ใส่สีใส่สัน
OUT OF AFRICA
ภาพยนตร์ที่แสดงออกถึงความรักอันซาบซึ้งเรื่องหนึ่ง และได้รับความสำเร็จในผลงาน ก็คือ OUT OF AFRICA โดยซิดนีย์ พอลแลค (SYDNEY POLLACK) เป็นผู้กำกับการแสดงและเป็นภาพยนตร์ในปี 1985 ที่คว้ารางวัลออสการ์ได้ถึง 7 สาขา
ซึ่งนอกเหนือจาก รางวัลสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยมแล้ว เคิร์ท ลุดท์คี (KURT LUEDTKE) ผู้เขียนบทภาพยนตร์ยังได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม อีกทั้ง ลำดับภาพ กำกับฝ่ายศิลป์ ดนตรีประกอบ บันทึกเสียง และนางเอกยอดเยี่ยม กับผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม คือ เมอรีล สตรีพ (MERYL STREEP) และ คเลาส์ มาเรีย บแรนเดาเออร์ (KLAUS MARIA BRANDAUER)
ความสำเร็จน่าจะเริ่มมาจากการเขียนบทภาพยนตร์อันวิเศษของ เคิร์ท ลุดท์คี
เขาเขียนจากเรื่องในหนังสือถึง 5 เล่ม 3 นักประพันธ์ 3 เล่มแรกเป็นหนังสือที่เขียนโดย ไอแซค ไดนีเสน (ISAK DINESEN) คือ OUT OF AFRICA/LETTERS FROM AFRICA และ SHADOW ON THE GRASS ส่วนอีก 2 เล่มได้แก่ ISAK DINESEN: THE LIFE OF A STORYTELLER เขียนโดย จูดิธ เธอร์แมน (JUDITH THURMAN) และ SILENCE WILL SPEAK เขียนโดย เออร์รอล เทรซบินสกี (ERROL TRZEBINSKI)
ซิดนีย์ พอลแลค เริ่มกำกับภาพยนตร์มาแต่ปี 1865 เปิดด้วยภาพยนตร์รัก OUT OF AFRICAของเขาด้วยภาพดวงอาทิตย์โผล่เหนือขอบฟ้า สลับภาพไปมาของหญิงสูงอายุกระสับกระส่ายด้วยอาการตกอยู่ในภวังค์ห้วงแห่งความฝัน พงหญ้าที่มีความสูง ต้นไม้ที่รกและเสียงสวบสาบของคนที่กำลังแหวกทางเดิน
ชายหนุ่มคนหนึ่งสวมหมวกยืนเป็น แบลค ไลท์ อยู่กลางภาพ ทันทีกับเสียงเล่าขานของสตรีคนหนึ่งอดีตอันชัดเจนด้วยภาพที่ระลึกถึง
คาเรน คริสเตนเซ (KAREN CHRISTENCE) แสดงโดย เมอรีล สตรีพ แต่งงานกับ บารอน บรอร์บลิกเซน (BARON BROR BLIXEN) แสดงโดยผู้แสดงสมทบฝ่ายชายคือ คเลาส์ มาเรีย บแรนเดาเออร์เขาทั้ง 2 อพยพมาทำฟาร์มโคนมในแอฟริกา และพิธีแต่งงานของเขาทำกันขึ้นในแอฟริกาสโมสรชาวอังกฤษ ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย คาเรน กลายเป็นคนแปลกหน้าเพราะไม่มีใครเคยรู้จักเธอมาก่อน
ทันทีที่ทราบว่า คาเรน เป็นผู้หญิงชาวเดนมาร์ค เธอก็ถูกถามทันทีว่า เดนมาร์คเป็นเพียงประเทศเล็กๆติดกับเยอรมนี หากมีสงครามเกิดขึ้นเดนมาร์คจะอยู่ข้างใคร ?
