ใส่สีใส่สัน
AN AMERICAN IN PARIS
ผมดู "AN AMERICAN IN PARIS" ที่โรงภาพยนตร์ ศรีเยาวราชและเป็นภาพยนตร์ที่ประทับใจเด็กหนุ่มอย่างผมเป็นอันมาก
สมัยนั้น ผมเรียนธรรมศาสตร์กางเกงร้อนที่สุดของยุคเป็นกางเกงขายาวตัดขาสั้นมากเพื่อโชว์ถุงเท้าหลากสีสัน จากธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ผมใช้รถรางเดินทางไปและกลับ
AN AMERICAN IN PARIS เป็นหนังเพลงจากค่าย MGM สิงโตคำราม สร้างเมื่อปี 1951ซึ่งเป็นปีที่กำลังเข้ายุคทองของภาพยนตร์เพลง ดารานักร้องนักเต้นที่ยิ่งใหญ่เกิดมาร่วมสมัยหลายต่อหลายคน ทั้ง ฟเรด แอสแตร์ (FRED ASTAIRE) จีน เคลลี (GENE KELLY) จูดี การ์แลนด์ (JUDY GARLAND)วินเซนท์ มินเนลลี (VINCENTE MINNELLI) เป็นต้น
หนังเพลงยุคนั้นถือเป็นความวิจิตรงดงามจากฮอลลีวูด ทุกอย่างลงตัวได้ดีเป็นส่วนมากหนังเพลงหลายเรื่องเดินทางเข้าสู่ห้วงใจของนักดูหนังอย่างสบายๆ เช่น SEVEN BRIDES FOR SEVEN BROTHERS"เจ็ดคู่ชู้ชื่น" เป็นตัวอย่าง
วินเซนท์ มินเนลลี เป็นผู้กำกับการแสดงที่มีพื้นฐานในทางศิลปะอย่างเพียบพร้อม เขาเลือกเอา จีนเคลลี นักแสดงผู้ยิ่งยงของวงการหนังเพลงมาเป็นดาราแสดงนำในเรื่องนี้
ผลลัพธ์ก็คือ ในวันที่ 20 มีนาคม ปี 1952 ณ โรงภาพยนตร์ อาร์เคโอ แพนเทจ ในลอสแองเจลิส สถานที่จัดงานประกาศผลการตัดสินรางวัลตุ๊กตาทอง ครั้งที่ 24 ภาพยนตร์เพลงเรื่อง AN AMERICAN IN PARIS คว้ารางวัลไปถึง 6 สาขา
ทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ลำดับภาพยอดเยี่ยม
กำกับฝ่ายศิลป์ยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม
แถมยังมีรางวัลพิเศษมอบให้ จีน เคลลี พระเอกของเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ
ตอบแทนความสามารถพิเศษของเขาทั้งเต้นทั้งแสดง และการออกแบบท่าเต้น
AN AMERICAN IN PARIS เนื้อหาว่าด้วยมหานครปารีสในปี 1945
เปิดตัวละครสามตัวเอกตั้งแต่ต้นเรื่องได้แก่ จีน เคลลี ผู้แสดงเป็น เจอร์รี มัลลิแกน (JERRY MULLIGAN) นักวาดภาพอเมริกันไส้แห้งออสการ์ เลแวนท์ (OSCAR LEVANT) แสดงเป็น อดัม คุค (ADAM COOK) นักเพียโนผู้เครียดกับชีวิต และ
จอร์จ เกทารี (GEORGES GUETARY) แสดงเป็น เฮนรี โบเรล (HENRI BAUREL)
นักร้องหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จในการร้องเพลง
ทั้งสามคนเป็นสหายรักกันและกัน เจอร์รี กำลังถังแตกได้พบกับเศรษฐีนี ผู้ต้องการอุปถัมภ์โดยซื้องานของเขาและยินดีช่วยเหลือทางด้านไฟแนนศ์ แต่ เจอร์รี
ไม่มีจิตตอบโต้เพราะเขากำลังมีความรักเบ่งบานกับสาวน้อยลีซี บูวีเอร์ (LISE BOUVIER) แสดงโดย เลสลี คารอน (LESLIE CARON))โดยหารู้ไม่ว่าเธอก็คือคู่หมั้นของ เฮนรี
แต่ในที่สุด ความรักของ เจอร์รี ก็ประสบความสุข เนื่องจาก เฮนรี เป็นฝ่ายเสียสละ
พื้นฐานของเรื่องจึงหนีไม่พ้นประเด็น ความรักเป็นใหญ่ครองโลก สามารถชนะทุกสิ่ง
ไม่ว่าความร่ำรวยล้นฟ้าของเศรษฐีนี หรือความเพียบพร้อมในทางชื่อเสียงและความสำเร็จของนักร้องที่ชื่อ เฮนรี
ยุทธศาสตร์ของหนังเพลง การบอกเล่าของหนังเพลงนั้นได้เปรียบมากที่จะสะกดคนดูให้ลืมความทุกข์ยากแห่งชีวิตของตัวละครตามท้องเรื่องได้อย่างสนิทใจ และพร้อมกันก็ดูดดึงให้เข้าไปสู่โลกแห่งความฝันจินตนาการอันบรรเจิด ความงดงามจากแผ่นภาพและบทเพลง ท่วงทำนองอันลึกซึ้งสุดขีด
