ใส่สีใส่สัน
โรมันรำลึก
หนังเกี่ยวกับชีวิตนักข่าวคือ IT HAPPENED ONE NIGHT กับ ROMAN HOLIDAY เป็นหนังที่ผมชอบมากทั้งสองเรื่อง และมีไว้ในครอบครอง
เรื่องแรกผมไม่ได้ดู เพราะสร้างตั้งแต่ปี 1934 แต่ตอนหลังมาได้ดูจากวีดีโอเทปเรื่องที่สองได้ดูจากโรงภาพยนตร์นิวโอเดียน สามแยก ดูเหมือนจะมีชื่อไทยว่า "โรมันรำลึก"
IT HAPPENED ONE NIGHT เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่าง คลาร์ค เกเบิล (CLARK GABLE) พระเอก กับ คลอเดทท์ โคลเบิร์ท (CLAUDETTE COLBERT) นางเอก ผลงานของ แฟรงค์ คาพรา (FRANK CAPRA) ซึ่งเป็นผู้กำกับการแสดง โรเบิร์ท ริสกิน (ROBERT RISKIN) เขียนบทภาพยนตร์มาจากนวนิยายเรื่อง "NIGHT BUS" ของ แซมวล ฮอพกินส์ อดัมส์ (SAMUEL HOPKINS ADAMS)
เป็นงานระดับคลาสสิคของผม และฟาดรางวัลตุ๊กตาทองไปถึง 6 สาขา คลาร์ค เกเบิลได้สาขาพระเอกยอดเยี่ยม คลอเดทท์ โคลเบิร์ท ได้นางเอกยอดเยี่ยม โรเบิร์ท ริสกิน ได้เขียนบทยอดเยี่ยม แฟรงค์ คาพรา (FRANK CAPRA) ได้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม และยังได้รางวัลใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อีกด้วย
คอนเซพท์ของเรื่อง เป็นแนวตลกเสียดสี ที่เรียกว่า SATIRE ความแตกต่างระหว่างดอกฟ้ากับหมาวัดพระเอกเป็นหมาวัด เป็นนักข่าวกำลังโดนบรรณาธิการรอลงดาบไล่ออกนางเอกเป็นลูกสาวอัครมหาเศรษฐี
พ่อนางเอกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ตนเองไม่รัก จึงลอบหนีจากที่กักขังบนเรือยอชท์ว่ายน้ำขึ้นฝั่งไปขึ้นรถบัสข้ามรัฐเพื่อไปนิวยอร์ค ก็ได้พบกับพระเอก พ่อนางเอกให้เงินรางวัลสูงเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นเหตุให้พระเอกตามทำข่าวทั้งสองอยู่บนรถบัสด้วยกันเป็นเวลาหลายวันหลายคืน ไปตามท้องเรื่องเพื่อให้คนทั้งสองเกิดสัมพันธ์จนกลายเป็นความรัก
นางเอกกลับไปแต่งงาน พระเอกตอนแรกหวังได้เงินค่ารายงานข่าวแบบเอกซ์คลูซีฟจากสำนักงานเป็นก้อนโต ก็เปลี่ยนใจไม่เอาสุดท้ายมาขอเก็บเงินจากพ่อนางเอกเป็นค่าใช้จ่ายไม่กี่สลึงเฟื้องที่ตนเองได้ออกไปให้กับนางเอก
แฮพพีเอนดิง หมาวัดได้กับดอกฟ้า ในที่สุด นักข่าวได้ลูกสาวอัครมหาเศรษฐีระดับพันล้าน
สองคนนี้แสดงกันได้ดีมาก การดำเนินเรื่องเป็นไปด้วยท่วงทำนองตลกเสียดสี แม้จะเป็นเรื่องอยู่ในวงจำกัดเพราะเป็นแค่การเดินทางบนรถบัสแต่ก็ดูได้ไม่เบื่อ
ROMAN HOLIDAY ก็เป็นหนังขาว/ดำเหมือนเรื่องแรก ดาราแสดงนำคือ เกรกอรี เพค (GREGORY PECK) และ ออเดรย์ เฮพเบิร์น (AUDREY HEPBURN) และเป็นผลงานของบรมครู วิลเลียม ไวเลอร์ส (WILLIAM WYLERS) ผู้กำกับการแสดงมือทองของฮอลลีวูด
เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่าง ดอกฟ้ากับหมาวัด อีกจนได้ พระเอกเป็นนักข่าวไส้แห้ง นางเอกเป็นเจ้าหญิงแสนสวยจากประเทศสมมติประเทศหนึ่งในภาคพื้นยุโรป
เสด็จมาถึงอิตาลี พบนักข่าวอเมริกันเพราะคืนหนึ่งหนีออกมาจากสถานที่ประทับเกิดสัมพันธ์และกลายเป็นความรักไปในที่สุด เรื่องนี้จบแล้วพระเอกนางเอกไม่ได้กันเพราะต้องกลับไปหาความจริง คือกลับไปเป็นเจ้าหญิง เสด็จไปยังประเทศอื่นต่อไปอีก