"ข้างตัวเองสิ" คาเรน ตอบอย่างคมคาย และตรงความเป็นจริงที่สุด
ซ้ำยังแสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะของเธอว่า เป็นสตรีที่แข็งแกร่ง มีความหยิ่งทะนง
และเต็มไปด้วยความเป็นผู้ดีมีตระกูล
เมื่อ คาเรน พบว่า สามีเปลี่ยนความคิดจากฟาร์มโคนมเป็นไร่กาแฟเธอก็ไม่สบอารมณ์ประกาศความคิดอิสระของเธอกับสามีว่า "ในคราวต่อไป ถ้าคุณตัดสินใจอะไรจงตัดสินใจด้วยเงินของคุณ"
เขาร่วมทุนด้วยกันเพื่อฟาร์มโคนมแต่ต้น เช้าวันต่อมา คาเรน พบว่าสามีของเธอเข้าป่าไปล่าสัตว์โดยไม่มีกำหนดว่าจะกลับมาเมื่อไร คาเรนถึงกลับเดือดดาลแทบเก็บกระเป๋ากลับบ้าน แต่เปลี่ยนความร้อนเป็นความเย็น และอยู่ต่อไปคาเรน เริ่มต้นสู้กับชีวิตด้วยการทำไร่กาแฟ และได้พบพระเอก รอเบิร์ท เรดฟอร์ด (ROBERT
REDFORD) ผู้แสดงเป็น เดนิส จอร์จ ฟินช์ (DENYS GEORGE FINCH)
ความอ่อนหวานกลับมาสู่ฝ่ายหญิงอีกครั้ง และได้ก่อตัวขึ้นอย่างเชื่องช้ากับ เดนิส
มีสงครามเกิดขึ้น สามีและผู้ชายทั้งหลายถูกเกณฑ์ไปร่วมรบ คาเรนจำเป็นต้องเดินทางไปส่งของให้สามีที่ชายแดนทางใต้ของเคนยา ระหว่างทางพบ เดนิส กับเพื่อนๆ
ซึ่งได้พูดทัดทานไม่ให้เธอเข้าไปในเขตพื้นที่อันตราย และต้องการให้
เดนิส ช่วยพูดด้วย แต่เขาไม่ทำเพราะรู้ว่าผู้หญิงอย่าง คาเรน นั้นมีความแน่วแน่เกินกว่าคำทัดทานของเขาหรือของใครคนใดคนหนึ่ง
แทนคำทัดทาน เดนิส กลับมอบเข็มทิศให้กับ คาเรน และ คาเรน ก็ไปถึงที่หมาย
ได้พบสามีและเกิดความสัมพันธ์ขึ้น
ความหวังที่จะมีครอบครัวสิ้นสุดไป เมื่อ คาเรนกลับบ้านไร่พบว่าเป็นโรคซิฟิลิสซึ่งสามีเป็นผู้ยัดเยียดให้เธอจำเป็นต้องกลับเดนมาร์คเพื่อรับการรักษาจนหาย และได้หวนกลับไปแอฟริกาอีกครั้งความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ เดนิส พัฒนาการต่อไป
พร้อมกับการได้พบว่าสามีของเธอนอกใจและเหลือเธอเพียงคนเดียวกับงานในไร่กาแฟ
ถึงตอนนี้ คาเรน กับ เดนิส ก็มีความสัมพันธ์ถึงระดับคาบเส้นศีลธรรมมันเปราะบางพร้อมที่จะถูกฉีกขาดไปเมื่อไรก็ได้ แม้กระนั้นความฝันของ คาเรนที่ต้องการมีครอบครัวก็ยังดำรงคงอยู่ และ คาเรนก็ต้องการอยู่กันอย่างสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ เดนิส พูดกับเธอว่า
"จำไว้นะ ผมจะไม่ใกล้ชิดคุณมากไปกว่านี้ และผมก็จะไม่รักคุณมากขึ้นเพียงเพราะมีใบสมรส"
ในที่สุด ความรักที่เธอคิดว่ามี ก็ไม่มี ไร่กาแฟของเธอเป็นเพียงความผิดพลาดแห่งชีวิตจนต้องขายทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งไป บากหน้ากลับเดนมาร์ค ประเทศเล็กๆ ที่ติดเยอรมนี
ความทรงจำแห่งชีวิตไปรวมอยู่ที่ การกลับเดนมาร์คในปี 1931 ของ คาเรน
และเริ่มต้นเขียนบันทึกโดยใช้นามปากกา "ไอแซค ไดนีเสน" (ISAK DINESEN) และได้เสียชีวิตลงในปี1962 รวมอายุ 77 ปี ซึ่งตลอดเวลาในระยะหลังนี้ คาเรนไม่เคยได้หวนกลับไปแอฟริกาอีกเลย
เมอรีล สตรีพ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเป็นครั้งที่ 4 ด้วยบทบาทของ คาเรน ผู้หญิงที่มีบุคลิก นิ่ง ลึกและแฝงความมาดมั่นในท่วงท่าและแววตา
การแสดงสีหน้าเรียบเฉยวางความมีอำนาจและความเข้มแข็งอยู่ข้างหลัง เมอรีล
สตรีพทำได้อย่างมีเสน่ห์
สำหรับ รอเบิร์ท เรดฟอร์ด เทพบุตรอเมริกันถูกวิจารณ์แต่แรกว่ามารับบทของสุภาพบุรุษชาวอังกฤษได้อย่างไรกัน ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นอเมริกันบอยแท้แต่เขาก็แสดงบทบาทของ เดนิส ได้อย่างเรียบประดุจผืนไหม
ผมชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากอีกเรื่องหนึ่ง และสามารถกำหนดได้เลยว่า ภาพยนตร์ที่ทำเงินได้นั้นส่วนมากแล้วหนีภาพยนตร์รักไปไม่ได้อย่างแน่แท้
คุณล่ะ อย่างน้อยมีเก็บไว้ในรถยนต์ของคุณแล้วหรือยัง ?
เรื่องโดย : จอสยาม
ภาพโดย : -
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2547
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/54193