู่กับจำนวนอุปกรณ์ และขั้วต่อสาย ความยาวขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างแบทเตอรีมายังตำแหน่งติดตั้ง จากตัวเครื่องไปยังตัวถัง และจากตัวเครื่องไปยังฟรอนท์เอนด์ ส่วนการติดตั้งไม่แนะนำให้ติดเอง ควรให้ช่างผู้ชำนาญทำให้ เพราะเกี่ยวข้องกับระบบไฟในรถยนต์
การเดินสายเคเบิล สายกราวน์ด และรีโมท ควรแยกกับสายสัญญาณ และสายลำโพง เพื่อป้องกันปัญหาเสียงกวน แต่หากมีฉนวนหุ้มป้องกันอย่างดี ก็ไม่มีผลครับ
สายลำโพง
ถูกหรือแพงดี
เป็นสายที่รองรับสัญญาณที่ขยายแล้ว เพื่อให้เดินทางไปยังตัวลำโพง มีให้เลือกหลายรูปแบบตั้งแต่เมตรละ 5 บาท จนถึง 1,000 บาทขึ้นไป มีให้เลือกหลายขนาด วัสดุตัวนำสัญญาณ และฉนวนแต่ละประเภท ทำให้มีราคาที่แตกต่างกัน
สายลำโพงก็มีการนำเอาทองแดงไปผ่านขั้นตอนการผลิตแบบ OFC เช่นกัน เพื่อผลด้านคุณภาพเสียง ถึงแม้ว่าจะไม่เท่ากับการผลิตแบบสายสัญญาณก็ตาม แต่ก็มีผลอยู่มากในด้านของการนำไฟฟ้า ฉะนั้นการเลือกสายลำโพง ให้สังเกตจากสายของตัวลำโพง คือ จากขั้วต่อสายเข้าไปที่วอยศ์คอยล์ จะมองเห็นได้ง่าย ว่ามีขนาดเท่าไหร่ ก็ให้เลือกสายลำโพงที่มีตัวนำสัญญาณขนาดใกล้เคียงกัน หรือใหญ่กว่าเล็กน้อย ส่วนความยาวพยายามให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเดินได้ เพื่อลดความต้านทานในสาย และไม่ควรพาดผ่านกับสายไฟ เพราะจะทำให้เกิดเสียงกวน แต่ถ้าจำเป็นให้ใช้ฉนวนกันเสียงกวนหุ้มในจุดนั้นๆ สายลำโพงนั้น ถ้ามีขนาดพอเหมาะ และไม่ยาวเกินไป ส่วนวัสดุที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อคุณภาพเสียงไม่เกิน 5 % ดังนั้น หากมีงบประมาณจำกัด ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สายลำโพงที่มีราคาสูง
คาพาซิเตอร์
จำเป็นมากแค่ไหน
คาพาซิเตอร์ หรือเรียกย่อๆ ว่า แคพ เป็นอุปกรณ์เพื่อสำรองกระแสไฟจากแบทเตอรี เพื่อป้อนให้อุปกรณ์เครื่องเสียง ในกรณีที่ต้องการกำลังไฟทันทีในบางช่วง เช่น ช่วงสัญญาณทรานเชียนท์ หรือเปิดเล่นหนักๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงที่ดนตรีเน้นพลังมากๆ ทำให้ภาคขยายต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ
และถ้าไฟไม่พอก็จะเกิดอาการคลิพเหมือนกับฟังๆ อยู่เสียงดรอพหายไป ต้องปิดเครื่อง และเปิดใหม่
คาพาซิเตอร์ มีหน่วยความจุเป็น ฟารัด "F" เท่ากับ 1,000,000 ไมโครฟารัด "uF" โดยจะบอกเอาไว้ที่ตัวอุปกรณ์ เช่น 0.5 F ก็คือ 0.5 ฟารัด หรือ 500,000 ไมโครฟารัด ลูกเล่นที่มีให้อาจเป็นโวลท์มิเตอร์ที่ติดมาบนตัวเครื่อง เพื่อติดตั้งแบบโชว์ได้ มักใช้กับเพาเวอร์แอมพ์กระแสสูงอย่าง CLASS D
แต่ปัจจุบันก็นำมาใช้กับตัวฟรอนท์ที่มีกำลังขยายในตัว
กระบอกฟิวส์
ตัวแยกสัญญาณ
เพื่อให้กระแสไฟเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง แยกย่อยไปยังอุปกรณ์หลายๆ ตัว และป้องกันการชอทเสียหาย ทำให้อุปกรณ์ประเภทกระบอกฟิวส์มีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะจากตัวแบทเตอรีมายังอุปกรณ์ เมื่อกระแสสูงเกินฟิวส์ก็จะขาดไปก่อนที่ตัวเครื่องจะเสียหาย แต่ถึงหลุดมาฟิวส์ที่ตัวเครื่องก็จะขาดเช่นกัน แต่ในระบบใหญ่ๆ ควรจะมีฟิวส์รวมไว้อย่างน้อย 1 ชุด ทันทีที่ระบบเสียงไม่ทำงาน ส่วนใหญ่เป็นเพราะกระบอกฟิวส์หลวม หรือแตก ไม่ก็ฟิวส์ขาด ให้เชคที่กระบอกฟิวส์รวมก่อน