งานนี้คนเขียนเรื่องคือ เอียน แมคเคลแลน ฮันเตอร์ (IAN MCCLELAN HUNTER) ร่วมหัวกับนาย ดาลทัน ทรัมโบ (DALTON TRUMBO) เขียนกันขึ้นมา เสร็จแล้วกะว่าจะให้ แครี แกรนท์ เป็นพระเอก และให้ อลิซเบธ เทเลอร์ เป็นนางเอกแล้วให้ แฟรงค์ คาพรา ที่ได้ชื่อเสียงมาจากเรื่อง IT HAPPENED ONE NIGHT เป็นผู้กำกับ
แต่แล้วงานที่ออกมากลับเป็นคนอื่นไปหมด และวิลเลียม ไวเลอร์ส ก็ทำได้ดีจนไม่มีใครคาดถึงหนังเรื่องนี้ บริษัทภาพยนตร์พาราเมาท์สร้างขึ้นในปี 1953 เป็นห้วงเวลาที่ เกรกอรี เพคอยากเล่นหนังเบาๆ ดีๆ สักเรื่อง ซึ่งเขาก็แสดงได้ดีคู่กับ ออเดรย์ เฮพเบิร์น กระจุ๋มกระจิ๋มกันไปทั้งเรื่อง
ประโยคดีที่สุดที่เจ้าหญิงรับสั่ง เมื่อกลับมาเป็นเจ้าหญิงเหมือนเดิม ผมยังจำได้
"โปรดอย่าใช้คำว่า ต้องสำนึกในหน้าที่ กับฉัน เพราะเหตุว่าถ้าฉันไม่สำนึกในหน้าที่ของฉันเองต่อประเทศ และประชาชนแล้ว พูดได้เลยว่าฉันจะไม่มีวันกลับมา"
บ่งบอกถึงความเข้าใจในสถานภาพ ภาระและหน้าที่ พร้อมๆ กับการสูญเสียสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต
วิลเลียม ไวเลอร์ เป็นคนสูงแค่ 5 ฟุตกับ 8" เสียชีวิตเมื่อปี 1981 แต่งงาน 2 ครั้งครั้งแรกหย่ากันเมื่ออยู่ร่วมกันเพียง 2 ปี ถัดจากนั้นอีกปีเศษก็แต่งใหม่กับ มากาเรท ทาลลิเชทมีบุตรด้วยกัน 4 คน อยู่กันจนตายไปข้างหนึ่ง
เขาเคยพูดประโยคดีๆ ไว้บ้าง อาทิเช่น "ผมมาที่นี่ ฮอลลีวูด เพื่อทำหนังดีๆ ถ้าผมมองไม่เห็นมัน ผมก็จะไม่แตะ ผมอาจทำหนังดีๆ ไม่ได้ แต่ผมก็มีความเชื่อของผม"
เพราะเขาเป็นแบบนี้ เขาจึงไม่ขอกำกับการแสดงภาพยนตร์เรื่อง "THE SOUND OF MUSIC" ซึ่งเขาบอกว่า เพราะเขามองความดีของคนที่เป็นนาซีไม่เห็น เขาจึงทำหนังเรื่องนี้ไม่ได้
"ผมทำหนังคาวบอยมา 40 เรื่อง" อีกประโยคหนึ่งของเขา "บางคืนผมนอนไม่หลับเพราะมัวคิดแต่ว่าจะมีวิธีใหม่ๆ บ้างไหมในการขึ้นขี่ม้าและลงจากหลังม้า"
ชื่อจริงนามสกุลจริงของเขาคือ วิลเฮลม์ ไวลเลร์ (WILHELM WEILLER) นักแสดงระดับดาราหลายคนล้วนแล้วแต่เคยร่วมงานกับเขา ทั้ง จอห์น บาร์รีโมร์/เบทที เดวิส/ฮัมฟรี โบการ์ท และ เมอร์นา ลอย เขาเกิดที่ประเทศเยอรมนีในปี 1902 ครอบครัวของเขาเป็นชาวยิว
เขาสนใจ และชอบในศิลปวัฒนธรรมของอเมริกัน จนญาติต้องพาตัวมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่ออายุได้ 19 ปี เริ่มทำงานในโรงถ่าย และภายในเวลา 5 ปีต่อมาเขาก็กลายเป็นผู้ช่วยผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์คาวบอยของฮอลลีวูด
งานชิ้นสำคัญที่สุดในโลกแห่งภาพยนตร์ก็คือ "เบน-เฮอร์" ในปี 1959 ความยิ่งใหญ่มโหฬารที่ลงตัวหมดทุกด้าน ตั้งแต่บทภาพยนตร์จนถึงการแสดง ตั้งแต่ฉากเล็กที่สุดถึงฉากใหญ่ที่สุด เป็นที่กล่าวขวัญกันไม่รู้ลืม และสามารถคว้ารางวัลออสการ์ได้มากถึง 11 สาขา
แม้ในปัจจุบันนี้ "BEN-HUR" ก็ยังเป็นหนังคลาสสิคที่คุณน่าเก็บไว้ชมในรถคันรักของคุณ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53907