ผมชอบการแสดงของ จีน เคลลี และเป็นแฟนมาหลายเรื่องทั้งหนังเพลง และหนังแอคชันเช่น"สามทหารเสือ" (THE THREE MUSKETEERS) หรือ "ระบำสายฝน" (SINGIN' IN THE RAIN)
จีน เคลลี ไม่ใช่พระเอกหน้าตาหล่อมากนัก แถมซุ่มเสียงของเขายังแหลมกวนๆ
ผิดกับพระเอกหล่อที่สุดของสมัยนั้นคือ รอเบิร์ท เทย์เลอร์ (ROBERT TAYLOR)
สำหรับ เลสลี คารอน ถูกกำหนดว่าเป็น ลูกเป็ดขี้เหร่เธอสวยไปอีกแบบหนึ่งไม่ใช่เป็นนางฟ้ามาจากสวรรค์แต่การแสดงของเธอยอดเยี่ยมไปทุกเรื่อง
น่าเสียดายที่ผู้กำกับการแสดงคือ วินเซนท์ มินเนลลี ไม่ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขากำกับยอดเยี่ยมโดยเพียงเข้าชื่อเสนอชิงและแพ้ให้กับ จอร์จ สตีเวนส์ (GEORGE STEVENS)ผู้มีผลงานด้านกำกับยอดเยี่ยมจากเรื่องA PLACE IN THE SUN หนังชีวิตขาวดำเข้าฉายที่โรงภาพยนตร์โอเดียน
วินเซนท์ มินเนลลี เป็นเจ้าของผลงานหลายเรื่อง รวมทั้ง MEET ME IN ST. LUUIS, THE BAND WAGON, LUST FOR LIFE และ GIGI เกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปี 1910 โตมากับครอบครัวศิลปิน ชีวิตคลุกคลีกับการแสดงในย่านมิดเวสต์มาตลอด เขาเริ่มกำกับงานชิ้นแรกให้กับละครเพลงในปี 1931(อายุเพียง 21 ปี) ต่อมาก็ได้รับการเซ็นสัญญากำกับภาพยนตร์ให้ MGM
เป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่า เพราะเหตุใดงานของเขาจึงงดงาม และตระการตาเสียเป็นส่วนมาก
ใน AN AMERICAN IN PARIS วินเซนท์ มินเนลลี อาศัยฉากแห่งจินตนาการ
เป็นห้วงเวลาแห่งการปลดปล่อยความปรารถนาของตัวละครหลายฉาก หลายครั้ง เช่น ตอนที่ อดัมนักเพียโนฝันไปว่า เขาได้แสดงคอนเสิร์ทโดยมีตัวเองเป็นสารพัด เป็นนักดนตรีทั้งวง เป็นผู้อำนวยการเพลง และเป็นคนดู
ฉากเต้นรำในจินตนาการของ เจอร์รี พระเอกหนุ่ม ที่กินเวลาฉายนานถึง 17 นาที
เป็นฉากเดียวที่โชว์ความสามารถเฉพาะตัวของ วินเซนท์ มินเนลลี เบื้องหลังการถ่ายทำเล่าว่า เฉพาะฉากนี้ฉากเดียว บริษัทMGM ลงทุนถึง 4.5 แสนเหรียญ และมันก็คุ้มค่า ได้รับการกล่าวขานยาวนาน
ส่วนพระเอกเสียงแหลมลึก จีน เคลลี ได้โชว์ความสามารถของเขาครบรูปแบบของเพลงทั้งเต้นและแสดงทั้งแทพ และบัลเลท์ แต่ละฉากเพลงไม่ว่าจะเป็นเพลง EMBRACEABLE YOU หรือเพลง NICE WORK IF YOU CAN GET IT และฉากโรแมนทิคริมแม่น้ำเซนท์ในเพลง OUR LOVE IS HERE
ผมดูหนังเพลงเรื่องนี้ หรืออีกหลายๆเรื่องของฮอลลีวูดแล้วก็มีความเสียดายที่ศิลปะเหล่านี้ได้เลือนหายไปจากจอภาพยนตร์ปัจจุบัน ทุกวันนี้มีแต่ความโหดเหี้ยม สมบุกสมบันห้ำหั่นกันราวกับว่าเป็นหนังการ์ตูนทำอย่างไรไม่มีตายเหมือนหนังการ์ตูน ทอมกับเจอร์รี มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ กาลเวลาเปลี่ยนไป ศิลปะการสร้างภาพยนตร์เปลี่ยน โลกทั้งใบที่หมุนเร็วเต็มไปด้วยเทคโนโลยี
ก่อนนี้เข็มตกที่ไหนได้ยินกันเฉพาะตรงนั้น แต่ทุกวันนี้เข็มตกที่ไหนโลกทั้งโลกเห็นหมดและได้ยินกันทั้งหมดครับ...!
เรื่องโดย : จอสยาม
ภาพโดย : -
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/54158