ใส่สีใส่สัน
ศึกสเปน
ในทำเนียบภาพยนตร์คลาสสิคด้วยกันนั้น ผมถือว่าภาพยนตร์เรื่อง "FOR WHOM THE BELL TOLLS"ในชื่อไทยว่า "ศึกสเปน" เป็นสุดยอดอีกเรื่องหนึ่งที่น่าเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์หนังดีของคุณ
"ระฆังกังวานเพื่อผู้ใด" นี้เป็นบทประพันธ์ชั้นเยี่ยมของนักประพันธ์ชั้นยอด เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์(ERNEST HEMINGWAY)
เฮมิงเวย์ เป็นนักเขียนที่ใช้ชีวิตอย่างคุ้มสุดๆ เขาเดินทางไปทุกหนแห่ง และสามารถนำประสบการณ์แห่งการเดินทางนั้นมาประพันธ์เป็นเรื่องเป็นราวได้อย่างสละสลวย กินใจคนทั้งโลก
ทั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 ในสนามสู้วัว หรือการผจญภัยของชายคนหนึ่งกับกลางทะเลลึก
สำหรับ "FOR WHOM THE BELL TOLLS" นั้น เฮมิงเวย์จินตนาการมาจากสงครามกลางเมืองในสเปน ช่วงปี 1930เป็นเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างประชาชนผู้เรียกร้องการปกครองในระบอบสาธารณรัฐกับฝ่ายรัฐบาล และผลแห่งสงครามปรากฏว่าประชาชนได้รับชัยชนะ
เฮมิงเวย์ ถ่ายทอดการเผชิญสงครามนี้ให้กับตัวละครเอกที่ชื่อ รอเบิร์ท จอร์แดน (ROBERT JORDAN)ชายหนุ่มชาวอังกฤษซึ่งไปร่วมรบกับประชาชน
โดยคำว่าประชาชนในที่นี้ หมายถึง ทหารและราษฎรสามัญ อีกทั้งพวกยิปซี บ้างก็เป็นหัวหน้าโจรหัวขโมย จอร์แดน เข้าไปในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการวางระเบิด สังกัดนายพล กอลซ์ ภาระหลักของเขาคือ การวางระเบิดสะพานบนเทือกเขา เส้นทางลำเลียงพลของฝ่ายรัฐบาล โดยมีกองกำลังเล็กๆของฝ่ายประชาชนในแถบนั้น เป็นตัวสนับสนุน
ตัวสนับสนุนเอกๆ มีด้วยกัน 4 คน อันเซลโม (ANSELMO) ชายสูงอายุ/อกุสติน (AGUSTIN) ชาวยิปซี/ปาบโล (PABLO) ผู้นำขี้เมาจนอำนาจถูกยึดไปอยู่กับเมียที่ชื่อ ปิลาร์ (PILAR) ผู้เข้มแข็งปานชายอกสามศอก นอกจาก 4 คนนี้แล้ว จอร์แดน ซึ่งแสดงโดย แกรี คูเพอร์ (GARY COOPER) ยังได้พบกับนางเอกที่ชื่อ มารีอา (MARIA) แสดงโดย อินกริด เบอร์กแมน (INGRID BERGMAN)
เป็นสาวน้อยกร้อนผมจนเกรียนเพราะเจ็บใจที่ครอบครัวถูกฆ่าด้วยน้ำมือฝ่ายทหาร
ใน 4 คนนี้ ผมติดใจการแสดงอยู่ 2 คนคือ การแสดงของ อกิม ตามีโรฟฟ์ (AKIM TAMIROFF)ที่แสดงเป็น ปาบโล และ กาตีนา ปาซีนู (KATINA PAXINOU) ซึ่งแสดงเป็น ปิลาร์ เมียเด็ดขาดของเขา(ซึ่ง ปาซีนู ก็ได้รับผลไปตามธรรมเนียม คือได้รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขาผู้แสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม)
พาราเมาท์ ได้ลิขสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์และได้มอบหมายให้ แซม วูด (SAM WOOD) เป็นผู้กำกับการแสดง โดยมี ดัดเลย์ นิโคลส์ (DUDLEY NICHOLS)
เป็นคนเขียนบทภาพยนตร์ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ เฮมิงเวย์
แซม เคยผ่านประสบการณ์ในการกำกับการแสดงมามากเคยเป็นผู้ช่วยของ ซีซิล บี เดอมิลล์เคยไปช่วย วิคเตอร์ ฟเลมมิง กำกับบางฉากของ "GONE WITH THE WIND"
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างเมื่อปี 1943 แต่พอมาถึงปี 1949 แซม วูด ก็ถึงแก่กรรม เป็นเหตุให้แฟนหนังไม่ค่อยจะได้พบผลงานของเขานัก