ตัวแยกสัญญาณจะเป็นบลอคทองเหลือง หรืออื่นๆ เพื่อให้กระแสไฟเดินทางแยกไปยังอุปกรณ์ตัวอื่น ทั้งนี้สะดวกในการต่อสายเคเบิล สวยงาม และเชคได้ง่าย ถ้าเป็นระบบใหญ่ๆ ควรมีฟิวส์ย่อยแยกอีกนะครับ โดยรวมกล่องฟิวส์ไว้ในจุดเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการเชคว่าตัวไหนขาด ที่สำคัญควรมีฟิวส์สำรองไว้อย่างน้อย 1 ชุด
การเลือกอุปกรณ์ประเภทนี้ ควรเน้นที่การใช้งาน ขนาด ความสะดวก ราคาไม่สูงเกินไป เพราะหากต่อได้ครบทุกจุด วัสดุที่แตกต่างกันส่งผลต่อคุณภาพเสียงน้อยมาก ที่สำคัญเป็นการคำนวณระบบไฟ และขนาดฟิวส์ในแต่ละจุด รวมถึงเครื่องหมาย หรือตำแหน่งหมายเลข ว่าฟิวส์ตัวไหนของอุปกรณ์ตัวใด สำหรับการติดตั้งไม่แนะนำให้ติดตั้งเอง ควรให้ช่างผู้ชำนาญติดตั้ง
แบทเตอรี
เน้นพลังวัตต์
โดยปกติ หากจัดระบบที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป แบทเตอรีเดิมๆ ในรถ ก็ให้แรงดันไฟเพียงพอต่อระบบแล้ว แต่หากจัดระบบขนาดกลางต้องมีเสริมตัวสำรองกำลังไฟ อย่างคาพาซิเตอร์ เพื่อให้ระบบไฟในรถทำงานได้เป็นปกติ แต่หากจัดระบบขนาดใหญ่ แบทเตอรีเพียงตัวเดียว ไม่พอแล้ว
ในหลายๆ ระบบขนาดใหญ่ จะเห็นว่ามีแบทเตอรีเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ลูก วางไว้ที่บริเวณด้านท้ายรถ เพื่อไม่ให้ระบบต่างๆ ในรถเกิดความเสียหาย เพราะเครื่องเสียงไปฉุดไฟจากแบทเตอรีมามากเกินไป ในต่างประเทศอาจมีเทคนิคการจัดวางแบทเตอรีไว้ทางด้านหน้า 2 ลูก ได้ แต่ไม่ว่าจะจัดวางไว้ที่ใด
ต้องเชื่อมต่อระบบให้ครบถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ทั้งกับระบบต่างๆ ในรถ และระบบเครื่องเสียง ซึ่งรถคันนั้น ยังคงใช้งานได้ตามปกติ
แต่สำหรับระบบใหญ่ๆ ในรถโชว์ ที่เน้นพลังมากๆ จะเพิ่มแบทเตอรีอีกกี่ลูกก็ได้ เพื่อให้มีแรงดันไฟเพียงพอกับเพาเวอร์แอมพ์แต่ละตัว อีกทั้งยังเป็นการโพรโมชัน และออกแบบติดตั้งให้สวยงาม เพื่อเปิดโชว์อย่างตื่นตาตื่นใจ ส่วนใหญ่รถโชว์นั้น จะไม่ได้นำมาใช้งานจริง และในการนำไปประกวด อาจต้องนำขึ้นรถบรรทุกไป
สำหรับการเลือกแบทเตอรี มีด้วยกันหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะที่โด่งดังในวงการเครื่องเสียง ก็มี 2-3 ค่าย ราคาแตกต่างกัน ตรงส่วนนี้ แล้วแต่ความจำเป็น และความชอบ ที่สำคัญควรปรึกษากับช่างผู้ชำนาญก่อน และออกแบบระบบให้เรียบร้อยก่อน เมื่อตัดสินใจที่จะติดตั้งระบบนั้นแล้ว จึงค่อยเลือกหาแบทเตอรีกัน และให้ช่างผู้ชำนาญออกแบบติดตั้ง ดีที่สุดครับ
อุปกรณ์เครื่องเสียงหลักๆ คงจะมีแค่นี้ สิ่งสำคัญที่สุดเป็นการเลือกใช้งานให้เหมาะสม คุ้มค่าการออกแบบติดตั้งลงตัว ไม่เกะกะ ไม่เกิดเสียงกวน ที่เน้นๆ ถ้าเป็นพวกสาย ก็ขนาดกับความยาว ถ้าเกี่ยวกับกระแสไฟ แรงดันไฟ คำนึงถึงตัวเลขค่าต่างๆ จุดติดตั้ง ซึ่งต้องนำมาตัดสินใจร่วมกับงบประมาณที่มีอยู่ครับ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพโดย : -
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : พิเศษ(cso)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/54350