แกรี คูเพอร์ เป็นพระเอกร่างสูง เขาสูงเกินกว่าหกฟุต เคยแสดงให้กับหนังที่สร้างจากบทประพันธ์ของเฮมิงเวย์ มาแล้ว คือ A FAREWELL TO ARMS (1932) "รักระหว่างรบ" แกรี คูเพอร์ มีการแสดงที่เรียบเฉยแต่ชัดเจนในบทบาท แม้ใน "นาทีหลั่งเลือด" (HIGH NOON) เขาก็ทำให้เกิดความเครียดและเฉียบขาดได้ในการวางเฉยตามบุคลิกของเขา
อินกริด เบอร์กแมน เป็นนักแสดงเชื้อชาติสวีเดน รับบทนี้ด้วยความบังเอิญหลังจากที่เธอเสร็จจากเรื่อง คาซาบลังกา มาหมาดๆ ปรากฏว่า การถ่ายทำ "ศึกสเปน" ที่มี เวรา ซอรินา แสดงเป็น มารีอาจำเป็นต้องชะงัก เพราะ เวรา ไม่ต้องการแสดงอีกต่อไป เนื่องจากต้องขึ้นเขาลงเขาบ่อยครั้ง เป็นอันตรายต่ออาชีพนักบัลเลต์ของเธอ ทางผู้สร้างจึงเรียกให้ เบอร์กแมน มารับบทแทน ซึ่งเธอก็ทำได้ดีเหมาะสมกับบทบาทที่เธอได้รับ
"ศึกสเปน" เปิดฉากด้วยการวางระเบิดขบวนรถไฟของ จอร์แดน และการสูญเสียเพื่อนร่วมงานของเขาอย่างตื่นเต้น
กาตีนา ปาซีนู เป็นนักแสดงชาวกรีก เธอเล่นหนังได้อย่างเฉียบขาด ดุดันเยี่ยงผู้ชายที่เข้มแข็ง เรียกว่ามีพลังอยู่ข้างในเท่าไร ปาซีนู ก็งัดเอาออกมาทุกวินาทีที่กล้องบันทึก ความดุดันของเธอผมยังแปลกใจไม่หายเมื่อได้ยินเธอพูดแต่ละครั้งในหนัง แม้กระทั่งในฉากที่เธอรำพันถึงความดีในอดีตของสามีความดีที่ว่านี้หมายถึงความเป็นลูกผู้ชายตัวจริง
ระหว่างการเป็นนักแสดงภาพยนตร์ในโบราณกาลกับในสมัยนี้ ผมได้เห็นข้อแตกต่างอยู่ข้อหนึ่งคือนักแสดงสมัยก่อนมักแสดงชัดเจนในบทบาทมากกว่าสมัยนี้ ซึ่งทำเป็นธรรมดาสามัญไปหมด
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นหนังในแนวดรามาทิค และได้รับการสนับสนุนอย่างเร้าอารมณ์เหมาะสมโดยวงดนตรีที่นำโดย วิคเตอร์ ยัง (VICTOR YOUNG) เทือกเขาเซียร์รา ในมลรัฐเนวาดา เป็นโลเคชันที่คณะผู้สร้างเลือกไปถ่ายทำ
ว่าก็ว่ากันเถอะครับ หนังประเภทนี้ค่อนข้างหาดูยากในสมัยนี้ แม้จะได้รับการกล่าวขานว่าแต่ละคัทแต่ละตอน เป็นหนังเร้าอารมณ์ไม่มีความเชยสอดแทรก แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับหนังสงครามอย่าง "THE KILLING FIELDS" ที่สร้างหลังจากนั้นมาไม่นาน ก็เทียบกันไม่ได้เลย
และก็กล่าวกันด้วยว่า เจ้าของบทประพันธ์ เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดกับผลงานของภาพยนตร์เรื่องนี้เนื่องจากสร้างได้ไม่ตรงกับบทประพันธ์ของเขาสักเท่าใด โดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองได้ถูก "ฆ่าตัดตอน" ไปหมดสิ้น
เรื่องอย่างนี้ น่าเห็นใจผู้สร้างซึ่ง แซม วูด เป็นผู้อำนวยการสร้างเอง นอกจากเป็นผู้กำกับ และนโยบายหลักของบริษัทภาพยนตร์พาราเมาท์ เจ้าของลิขสิทธิ์
ยากที่เขาจะทำสิ่งใดอันอาจนำไปสู่การกระเทือนสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ "FOR WHOM THE BELL TOLLS" จึงออกมาในลักษณะของความเป็นกลางมากกว่า
ดูแล้วไม่รู้ว่าฝ่ายไหนที่เป็นฝ่ายถูกต้อง และกลายเป็นเพียงเรื่องราวแห่งการต่อสู้ของ
คน 2 กลุ่มที่มีอุดมการณ์ต่างกันเท่านั้น
ขณะที่ เฮมิงเวย์ เจ้าของนวนิยาย เข้าข้างฝ่ายประชาชนเต็มสูบ...
เรื่องโดย : จอสยาม
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/54255